fbpx

ก้าวไกลเลือกใช้กลไกทางสภาฯ แทนร้องศาลรธน.

รัฐสภา 16 ส.ค.-“รังสิมันต์” ยัน “พิธา”  ไม่ยื่นศาลรธน.ให้ตีความญัตติไม่ให้เสนอชื่อซ้ำ แต่จะใช้กลไกสภาฯ เดินหน้าญัตติให้ทบทวนมติรัฐสภาที่ไม่ให้เสนอชื่อซ้ำแทน


นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล  แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอวินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง ขัดต่อ รธน.หรือไม่  เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงว่า คำวินิจฉัยที่ออกมาเท่ากับว่าศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้พิจารณาในเนื้อหาสาระ ซึ่งถือเป็นเรื่องเทคนิคและกระบวนการ และพรรคก้าวไกลก็เล็งเห็นถึงกรณีนี้ ว่าเป็นเรื่องที่รัฐสภา สามารถพิจารณากันเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้องค์กรภายนอกวินิจฉัย โดยหากสิ่งใดที่ทำไปแล้วไม่ถูกต้อง โดยหลักการสภาก็มีอำนาจในการวินิจฉัย และพวกตนก็ได้มีมติในการเสนอญัตติ ให้รัฐสภาทบทวนญัตติที่ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธาซ้ำ ดังนั้นในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ทางพรรคก้าวไกลก็ยืนยันที่จะเสนอญัตติดังกล่าวต่อ และเชื่อว่ากระบวนการตรงนี้จะทำให้สภาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงก็จะ ไม่มีการยื่นคำร้องด้วยตัวเองให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

” ราไม่ยื่นแน่นอนและความจริงเราพูดหลายครั้งว่าเราโดนเป็นเป้าของการเสนอไม่ให้เสนอนายกฯ ซ้ำ เราโดนกับตัวเราเองและเราก็ยืนยันมาโดยตลอดว่ากิจการตรงนี้เป็นกิจการของสภา ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรจะเข้ามา ก็เลยเป็นกระบวนการที่เราอยากจะใช้กลไกของสภา นี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้นก็จะไม่เห็นคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เสนอเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเสนอญัตติดังกล่าวไม่ใช่การตีรวนทางการเมือง เพราะทุกคนทราบดีว่าถ้าก้าวไกลไม่อยู่ในสถานะที่จะเสนอเพื่อให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะนายพิธาไม่ได้อยู่ในจุดนั้นแล้ว แต่เห็นว่าเป็นหลักการที่ถูกต้องและเป็นหลักการตามรัฐธรรมนูญ โดยหวังว่าการเสนอตรงนี้จะทำให้สภาฯ ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น เพราะยืนยันว่าสถานะของการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ จะต้องมีสถานะตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ว่าเสนอไปแล้วไม่ผ่านรอบแรก จะทำให้สถานะนั้นไม่มีอีกแล้ว ซึ่งถือเป็นการเล่นการเมืองโดยไม่พิจารณาบนพื้นฐานข้อเท็จจริงตามกฎหมาย

“ขอยืนยันว่าการเสนอแคดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจากพรรคใดหากไม่ผ่านรอบแรก ก็ควรจะมีสิทธิ์เสนอได้อีก ดังนั้น การเสนอของพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ ไม่ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ก็ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น เว้นแต่จะมีบางพวก บางกลุ่มที่ต้องการวางหมากให้การเสนอนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว เพื่อให้พรรคการเมืองอย่างพรรคก้าวไกลไม่ผ่านและพรรคการเมืองบางพรรคไม่ผ่าน และหวังว่าตัวเองจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ หรืออีกทางหนึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่นายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภา เชื่อว่าการเสนอให้โหวตนายกรัฐมนตรีได้เพียงครั้งเดียวไม่ใช่เจตนาดีแน่ๆ เพราะการที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำไม่ได้ เราก็จะเริ่มห่างไกลจากรัฐบาลที่สะท้อนเสียงของประชาชนไปเรื่อยๆ  สุดท้ายจะได้รัฐบาลที่ไม่ได้เป็นหน้าตาที่ประชาชนต้องการ ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ทำลาย การเมืองแบบรัฐสภาและทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนอย่างรุนแรง” นายรังสิมันต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบ 3 สาว รับจ้างขนยาบ้า 2 แสนเม็ด จนมุมด่านวังประจบ

ตำรวจแกะรอยรวบ 3 สาววัยรุ่น ขับกระบะขนยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด จากชายแดนเชียงราย สุดท้ายจนมุมด่านวังประจบ จ.ตาก สารภาพได้ค่าขนลำเลียง 1 แสนบาท แบ่งกัน 3 คน

เปิดคลิปทอร์นาโดในสหรัฐพังตึกเหลือแต่ซาก

ลิงคอล์น 6 พ.ค.- รอยเตอร์เผยแพร่คลิปจากกล้องติดรถยนต์เห็นทอร์นาโดพัดผ่านลานจอดรถและอาคารหลังหนึ่งในรัฐเนแบรสกา ในเขตมิดเวสต์ ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของสหรัฐ ทำให้อาคารพังเหลือแต่ซาก คลิปที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 26 เมษายน เห็นช่วงเวลาที่ทอร์นาโดเคลื่อนผ่านลานจอดรถและอาคารหลังหนึ่งในเมืองลิงคอล์นด้วยความเร็วสูงถึง 254 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายอาคารพังเหลือแต่ซากภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเวลา 15:07:45-15:08:57 น. สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คนทำงานสิบกว่าคนหลบอยู่ในอาคารหลังนี้ในช่วงที่ทอร์นาโดพัดผ่าน แต่ทุกคนรอดปลอดภัย สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐแถลงว่า ทอร์นาโดลูกนี้เป็น 1 ในทอร์นาโด 19 ลูกที่พัดถล่มสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและธุรกิจทั่วรัฐเนแบรสกา รัฐโอคลาโฮมา และรัฐไอโอวาเมื่อสัปดาห์ก่อน มีผู้เสียชีวิต 1 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หอการค้าไทย คัดค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ 

หอการค้าไทยและสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น คัดค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ยันจุดยืน เอกชนไม่ได้มีความพร้อมทุกราย 

“พิชัย” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เอาฤกษ์เอาชัยทำงานวันแรก

“พิชัย” เข้าทำเนียบสักการะพระพรหม-ศาลตายาย  เอาฤกษ์เอาชัยเข้าทำงานวันแรก ก่อนลุยงาน ก.คลัง เตรียมแบ่งงาน รมช.บ่ายนี้ เตรียมคุยผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ 

อุตุฯ เผยประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยบริเวณประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และด้านตะวันออกของภาคเหนือและภาคกลาง ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ค. 67 แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย