รทสช.ไม่ยึดติดเก้าอี้ รมต. ขอแค่ไม่แตะ 112

รวมไทยสร้างชาติ 15 ส.ค.-“เอกนัฏ” เผยเพื่อไทยยังไม่ติดต่อเรื่องร่วมรัฐบาล รทสช. ไม่ติดใจชื่อ “เศรษฐา -อุ๊งอิ๊ง” โหวตนายกฯ ย้ำชัดต้องไม่แตะ ม.112 ไม่ยึดติดตำแหน่ง-กระทรวง


นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อ ทราบจากข่าวว่าจะเชิญ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มี ซึ่งเท่าที่ฟังจากข่าวคาดว่าจะติดต่อมา ส่วนจะเร็ว ๆ นี้หรือไม่ ไม่ทราบ

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่ามีการแบ่งสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เป็นข่าวที่ปล่อยกัน มั่วกันไปหมด ถึงเวลานี้ยังไม่มีการต่อรอง เรื่องของเก้าอี้หรืออะไรทั้งสิ้น หรือแม้กระทั่งเขาลือที่ออกมาว่าจะต้องเอาคนนั้นออก คนนั้นไม่เข้า ไม่เป็นความจริงเลย การตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะอยู่บนหลักการที่เราได้ประกาศไปแล้วต่อสาธารณะว่าต้องไม่มีเรื่องของ ม. 112 และไม่มีพรรคก้าวไกล หลังจากนั้นเราก็พร้อมพูดคุย การตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมอยู่บนหลักการ เราไม่แคร์เรื่องของตำแหน่งหรือกระทรวง แม้จะเป็นฝ่ายค้านเราก็พร้อม


เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรจะได้กี่เก้าอี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่คิดอะไรเลย ไม่ได้อยู่ในใจว่าจะต้องได้เท่าไหร่ แต่คิดก่อนว่าหากประสานมา การจะร่วมหรือไม่ต้องอยู่บนพื้นฐาน และรัฐบาลต้องมีความชัดเจน ในเรื่อง ม. 112 ว่าจะไม่ผลักดันต่อ และอาจมีเงื่อนไขเรื่องอื่น เช่น การทำงานร่วมกันในอนาคต นโยบาย ที่ต้องเร่งดำเนินการ ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทุกคนต้องคิดถึงประเทศเป็นหลัก

“เรามีส.ส.เพียง 36 คน คงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ถ้าในที่สุดมีการพูดคุยกัน และเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติไปร่วมรัฐบาล เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี เงื่อนไขจะอยู่บนหลักการทั้งหมดไม่มีการเจรจาต่อรองตำแหน่ง หรือมาลงรายละเอียดเรื่องของบุคคลแน่นอน” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่จะโหวตนายกฯ ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันทีหลัง ตามแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา นายเอกนัฏ กล่าวว่า  การโหวตหรือไม่โหวต ต้องดูเงื่อนไขและผลของการพูดคุยก่อน สำหรับเราพร้อมให้ได้หมด ไม่ติดใจเรื่องกระทรวง รวมถึงเรื่องบุคคล แต่หลักการต้องชัดเจน เรื่องนี้มันทำยากและง่ายสำหรับบางพรรคกว่าจะตกลง ให้ตกผลึกได้ข้อสรุป ต้องลงรายละเอียดถึงขั้นว่า กระทรวงไหนเป็นใคร ของเราไม่มี


เมื่อถามว่า หากเพื่อไทยเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสินหรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร  โหวตนายกฯ ยังติดใจเรื่องอะไรหรือไม่ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกัน มันอยู่ที่พฤติกรรมของคน ว่าตกลงแล้จะยืนยันชัดเจนหรือไม่ว่า จะไม่ผลักดันเรื่องของ ม. 112 และอาจจะมีเรื่องของภารกิจแรก ที่รัฐบาลต้องทำ รวมถึงมาตรฐานของรัฐบาล ในเรื่องของความโปร่งใส จะเป็นอย่างไร ต้องวางกฎกติกาไว้ล่วงหน้าก่อน ก่อนจะคบกันก็ต้องคุยกัน ส่วนจะตัดสินใจได้ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ ไม่ทราบเพราะยังไม่ได้คุย

นายเอกนัฏ กล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ในวันนี้ถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นการพูดคุยกันตามปกติ ซึ่งเราพูดคุยภายในกันตลอด พยายามสื่อสารให้ส.ส.ในพรรคเข้าใจสถานการณ์และเงื่อนไขที่เราต้องตัดสินใจ เพราะเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ที่จะส่งผลต่ออนาคตของประเทศ ต้องปรึกษาหารือกันในพรรคให้ชัดเจนร์ก่อน

“ส่วนกระแสข่าวเรื่องความแตกแยกภายในพรรคนั้น เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีปัญหา แต่สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ คนที่มาอยู่ด้วยกัน ทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ว่าจะตัดสินใจไปทางไหน ผมได้รับคำยืนยันจากสมาชิกพรรคทุกคนว่าจะไปพร้อมกัน ดังนั้น ไม่ต้องกังวล” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

เมื่อถามว่ามีการปิดประตูหรือตั้งแง่หากพรรคเพื่อไทยติดต่อมาหรือไม่ นาบเอกนัฏ กล่าวว่า คงต้องคุยกัน เพราะครั้งที่แล้วเขาเชิญมาเราก็ไป เป็นพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งด้วยกันก็คุยกันได้.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย