ก้าวไกลเดือด! “วันนอร์” สั่งปิดประชุม

รัฐสภา 4 ส.ค.-ก้าวไกลยืนยันเสนอญัตติด่วนทบทวนมติ 19 ก.ค. ทำได้ตามข้อบังคับ หลังถกวุ่น จน “วันนอร์” สั่งปิดประชุม ระบุรู้มาก่อนมีความพยายามล้มประชุม


การปิดประชุมรัฐสภาวันนี้ (4ส.ค.) ทำให้การประชุมวาระสำคัญสองวาระวันนี้ไม่ได้ประชุม ซึ่งในมุมของพรรคก้าวไกล มองว่าการเลือกนายกรัฐมนตรียังสามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นอำนาจเต็มของรัฐสภา รวมถึงวาระการพิจารณายกเลิก ม.272 ปิดสวิตช์ สว. หากสามารถดำเนินการผ่านวาระที่หนึ่งไปได้ ก็จะไม่ทำให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเดินไปถึงทางตัน ส่วนเรื่องเสนอแก้ไข ม.272 ไม่ได้ทำเพื่อแคนดิเดตพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อพรรคก้าวไกล แต่เพื่อพรรคเพื่อไทยด้วย ไม่จำเป็นต้องไปพลิกขั้วรัฐบาล และถูกบีบให้มีส่วนร่วมในการสืบทอดอำนาจ” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ความตั้งใจของพรรคก้าวไกลที่ยื่นญัตติด่วนขอทบทวนมติ เนื่องจากมีนักวิชาการและผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ จนนำไปสู่การพิจารณาว่าผู้ที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถูกเลื่อนออกไป ซึ่งมองว่ากระบวนการที่มีปัญหาเหล่านี้ สภาฯ ควรมีทางออกโดยใช้กลไกของสภาได้ เพราะเมื่อตัดสินใจอย่างไรแล้วสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้  และการเสนอญัตติวันนี้ก็มีผู้รับรองถูกต้องประธานควรให้มีการลงมติเรื่องนี้ พรรคก้าวไกลไม่ได้มีเจตนาประวิงเวลา


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนที่มีผู้โต้แย้งว่าญัตติของพรรคก้าวไกลเป็นหลักการซ้ำ เพราะสภาฯ มีมติตามมาตรา 151 ไปแล้ว ขอยืนยันว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่มีมติไป คือมติเรื่องการตีความข้อบังคับว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สามารถเสนอซ้ำอีกได้หรือไม่ แต่ประเด็นในวันนี้คือการเสนอที่ประชุมเพื่อทบทวนมติ ซึ่งสาระเป็นคนละเรื่องจึงไม่ใช่มติซ้ำอย่างแน่นอน

สำหรับข้อบังคับที่ประธานรัฐสภาพยายามอธิบายว่า เมื่อตีความไปแล้วจะยกขึ้นมาเสนอซ้ำไม่ได้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่าขอให้สภาทบทวนไม่ได้ ขอย้ำว่าเป็นเรื่องที่เสนอได้อย่างแน่นอน เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและน่าเสียดายที่การประชุมสภาต้องสิ้นสุดโดยไม่มีข้อยุติ ทั้งที่หากประธานสภาฯ ยอมให้อภิปรายพิจารณาเชื่อว่าไม่น่าจะเกิน 1 ชั่วโมง และจะได้ดำเนินการในวาระอื่นต่อไปทั้งการพิจารณายกเลิก ม.272 และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

“เราทราบมาตั้งแต่ต้นว่าจะมีความพยายามล้มการประชุม ถ้า สส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่กระตุ้น ก็คงไม่แห่เข้ามาประชุม แต่การใช้วิชามารแบบนี้คำถามที่ประชาชนตั้งคำถามได้คือประเทศได้อะไรกับการปิดประชุมแบบนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย