ก้าวไกล แถลงขอโทษประชาชน ย้ำไม่ว่าสถานะไหน จะทำหน้าที่ สส.เต็มที่

ตึกไทยซัมมิท 2 ส.ค.- “ชัยธวัช” เผยเพื่อไทยฉีก MOU ตั้งรัฐบาล เชื่อเรื่องแก้ 112 เป็นเพียงข้ออ้างไม่เอาก้าวไกล ยันกำลังใจยังดี ส่วน “พิธา” แอดมิตอยู่โรงพยาบาล เหตุไข้หวัดใหญ่โจมตีหนัก


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคก้าวไกลต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทุกคนที่ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงแล้วว่า หลังจากนี้จะแยกจากพรรคก้าวไกลไปจัดตั้งรัฐบาลเอง ซึ่งเมื่อเช้าพรรคเพื่อไทยได้แจ้งกับพรรคก้าวไกลว่าต้องการขอออกจาก MOU ที่ทำร่วมกันทั้ง 2 ฉบับ คือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันทั้ง 8 พรรค และ MOU ที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคคก้าวไกลได้ทำร่วมกัน ในตอนที่มีการพูดคุยเรื่องการเลือกประธานสภา ซึ่งในการพูดคุยกันพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาเรื่องการถอยมาตรา 112 และตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่มีการเจรจากันเรื่องนี้ พรรคเพื่อไทยให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกันที่ผ่านมา ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมีเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ก็ตาม และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค และในการพูดคุยกันเมื่อเช้านี้แกนนำของพรรคเพื่อไทยบางคนยังได้แสดงความกังวลใจด้วยซ้ำว่า หากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย อาจจะทำให้ สว. ไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยได้ เพราะกังวลว่าถ้าพรรคก้าวไกลโหวตให้ หลังจากเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้ว พรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล

ดังนั้น สุดท้ายพรรคก้าวไกล ขอเรียนว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่อย่างดีที่สุด ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนจากการเลือกตั้งเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อผลักดันให้เกิดระบบเศรษฐกิจของประเทศที่เท่าทันโลก และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเสมอภาคเท่าเทียม โดยจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการกระจายอำนาจ การปฏิรูประบบราชการ การสร้างรัฐที่โปร่งใส เป็นธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และจะทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนเพื่อที่จะสร้างระบบการเมืองของบ้านเราให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นระบบการเมืองที่เสียงและอำนาจของพี่น้องประชาชนมีความหมายจริงๆ ให้ได้สักวันหนึ่ง


ส่วนการร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยในอนาคต นายชัยธวัช กล่าวว่า ขณะนี้ MOU ไม่มีอีกแล้ว ทั้ง MOU 8 พรรค และ MOU ระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล ตอนที่เลือกประธานสภา MOU ฉบับหลังตกลงว่าจะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพและการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง อันนี้ไม่มีอยู่แล้ว แต่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเราก็ยังเสนอร่างกฎหมาย และเสนอแนะมาตรการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ และหวังว่าแม้จะไม่เป็นฝ่ายเดียวกัน ก็หวังว่า สส.รัฐบาลจะเห็นชอบด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่จบอย่างเป็นทางการ และถ้าเราเป็นฝ่ายค้านจริงๆ เราสามารถที่จะผลักดันหลายๆ อย่างได้

นายชัยธวัช ย้ำว่า เรื่องการผลักดันแก้ไขมาตรา 112 ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง แต่เป็นเพียงแค่ข้ออ้างของฝ่ายการเมืองจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มอำนาจเก่าที่ไม่ต้องการที่จะเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่อง 112 และพรรคที่เคยแถลงกับพรรคเพื่อไทย พูดชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวทางทางการเมืองไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล


ส่วน 6 พรรคที่เหลือจะไปอยู่ที่ไหนนั้นตนไม่ทราบ เพราะเข้าใจว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยได้แจ้งผลการพูดคุยไปแล้ว แต่ตนก็ไม่ทราบว่าแต่ละพรรคจะมีท่าทีอย่างไรบ้าง

สำหรับความรู้สึกของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างไร ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย เพราะปัญหาคือ ทำหน้าที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่อำนาจของประชาชน

อย่างไรก็ตาม การพูดคุยเมื่อเช้านี้ กับแกนนำพรรคเพื่อไทย เราเข้าใจซึ่งกันและกัน

เมื่อถามว่าเคลียร์ความรู้สึก สส.อย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า เชื่อทุกคนเข้าใจสถานการณ์ แต่แน่นอนว่าเรายังเห็นว่าถ้า 8 พรรคการเมืองยังจับมือกันแน่น ก็เชื่อว่าเกิดการพลิกขั้วรัฐบาลได้ยาก แต่ ณ วันนี้ พรรคเพื่อไทยออกจาก MOU แล้วก็คงจะเป็นอีกแบบหนึ่ง

ส่วนประเมินสถานการณ์การเมืองอย่างไรนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลใหม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี สสร.ได้จริงๆ การเลือกตั้งก็น่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ไม่นาน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังด้วย และเรื่องนี้หลายๆ พรรคก็ผลักดันอยู่แล้ว และเราก็คาดหวังว่า เรื่องการจัดทำประชามติเพื่อให้มี สสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นวาระเร่งด่วนหลังจากที่ ตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ

นายชัยธวัช ยืนยันว่ายังกำลังใจดี ทำงานในฐานะไหนเราก็ทำงานได้ ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อยู่โรงพยาบาล เนื่องจากอาการไข้หวัดใหญ่หนักกว่าที่คิดไว้ แต่ได้พูดคุยกับนายพิธาผ่านระบบออนไลน์ หลังจากที่มีการประชุมกับพรรคเพื่อไทยเสร็จก็ได้แจ้งให้ทราบ ก็กำลังใจดี แต่เสียงไม่มี เข้าใจว่าเป็นเพราะไข้หวัดใหญ่

ทั้งนี้ นายพิธาไม่ได้มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร เมื่อผลเป็นแบบนี้แล้ว พรรคเพื่อไทยตัดสินใจแบบนี้ เราคงไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ ก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ไม่ว่าในบทบาทไหน

ภายหลังการแถลงข่าว นายชัยธวัช ได้ ชูกำปั้นขวา โชว์กับสื่อมวลชนด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]