กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – บ่ายวันนี้ (25 ก.ค.) จับตาการประชุมของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล “เพื่อไทย” เดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ หลังเดินเกมหาเสียงสนับสนุนเพิ่มแต่เสียงยังไม่ชัด บีบไม่เอาพรรคแก้ ม.112
งวดเข้ามาเรื่อยๆ กับท่าทีความชัดเจนของพรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทย ที่กลายเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังพรรคก้าวไกลยอมถอย โดยห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะเจรจาก็จัดสภา “มินต์ช็อก” เดินหน้าพูดคุย 5 พรรคการเมือง ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่ยังยืนยันจุดยืนชัดเจน เพราะล้วนต่างมีเงื่อนไขว่าไม่ขอร่วมงานกับพรรคก้าวไกล และไม่แก้ไขมาตรา 112 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์แม้ไม่ได้หารือ แต่ชัดเจนว่าไม่เอาพรรคก้าวไกล และไม่แก้มาตรา 112 เช่นเดียวกัน
ส่วนคณะพูดคุยที่นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าคณะเจรจาที่เดินหน้าพูดคุยเจรจา สว. เพื่อหาเสียงสนับสนุนในการโหวตรอบถัดไปก็เหมือนจะหวืด แต่การพูดคุยยังไม่สำเร็จ เพราะ สว. ย้ำชัดว่าหากพรรคเพื่อไทยยังจับมือกับพรรคที่ต้องการแก้ไขมาตรา 112 จะไม่ลงคะแนนโหวตให้
ท่าทีฝั่งพรรคก้าวไกล แม้สถานการณ์ตอนนี้คล้ายกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ยังยืนยันจุดชัดเจน “มีลุงไม่มีเรา” พรรคก้าวไกลจะไม่ร่วมรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจอย่างพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะพยายามผนึก 8 พรรคการเมืองที่สะท้อนเสียงของประชาชน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ซึ่งมีพรรคเป็นธรรมที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะเคียงข้างกับพรรคก้าวไกล
ขณะที่พรรคเล็กอย่างพลังสังคมใหม่ ซึ่งพร้อมอยู่กับก้าวไกล มีรายงานว่าได้ไปเจรจากับพรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ เพื่อขอเสียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล โดยทั้ง 2 พรรค ยินดี แต่มีเงื่อนไขคือต้องไม่มีการแก้ไขมาตรา 112
ดังนั้น ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ของพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดูแล้วคะแนนเสียงยังไม่ชัดเจน อาจทำให้พรรคเพื่อไทยหนักใจว่าจะต้องเลือกระหว่าง 5 พรรคขั้วรัฐบาลเดิม หรือจับมือไปกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
ส่วนข้อเสนอของนายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่เสนอให้ทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จับมือกันเหนียวแน่น และยื้อเกมโหวตนายกฯ ออกไป 10 เดือน เพื่อรอให้ สว. หมดวาระ หลายฝ่ายมองว่าใช้เวลานานเกินไป และอาจทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย จึงต้องรอความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทยที่จะชี้แจงแนวทางในที่ประชุมร่วม 8 พรรค ช่วงบ่ายวันนี้ (25 ก.ค.)
สอดคล้องกับ “เดลินิวส์” ที่รายงานว่าในการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้ (25 ก.ค.) คาดว่าพรรคเพื่อไทยจะแจ้งให้ทุกพรรคทราบว่า ฐานะพรรคแกนนำได้พยายามพูดคุยพรรคการเมืองอื่นๆ แล้ว ล้วนต่างมีเงื่อนไขไม่แก้ไขมาตรา 112 และ สว. ก็ไม่โหวตสนับสนุนให้ทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย จึงเป็นปัญหาทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และถอนตัวในการเป็นแกนนำ พร้อมโยนไม้ต่อให้พรรคที่ 3 คือ พรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ในบรรดากลุ่ม สส. จากหลายพรรค มองไปถึงการโหวตนายกฯ ว่าเมื่อพรรคภูมิใจไทยได้รับไม้ต่อให้เป็นแกนนำแล้ว มีการส่งสัญญาณกันว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ เข้าสู่เวทีการโหวตนายกฯ ในการประชุมรัฐสภา มั่นใจว่าจะได้เสียงสนับสนุนเกิน 375 เสียง
อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต่างมองในทิศทางเดียวกันว่าแนวทางนี้จะเป็นทางออกของประเทศ และประเทศจะเดินหน้าไปได้.-สำนักข่าวไทย