รัฐสภา 24 ก.ค.-“อนุสิษฐ” ระบุเป็นหน้าที่ปธ.รัฐสภา-พรรคตั้งรัฐบาลที่จะเลื่อนวันโหวตนายกฯ ชี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ รับห่วงเรื่องม็อบ เตือนให้คิดบ้านเมืองมาถึงวันนี้เพราะคนรุ่นเก่า
นายอนุสิษฐ คุณากร สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวถึงจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ว่าเป็นเรื่องของส.ส.จะไปพูดคุยกันให้ได้ข้อยุติ จากเดิมที่เคยตกลงว่าให้พรรคอันดับที่ 1 มาจากตั้งรัฐบาลตามมารยาททางการเมือง ซึ่งไม่มีข้อตกลงอะไรเป็นพิเศษทางกฎหมาย และเมื่อจัดตั้งไม่สำเร็จก็เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยตามมารยาททางการเมือง ขณะนี้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลรูปแบบไหน จะรวมหรือไม่รวมก้าวไกล พรรคเพื่อไทยคงพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อผลผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยดี ซึ่งตรงนี้มองว่าถือเป็นทางออกที่ดีพอสมควร
“ขณะนี้เป็นเรื่องส.ส. แต่ส.ว.ก็มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ อย่าคิดว่าส.ว.เป็นพรรคการเมืองหรือส.ว.มาจากเผด็จการ ส.ว.มีหน้าที่ในการตัดสินใจเพราะการทำหน้าที่ของส.ว.มีรัฐธรรมนูญบังคับอยู่ภายใต้เงื่อนไขการรักษาชาติและอธิปไตย รักษาสถาบันหลักของชาติตามหลักรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มอบฉันทามติให้เรามา ผมอยากให้ประชาชนทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มด้อมส้มหรือคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลืองและกลุ่มคนใส่เสื้อทุกสี เพราะเขาเป็นคนไทยทั้งสิ้น บ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ เป็นเรื่องของความสงบเรียบร้อย ต้องมีเอกภาพและบูรภาพในสังคมไทย” นายอนุสิษฐ กล่าว
นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มองว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ตามวิถีการเเสดงออก ตามวิถีทางประชาธิปไตยถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากแสดงออกที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ กระทำผิดทางกฏหมาย เพราะเฉพาะกลุ่มเยาวชน เราต้องอบรบกระบวนการทางประชาธิปไตยที่เยาวชนมีการเคลื่อนไหว่าต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง ปฏิบัติตามกฎหมาย การเป็นพลเมืองที่ดีใช้เสรีภาพโดยไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน ไม่กระทบเสรีภาพของผู้อื่น การอ้างประชาธิปไตยโดยการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวคงไม่แฟร์กับประเทศชาติ ตนเห็นด้วยที่เยาวชนต้องการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าพรรคที่จะเข้ามาบริหารประเทศต้องใช้เสียงประชาชน หากก้าวไกลเข้ามาก็จะเดินไปได้ และไม่เชื่อว่าพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะไม่ใช้นโยบายของพรรคก้าวไกลมาดำเนินการ เพราะบางสิ่งทำได้ ก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสิ้น
ส่วนหากเพื่อไทยยังเจรจาไม่ได้จะทำให้มีการเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปหลังวันที่ 27 ก.ค. หรือไม่ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาและพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลร่วมพูดคุยกัน เพราะ ส.ว.ไม่มีหน้าที่เสนอชื่อและรับรองตัวบุคคลเพื่อโหวตนายกฯ เพราะเป็นบทบาทของ ส.ส.
เมื่อถามถึงท่าทีของหลายพรรคการเมืองที่สบายใจมากกว่า หากไม่มีพรรคก้าวไกลเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย จะส่งผลให้กลุ่มที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลไม่พอใจหรือไม่ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า เข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่ต้องการให้เป็นไปตามนโยบายที่ก้าวไกลที่ได้หาเสียงไว้ ไม่เชื่อว่าหากไม่มีพรรคก้าวไกลการเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้น เพราะหลายสิ่งถูกสะท้อนปัญหาของประเทศชาติบ้านเมือง จากการมองของคนหลายกลุ่ม โดยพรรคก้าวไกลกล้ามองและกล้านำเสนอ ซึ่งเป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ประชาชนต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยมีสองมุมคือเป็นรัฐบาลไปบริหารประเทศ หากเป็นฝ่ายค้านก็เข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบ ยื่นข้อเสนอและความต้องการในฐานะเสียงของประชาชนได้อยู่ดี
ส่วนเป็นห่วงหรือไม่หากพรรคก้าวไกลถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้านและประชาชนจะลงถนน นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวลในฐานะผู้ที่ดูแลบ้านเมืองอย่างภาคราชการ เพราะการเคลื่อนไหวของมวลชนคือลูกหลานและเพื่อนร่วมชาติของเรา ตอนนี้ขอเพียงอย่าให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ สังคมเกิดความไม่สงบ เพราะคนที่รับผิดชอบคือผู้ใหญ่ เรื่องนี้ไม่ใช่การเอาชนะเพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลเท่านั้น เพราะบางยุคสมัยมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งและส.ส.ของพรรคก้าวไกลมีคุณภาพสูง เป็นคนรุ่นใหม่ ประชาชนได้ประโยชน์
“เเม้จะมีประสบการณ์ในเวลาอันน้อยนิด แต่ขออย่าหลงลืม ละเลย เพราะการสร้างชาติของพวกเรา มีมาตั้งแต่ผู้เฒ่า ผู้อาวุโส คนแก่ที่บอกว่ากะโหลกกะลา แต่ความจริงคนเหล่านี้สร้างชาติบ้านเมืองมาให้เราอยู่รอดปลอดภัย พัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้ ขอให้ทุกคนกลับไปคิด การเคลื่อนไหวต้องออกมารับผิดชอบเฉพาะตัว แต่ผมเป็นห่วงคนที่ไปชี้นำการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่อันตราย” นายอนุสิษฐ กล่าว
ส่วนส.ว.จะพูดคุยกันก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ว.มีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง เช่น เรื่องมาตรา 112 เรื่องการปกครองตนเองในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กฎหมายอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งประชาชนบางส่วนยังไม่เข้าใจ ดังนั้น ต้องอธิบายผลได้ ผลเสียที่ประชาชนจะได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร อย่างไรก็ตาม การเร่งรัดเข้ามาบริหารประเทศ ต้องเร่งรัดเรื่องปากท้องพี่น้องประชาชนเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งขึ้นอยู่กับหลักการของผู้ที่จะจัดตั้งรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร.-สำนักข่าวไทย