รัฐสภา 12 ก.ค.-“พิธา” มองกกต.ส่งศาลรธน.ปมถือหุ้นสื่อไม่เป็นธรรม ไม่เปิดให้แจงข้อกล่าวหา ยันกำลังใจดี เชื่อกระบวนการโหวตนายกฯ พรุ่งนี้เหมือนเดิม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อ บมจ.ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น ว่า ต้องรอกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ คิดว่ากระบวนการวันพรุ่งนี้(13 ก.ค.) ที่จะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรียังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ได้เกินความคาดหมาย และยังบริหารจัดการได้ พรุ่งนี้จะเข้าสภาฯ ตามปกติ พร้อมตอบทุกข้อสงสัยและเตรียมแสดงวิสัยทัศน์ คาดว่าจะเริ่มโหวตได้ 17.00 น. ไม่มีอะไรน่ากังวล
ส่วนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลต่อการโหวตพรุ่งนี้หรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า ไม่กังวล เป็นเรื่องปกติ คิดว่าสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) จะแยกแยะได้ว่าแต่ละเรื่องมีหน้าที่อะไรบ้าง และเรื่องที่มีการร้องเป็นสื่อมวลชนที่ปิดไปนานแล้วและตนอยู่ในฐานะผู้จัดการมรดก ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร คุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังมีอยู่
“การที่กกต.ไม่เชิญผมไปชี้แจงข้อกล่าวหาถือว่าไม่เป็นธรรมกับผม และคดีของผมไม่สามารถนำเทียบเคียงกับคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ได้ ซึ่งระเบียบกกต.ควรเปิดโอกาสให้ไปชี้แจง และระยะเวลาการพิจารณาคดีของผมใช้เวลาสั้นเพียง 32 วัน ครึ่งหนึ่งของคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และยังมีบรรทัดฐานที่แตกต่างกันกับคดีที่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรีชุดรักษาการปัจจุบัน จึงทำให้ดูเหมือนเป็นการพิจารณาเพียงหนึ่งวันก่อนจะโหวตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ยังเชื่อว่ายังเดินหน้าตามปกติ ผมยังมีสติและกำลังใจดี ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ” นายพิธา กล่าว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าล็อบบี้ส.ว.ไม่ให้โหวตให้นายพิธา นายพิธา ตั้งคำถามกลับว่า การเคลื่อนไหวนอกสภาฯ แบบนี้ แสดงให้เห็นว่าในสภาฯ มีความมั่นใจมากขึ้นที่จะไปถึง 376 เสียง ถึงได้เริ่มมีใช้องค์กรอิสระนอกสภาฯ หรือไม่ แต่เท่าที่คุยในสภาฯ พรุ่งนี้มีแนวโน้มดี และเมื่อมีแนวโน้มดีจึงมีกระบวนการเคลื่อนไหวนอกสภาฯ หรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ แต่เป็นสิ่งที่พูดกันในสภาฯ.-สำนักข่าวไทย