นายกฯ ชื่นชมการแปรรูปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าข้าว

กทม. 2 ก.ค.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ชื่นชมการแปรรูปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าข้าว “สาโท ข้าวเหนียวดำลืมผัว และข้าวเจ้า กข41” โดยศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก เตรียมศึกษาเชิงลึก เพื่อสร้างนวัตกรรมระดับชุมชน เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มเกษตรกรใช้ต่อยอดขยายผลทางธุรกิจ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำชาวนา องค์กรชาวนาที่ได้รับรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2566 เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ณ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบโอวาทและนโยบาย ย้ำถึงการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลคำนึงถึงประโยชน์ที่เกษตรกรและประชาชนจะได้รับ โดยเฉพาะการพยายามหาแนวทางที่จะทำให้เกษตรกรและประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับมากขึ้น สำหรับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น การขับเคลื่อนสินค้า GI ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดี นั้น


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว มอบหมายให้นายสานิตย์ จิตต์นุพงศ์ ที่ปรึกษาอธิบดีฯ นำนายสมควร รุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมชนตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุราพื้นบ้าน พร้อมคณะ เข้าศึกษาดูงานวิจัยด้านการแปรรูปข้าวที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยนางสาวชวนชม ดีรัศมี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก พร้อมทีมนักวิจัย ได้นำชมงานวิจัยด้านการแปรรูปข้าวและการทดสอบรสชาติเครื่องดื่ม “สาโท” ที่ผลิตจากข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งทีมวิจัยได้คัดเลือกสายพันธุ์ข้าวที่โดดเด่นของจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ ข้าวเหนียวดำลืมผัว และข้าวเจ้า กข41 มาแปรรูปเพิ่มมูลค่า ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาวิจัย โดยศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลกจะได้ทำการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมเริ่มจากข้าวหมากไปจนถึงคราฟเบียร์ต่อไป

นายอนุชา กล่าวถึงข้อมูลของศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ระบุว่า เครื่องดื่มสาโทจากข้าวเหนียวดำลืมผัว และข้าวเจ้า กข41 เป็นผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งของการดำเนินงานแผนงานวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าข้าว โดยนายพูลเศรษฐ์ พรโสภณ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สังกัดศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก กองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว ในฐานะหัวหน้าแผนงานวิจัยฯ ได้นำข้าวทั้ง 2 พันธุ์ ซึ่งเป็นข้าวที่เกษตรกรภาคเหนือตอนล่างนิยมปลูกกันโดยทั่วไปมาใช้ในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ โดยข้าวเหนียวดำลืมผัวเป็นข้าวที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวกล้องสีดำ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตสาโทตามกระบวนการวิจัย สามารถปรับอัตราส่วนผสมให้ได้สาโทที่มีโทนสีชมพูจนถึงสีแดงคล้ายไวน์โรเซ หรือไวน์แดงจากองุ่น ส่วนข้าวพันธุ์ กข41 เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็งที่มีปริมาณอมิโลสสูง ค่อนข้างต้านทานต่อโรคและแมลงในเขตภาคเหนือตอนล่าง และให้ผลผลิตต่อไร่สูง เป็นพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย นิยมปลูกเป็นอย่างมาก แต่ตามปกติแล้ว เกษตรกรจะขายผลผลิตเป็นข้าวเปลือกให้กับโรงสีในราคาตามกลไกของท้องตลาดซึ่งในบางช่วงเวลาอาจได้มูลค่าไม่สูงนัก ข้าวพันธุ์นี้เมื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตสาโท จะได้สาโทที่มีลักษณะใสและมีสีออกโทนสีเหลืองเล็กน้อยคล้ายไวน์ขาว


นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ในการวิจัยขั้นต่อไป หัวหน้าแผนงานวิจัยฯ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก เผยว่าจะเป็นการศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับสภาวะกระบวนการผลิต เชื้อจุลินทรีย์จากลูกแป้ง สารประกอบสำคัญและสารให้กลิ่นรสต่าง ๆ การผลิตเป็นสุรากลั่นคุณภาพ และการใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบในการผลิตคราฟเบียร์ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จาก by-product ของกระบวนการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนอกจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้กล่าวมาแล้ว ทีมนักวิจัยของกรมการข้าว ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าว เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภท functional food ผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกจากข้าว และผลิตภัณฑ์จากรำข้าว เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเมื่องานวิจัยสำเร็จ จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ต่อยอดสู่กลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย เพื่อสร้างนวัตกรรมระดับชุมชนในเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าข้าว กลุ่มเกษตรกรมีองค์ความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์ รวมถึงทักษะการปฏิบัติในกระบวนการแปรรูปผลผลิตข้าวของชุมชน ได้เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มเกษตรกรสามารถใช้ต่อยอดขยายผลทางธุรกิจได้ต่อไป

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการดำเนินงานแผนงานวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าข้าว ของศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก กรมการข้าว ที่เป็นการส่งเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าข้าว เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มเกษตรกรสามารถใช้ต่อยอดขยายผลทางธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งตอบสนองการบริโภคในยุคปัจจุบัน สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยนายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้กรมการข้าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าว ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับสำหรับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น และให้มีมูลค่าสูงตามความต้องการของตลาด เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไปด้วย” นายอนุชา กล่าว

ทั้งนี้ “สาโท” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทที่ไม่ผ่านกระบวนการกลั่น เช่นเดียวกับเครื่องดื่มสาเกของญี่ปุ่น เกิดจากกระบวนการหมักให้เกิดแอลกอฮอล์ (alcoholic fermentation) โดยจุลินทรีย์ในกลุ่มยีสต์ ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลในวัตถุดิบได้เป็นแอลกอฮอล์ เป็นเครื่องดื่มจากภูมิปัญญาที่คงอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาการผลิตให้ได้คุณภาพ และสร้างสรรค์เอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ เป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างมูลค่าให้แก่ข้าวไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร