เพื่อไทย ย้ำสูตร 14+1 ไม่ “แข่ง” แต่ “ขอ”

สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี 29 มิ.ย. – “ชลน่าน” ย้ำใช้สูตร 14+1 เจรจาปม ปธ.สภาฯ กับก้าวไกล ลั่นไม่แข่ง ไม่หักหลังประชาชน แต่ “ขอ” แม้อยากออก แต่ถูก 25 ล้านเสียงมัดรวม ไม่มีสิทธิปฏิเสธ เชื่อต้องตกลงกันได้ ป้องกันฟรีโหวต


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าพรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 กรกฎาคม และเห็นชัดเจนว่าไม่เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรค ในวันเดียวกัน โดยคณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย มั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปรับสูตรปมประธานสภาฯ 15+1 และ 13+1 ว่าตนก็งงกับข่าวนี้ว่าออกมาได้อย่างไร เราไม่เคยได้ยิน เราไม่เคยได้พูด จึงยังยืนยันจุดเริ่มต้นคือ 14+1 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันให้ยึดหลักการนี้เป็นตัวประกอบในการเจรจา ไม่ใช่สูตรที่ตายตัว ขอย้ำอีกครั้งว่า 13+1 หรือ 15+1 ไม่รู้ว่าเป็นข่าวมาจากที่ใด แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอสูตรนี้


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นสูตรนี้ ที่ยังไม่ได้คุยกัน เพราะเคยเสนอกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว แต่ยังไม่เคยได้รับคำตอบที่เป็นทางการชัดเจน จึงคิดว่าต้องเริ่มต้นจากสูตรที่ค้างไว้ ส่วนจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การเจรจา

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเป็นพรรคอันดับสอง เข้าใจตัวเราเองดี เพราะฉะนั้นหลักในการเจรจา เราเคารพพรรคอันดับหนึ่งตลอดเวลา พร้อมระบุว่าเราใช้คำว่าข้อเสนอ เพื่อให้พรรคอันดับหนึ่งพิจารณา ซึ่ง 14+1 ก็คือข้อเสนอ นั่นหมายความว่าเราเคารพสิทธิท่านตลอดเวลา เราร้องขอไปว่าท่านจะพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่ง ไม่ใช่การบีบบังคับ ฉะนั้นวงเจรจาแต่ละฝ่ายต่างก็รู้ดี

“เราเข้าใจว่าโดยหลักพรรคที่ได้อันดับหนึ่งก็ควรได้รับสิทธิเป็นประธาน เราก็ถือสิทธินั้น เราจึงขอว่ามาเป็นของอันดับสองได้หรือไม่ ที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว เราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นี่คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลังพี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้เรา เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ” นพ.ชลน่าน กล่าว


นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า ในการเจรจายึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่เลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยกว่า 25 ล้านเสียง ถ้าพรรคก้าวไกลอันดับ 1 ยืนยันไม่ให้เก้าอี้ประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับที่ 2 ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าอยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่จริง 14+1 เราเสนอบนพื้นฐานคะแนนไล่เลี่ยกัน และเราอยากรักษาเจตนารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายว่าเราสามารถพูดคุยกันได้และทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเราเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ออกมาข้างนอก ล้วนเป็นคำตอบของรายบุคคล ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลแจ้งเลื่อนการประชุมคณะเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ พร้อมให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เดินสายโชว์วิสัยทัศน์การชิงเก้าอี้ดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังคงอยู่ในการพูดคุยและพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคล เพราะยังเคารพการปรึกษาหารือและการตัดสินใจร่วมกัน และเพื่อไทยหากยังไม่ชัดเจนจะยังไม่เสนออะไร เพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุน ขณะเดียวกันยังแสดงความมั่นใจถึงบุคลากรที่มีความพร้อมในการนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหลายคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจ

ส่วนที่มีชื่อ นพ.ชลน่าน ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้วยเหตุผลว่าให้มีความสมดุล และให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี คือให้หัวหน้าพรรคทั้งสองพรรคควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกัน มีเหตุผล เพื่อทำงานร่วมกันและประสานได้อย่างดี แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า นั่นคือข้อสรุป โดยอยู่ที่การเจรจาและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา

สำหรับการพูดคุยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะคุยกันลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนประชุมสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป แล้วกระทบการประชุม 8 พรรค ในวันที่ 2 ก.ค.นี้หรือไม่ เบื้องต้นทราบข้อมูลมาว่าจะมีการประชุมในวันที่ 4-6 ก.ค. และยังคงมั่นใจว่าข้อสรุปที่จะออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะเป็นข้อสรุปที่ดี ทุกฝ่ายยอมรับและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคได้

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ว่าสิทธิของพรรคก้าวไกลในการจะเสนอตำแหน่งอะไรในฐานะที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ทำได้โดยชอบ เราในฐานะพรรคร่วม ก็แถลงการณ์ให้สิทธิว่าก้าวไกลจะต้องเป็นแกนนำ ในทุกประเด็นที่จะเป็นข้อเจรจาจัดตั้งรัฐบาล และเราค่อนข้างระมัดระวังในการที่จะเสนออะไรไป ในฐานะพรรคอันดับสอง แม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดเลย โดยความไม่เข้าใจ เป็นเพียงขั้นตอนที่เราเสนอไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย ในภาวะการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่ง โดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเราเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที

“เราบอกว่าเราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะ เราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่าคุณจะให้เราหรือเปล่า” นพ.ชลน่าน

เมื่อถามว่าหากเขายืนกรานไม่ให้จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราจะได้กลับมาพิจารณาว่าถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง เราจะพิจารณาอย่างไรในการร่วมทำงานกับเขา เราจะทำงานแบบไหน

เมื่อถามอีกว่า คำว่าพิจารณา ในการทำงานไม่ได้แปลว่าไม่จับมือแล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน ซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้

“เน้นนะครับ แม้เราอยากออกไป และเรามีสิทธิโดยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน เสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธจริงๆ เพราะฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน 25 ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุย และนำเสนอทุกเรื่อง เพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ” นพ.ชลน่าน

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงแนวทางการโหวตว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ว่า จะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วม ซึ่งหากได้ข้อยุติในวันที่ 2 ก.ค.นี้ วันที่ 3 ก.ค. ก็มีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว วันที่ 4 ก.ค. เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไปก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะต้องจบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย