เพื่อไทย ย้ำสูตร 14+1 ไม่ “แข่ง” แต่ “ขอ”

สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี 29 มิ.ย. – “ชลน่าน” ย้ำใช้สูตร 14+1 เจรจาปม ปธ.สภาฯ กับก้าวไกล ลั่นไม่แข่ง ไม่หักหลังประชาชน แต่ “ขอ” แม้อยากออก แต่ถูก 25 ล้านเสียงมัดรวม ไม่มีสิทธิปฏิเสธ เชื่อต้องตกลงกันได้ ป้องกันฟรีโหวต


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าพรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 กรกฎาคม และเห็นชัดเจนว่าไม่เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรค ในวันเดียวกัน โดยคณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย มั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปรับสูตรปมประธานสภาฯ 15+1 และ 13+1 ว่าตนก็งงกับข่าวนี้ว่าออกมาได้อย่างไร เราไม่เคยได้ยิน เราไม่เคยได้พูด จึงยังยืนยันจุดเริ่มต้นคือ 14+1 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันให้ยึดหลักการนี้เป็นตัวประกอบในการเจรจา ไม่ใช่สูตรที่ตายตัว ขอย้ำอีกครั้งว่า 13+1 หรือ 15+1 ไม่รู้ว่าเป็นข่าวมาจากที่ใด แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอสูตรนี้


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นสูตรนี้ ที่ยังไม่ได้คุยกัน เพราะเคยเสนอกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว แต่ยังไม่เคยได้รับคำตอบที่เป็นทางการชัดเจน จึงคิดว่าต้องเริ่มต้นจากสูตรที่ค้างไว้ ส่วนจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การเจรจา

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเป็นพรรคอันดับสอง เข้าใจตัวเราเองดี เพราะฉะนั้นหลักในการเจรจา เราเคารพพรรคอันดับหนึ่งตลอดเวลา พร้อมระบุว่าเราใช้คำว่าข้อเสนอ เพื่อให้พรรคอันดับหนึ่งพิจารณา ซึ่ง 14+1 ก็คือข้อเสนอ นั่นหมายความว่าเราเคารพสิทธิท่านตลอดเวลา เราร้องขอไปว่าท่านจะพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่ง ไม่ใช่การบีบบังคับ ฉะนั้นวงเจรจาแต่ละฝ่ายต่างก็รู้ดี

“เราเข้าใจว่าโดยหลักพรรคที่ได้อันดับหนึ่งก็ควรได้รับสิทธิเป็นประธาน เราก็ถือสิทธินั้น เราจึงขอว่ามาเป็นของอันดับสองได้หรือไม่ ที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว เราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นี่คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลังพี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้เรา เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ” นพ.ชลน่าน กล่าว


นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า ในการเจรจายึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่เลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยกว่า 25 ล้านเสียง ถ้าพรรคก้าวไกลอันดับ 1 ยืนยันไม่ให้เก้าอี้ประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับที่ 2 ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าอยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่จริง 14+1 เราเสนอบนพื้นฐานคะแนนไล่เลี่ยกัน และเราอยากรักษาเจตนารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายว่าเราสามารถพูดคุยกันได้และทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเราเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ออกมาข้างนอก ล้วนเป็นคำตอบของรายบุคคล ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลแจ้งเลื่อนการประชุมคณะเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ พร้อมให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เดินสายโชว์วิสัยทัศน์การชิงเก้าอี้ดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังคงอยู่ในการพูดคุยและพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคล เพราะยังเคารพการปรึกษาหารือและการตัดสินใจร่วมกัน และเพื่อไทยหากยังไม่ชัดเจนจะยังไม่เสนออะไร เพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุน ขณะเดียวกันยังแสดงความมั่นใจถึงบุคลากรที่มีความพร้อมในการนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหลายคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจ

ส่วนที่มีชื่อ นพ.ชลน่าน ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้วยเหตุผลว่าให้มีความสมดุล และให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี คือให้หัวหน้าพรรคทั้งสองพรรคควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกัน มีเหตุผล เพื่อทำงานร่วมกันและประสานได้อย่างดี แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า นั่นคือข้อสรุป โดยอยู่ที่การเจรจาและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา

สำหรับการพูดคุยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะคุยกันลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนประชุมสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป แล้วกระทบการประชุม 8 พรรค ในวันที่ 2 ก.ค.นี้หรือไม่ เบื้องต้นทราบข้อมูลมาว่าจะมีการประชุมในวันที่ 4-6 ก.ค. และยังคงมั่นใจว่าข้อสรุปที่จะออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะเป็นข้อสรุปที่ดี ทุกฝ่ายยอมรับและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคได้

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ว่าสิทธิของพรรคก้าวไกลในการจะเสนอตำแหน่งอะไรในฐานะที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ทำได้โดยชอบ เราในฐานะพรรคร่วม ก็แถลงการณ์ให้สิทธิว่าก้าวไกลจะต้องเป็นแกนนำ ในทุกประเด็นที่จะเป็นข้อเจรจาจัดตั้งรัฐบาล และเราค่อนข้างระมัดระวังในการที่จะเสนออะไรไป ในฐานะพรรคอันดับสอง แม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดเลย โดยความไม่เข้าใจ เป็นเพียงขั้นตอนที่เราเสนอไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย ในภาวะการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่ง โดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเราเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที

“เราบอกว่าเราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะ เราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่าคุณจะให้เราหรือเปล่า” นพ.ชลน่าน

เมื่อถามว่าหากเขายืนกรานไม่ให้จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราจะได้กลับมาพิจารณาว่าถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง เราจะพิจารณาอย่างไรในการร่วมทำงานกับเขา เราจะทำงานแบบไหน

เมื่อถามอีกว่า คำว่าพิจารณา ในการทำงานไม่ได้แปลว่าไม่จับมือแล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน ซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้

“เน้นนะครับ แม้เราอยากออกไป และเรามีสิทธิโดยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน เสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธจริงๆ เพราะฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน 25 ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุย และนำเสนอทุกเรื่อง เพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ” นพ.ชลน่าน

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงแนวทางการโหวตว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ว่า จะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วม ซึ่งหากได้ข้อยุติในวันที่ 2 ก.ค.นี้ วันที่ 3 ก.ค. ก็มีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว วันที่ 4 ก.ค. เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไปก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะต้องจบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“สีกากอล์ฟ” อิดโรย-ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบฯ

16 ก.ค. – “สีกากอล์ฟ” ปิดปากเงียบตอบคำถามสำนึกผิดหรืออยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขังกองปราบฯ ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ควบคุมตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้นจากการสังเกตพบว่าสีกากอล์ฟมีท่าทีอิดโรยและเครียดมาก ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งข้อหาสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ใน 3 ข้อหา คือ ม.147 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนแถลงจับกุมว่ พบลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อดีตท่านเจ้าคุณอาชว์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องทำก่อนคือการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ เพราะถ้ารูปต่างๆ หลุดออกไป อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบว่าสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ช่วงเดือน พ.ค. 2567 ก่อนที่จะห่างกันไป แต่กลับมาอ้างว่ามีลูกที่เจ้าคุณอาชว์ พร้อมขอค่าเลี้ยงดูเลี้ยง 7.2 ล้านบาท ตกเดือนละ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]