เพื่อไทย ย้ำสูตร 14+1 ไม่ “แข่ง” แต่ “ขอ”

สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี 29 มิ.ย. – “ชลน่าน” ย้ำใช้สูตร 14+1 เจรจาปม ปธ.สภาฯ กับก้าวไกล ลั่นไม่แข่ง ไม่หักหลังประชาชน แต่ “ขอ” แม้อยากออก แต่ถูก 25 ล้านเสียงมัดรวม ไม่มีสิทธิปฏิเสธ เชื่อต้องตกลงกันได้ ป้องกันฟรีโหวต


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าพรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 กรกฎาคม และเห็นชัดเจนว่าไม่เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรค ในวันเดียวกัน โดยคณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย มั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปรับสูตรปมประธานสภาฯ 15+1 และ 13+1 ว่าตนก็งงกับข่าวนี้ว่าออกมาได้อย่างไร เราไม่เคยได้ยิน เราไม่เคยได้พูด จึงยังยืนยันจุดเริ่มต้นคือ 14+1 ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันให้ยึดหลักการนี้เป็นตัวประกอบในการเจรจา ไม่ใช่สูตรที่ตายตัว ขอย้ำอีกครั้งว่า 13+1 หรือ 15+1 ไม่รู้ว่าเป็นข่าวมาจากที่ใด แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอสูตรนี้


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นสูตรนี้ ที่ยังไม่ได้คุยกัน เพราะเคยเสนอกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว แต่ยังไม่เคยได้รับคำตอบที่เป็นทางการชัดเจน จึงคิดว่าต้องเริ่มต้นจากสูตรที่ค้างไว้ ส่วนจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การเจรจา

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเป็นพรรคอันดับสอง เข้าใจตัวเราเองดี เพราะฉะนั้นหลักในการเจรจา เราเคารพพรรคอันดับหนึ่งตลอดเวลา พร้อมระบุว่าเราใช้คำว่าข้อเสนอ เพื่อให้พรรคอันดับหนึ่งพิจารณา ซึ่ง 14+1 ก็คือข้อเสนอ นั่นหมายความว่าเราเคารพสิทธิท่านตลอดเวลา เราร้องขอไปว่าท่านจะพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่ง ไม่ใช่การบีบบังคับ ฉะนั้นวงเจรจาแต่ละฝ่ายต่างก็รู้ดี

“เราเข้าใจว่าโดยหลักพรรคที่ได้อันดับหนึ่งก็ควรได้รับสิทธิเป็นประธาน เราก็ถือสิทธินั้น เราจึงขอว่ามาเป็นของอันดับสองได้หรือไม่ ที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว เราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นี่คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลังพี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้เรา เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ” นพ.ชลน่าน กล่าว


นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า ในการเจรจายึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่เลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยกว่า 25 ล้านเสียง ถ้าพรรคก้าวไกลอันดับ 1 ยืนยันไม่ให้เก้าอี้ประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับที่ 2 ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าอยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่จริง 14+1 เราเสนอบนพื้นฐานคะแนนไล่เลี่ยกัน และเราอยากรักษาเจตนารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายว่าเราสามารถพูดคุยกันได้และทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเราเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ออกมาข้างนอก ล้วนเป็นคำตอบของรายบุคคล ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลแจ้งเลื่อนการประชุมคณะเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ พร้อมให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เดินสายโชว์วิสัยทัศน์การชิงเก้าอี้ดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังคงอยู่ในการพูดคุยและพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคล เพราะยังเคารพการปรึกษาหารือและการตัดสินใจร่วมกัน และเพื่อไทยหากยังไม่ชัดเจนจะยังไม่เสนออะไร เพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุน ขณะเดียวกันยังแสดงความมั่นใจถึงบุคลากรที่มีความพร้อมในการนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหลายคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจ

ส่วนที่มีชื่อ นพ.ชลน่าน ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้วยเหตุผลว่าให้มีความสมดุล และให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี คือให้หัวหน้าพรรคทั้งสองพรรคควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกัน มีเหตุผล เพื่อทำงานร่วมกันและประสานได้อย่างดี แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า นั่นคือข้อสรุป โดยอยู่ที่การเจรจาและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา

สำหรับการพูดคุยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะคุยกันลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนประชุมสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป แล้วกระทบการประชุม 8 พรรค ในวันที่ 2 ก.ค.นี้หรือไม่ เบื้องต้นทราบข้อมูลมาว่าจะมีการประชุมในวันที่ 4-6 ก.ค. และยังคงมั่นใจว่าข้อสรุปที่จะออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะเป็นข้อสรุปที่ดี ทุกฝ่ายยอมรับและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคได้

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ว่าสิทธิของพรรคก้าวไกลในการจะเสนอตำแหน่งอะไรในฐานะที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ทำได้โดยชอบ เราในฐานะพรรคร่วม ก็แถลงการณ์ให้สิทธิว่าก้าวไกลจะต้องเป็นแกนนำ ในทุกประเด็นที่จะเป็นข้อเจรจาจัดตั้งรัฐบาล และเราค่อนข้างระมัดระวังในการที่จะเสนออะไรไป ในฐานะพรรคอันดับสอง แม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดเลย โดยความไม่เข้าใจ เป็นเพียงขั้นตอนที่เราเสนอไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย ในภาวะการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่ง โดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเราเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที

“เราบอกว่าเราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะ เราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่าคุณจะให้เราหรือเปล่า” นพ.ชลน่าน

เมื่อถามว่าหากเขายืนกรานไม่ให้จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราจะได้กลับมาพิจารณาว่าถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง เราจะพิจารณาอย่างไรในการร่วมทำงานกับเขา เราจะทำงานแบบไหน

เมื่อถามอีกว่า คำว่าพิจารณา ในการทำงานไม่ได้แปลว่าไม่จับมือแล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน ซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้

“เน้นนะครับ แม้เราอยากออกไป และเรามีสิทธิโดยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน เสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธจริงๆ เพราะฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน 25 ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุย และนำเสนอทุกเรื่อง เพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ” นพ.ชลน่าน

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงแนวทางการโหวตว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ว่า จะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค. ออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วม ซึ่งหากได้ข้อยุติในวันที่ 2 ก.ค.นี้ วันที่ 3 ก.ค. ก็มีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว วันที่ 4 ก.ค. เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไปก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะต้องจบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย