พรรคเพื่อไทย 23 มิ.ย. – “ประเสริฐ” เผยก้าวไกลนัดคุยปมประธานสภาฯ 28 มิ.ย. ยันเพื่อไทยย้ำหลักการพรรคอันดับ 1 แต่ยังต้องฟังเสียง ส.ส.ก่อน มองวงประชุม 8 พรรคร่วมควรคุยเก้าอี้ ครม.ด้วย เตรียมพร้อมก่อนเปิดประชุมสภาฯ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังคงต้องมีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องการให้พรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น คณะเจรจาและแกนนำจะยึดตามเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. หรือยึดตามหลักการว่า เรื่องนี้ขอแยกเป็น 2 ประเด็น ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พรรคเพื่อไทยมีจุดยืน 2 ข้อ คือ ให้พรรคที่มีเสียงข้างมากได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรคลำดับ 2 ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 คน และเมื่อประกาศจุดยืน ได้มีความเห็นจาก ส.ส. ที่มีการเปิดเวทีให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งเรื่องนี้พรรคได้รับเรื่องมาแล้ว คณะกรรมการบริหารพรรคได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กรอบเวลาสรุปตำแหน่งประธานสภาฯ แล้วหรือยัง นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ว่าจะนัดพูดคุยกันในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ที่พรรคเพื่อไทย โดยเป็นการนัดหมายเพียง 2 พรรคการเมือง คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลก็ยังไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอจุดยืนของความเห็นส่วนใหญ่ของสมาชิก ก่อนยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันก่อนให้มีความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ทางพรรคเพื่อไทยจะยึดตามมติพรรค หรือยึดตามหลักการที่คุยกับพรรคก้าวไกล ในการประชุมวันที่ 28 มิถุนายนนี้ นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมกันก่อนในวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งจะเป็นการฟังเสียง ส.ส. อีกครั้ง โดยพูดคุยกันด้วยเหตุและผล เพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะไปคุยกับพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยก็ยังคงยึดตามหลักการที่แถลงไปก่อนหน้านี้ หาก ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นค้านก็ต้องทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ขอให้ได้ข้อยุติก่อน อย่างบางข้อพรรคก็รับฟังและยอมรับผิดในบางเรื่อง ที่ไม่ได้รับฟังความเห็นของบรรดาสมาชิกก่อน แต่ตอนนี้กระบวนการทุกอย่างยังไม่จบ และยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกลอย่างเป็นทางการ
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงการโหวตเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ โดยคาดการณ์ว่า การเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม หลังมีรัฐพิธีเปิดประชุมสภาฯ
ส่วนหากหลังจากนี้ในวันโหวตเลือกประธานสภาฯ มีสมาชิกของพรรคเพื่อไทยโหวตสวนมติพรรค จะมีบทลงโทษอย่างไรหรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า แม้จะเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. แต่พรรคก็มีข้อบังคับ และการดำเนินการของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่เรามีการถกเถียงในที่ประชุมจนได้ข้อยุติก่อนวันโหวตจริง โดยต้องให้เสียงออกเป็นเอกภาพ
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาบางคนออกมาระบุถึงการพลิกขั้วรัฐบาล นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ เพราะสมาชิกวุฒิสภาระยะหลังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองไม่ขอก้าวล่วงในความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา
เมื่อถามถึงความกังวลเกี่ยวกับเสียงโหวตในสภาฯ ทั้งเรื่องประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ มองว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องไปทำการบ้าน ซึ่งก็ทราบว่า พรรคก้าวไกลทำการบ้านอย่างหนัก และวันที่ 29 มิถุนายนนี้ จะมีนัดพูดคุยร่วมกันกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยจะมีการสรุปและประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมาอัปเดตมากขึ้น โดยจะนัดประชุมกันที่ทำการพรรคก้าวไกล
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า พรรคเพื่อไทยจะขอตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 คน แต่พรรคอันดับ 3 คือ พรรคประชาชาติ มองว่า ก็ควรได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 1 ตำแหน่งเช่นเดียวกัน นายประเสริฐ ไล่เรียงว่า คะแนนของพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 มีความใกล้เคียงกัน และมีความห่างกับพรรคลำดับที่ 3 มาก แต่เชื่อว่า พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติจะต้องมีการพูดคุยหาทางออกในเรื่องนี้ร่วมกัน ก่อนย้ำว่า พรรคเพื่อไทยได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า หากเป็นพรรคลำดับ 2 จะได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ต้องได้ทั้ง 2 คน
ทั้งนี้ นายประเสริฐ มองว่า ในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ในการพูดคุย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นอกจากวาระประธานสภาฯ แล้ว ควรจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อเตรียมการ เนื่องจากใกล้วันรัฐพิธีเปิดประชุมสภาฯ แล้ว. – สำนักข่าวไทย