สำนักงานกกต. 19 มิ.ย.-“ทนายรัชพล” ร้องกกต.ทิ้งหลักฐาน “เรืองไกร” ที่ยื่นสอบ “หุ้นสื่อพิธา” หลังพบข้อขัดแย้งในตัวเอกสาร พร้อมเรียกร้องระงับการสอบสวนตามาตรา 151
นายรัชพล ศิริสาคร หรือทนายรัชพล ยื่นหนังสือถึงกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อคัดค้านการสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกลกรณีถือหุ้นไอทีวี 6 ประเด็น คือ ขอให้กกต.ตัดเอกสารรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี 2566 และงบการเงินปี 66 ที่นายนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกจากการพิจารณา เพราะเห็นว่ามีความไม่ชัดเจน ขัดแย้งกันอยู่ ขอให้ระงับการสอบสวนเอาผิดนายพิธาตามมาตรา 151 เนื่องจากยังไม่มีคำพิพากษาของศาลว่านายพิธามีความผิดจากกรณีถือหุ้นสื่อ
“การที่กกต.ตั้งข้อกล่าวหาและสอบนายพิธาว่าผิดตามมาตรา 151ทั้งที่ความผิดยังไม่ชัดเจน จึงไม่เป็นธรรม ซึ่งหากกรรมการไต่สวนยังดำเนินการอยู่ ขอให้เรียกนายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี ปี 2566 มาชี้แจง เพื่อจะได้ข้อเท็จจริงว่าไอทีวีมีการประกอบกิจการสื่อหรือไม่ และประกอบกิจการอะไรบ้างหรือไม่ประกอบกิจการอะไรเลย รวมถึงเกิดอะไรขึ้นกับเอกสารรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ที่พบว่ามีเนื้อหาขัดแย้งกันอยู่ระหว่างที่นำส่งกลต.กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
นายรัชพล ขอให้กกต.ขอข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายพิธาจาก ป.ป.ช. มาประกอบสำนวนการพิจารณาคดีกรณีนายเรืองไกร อ้างว่าที่ดินใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ที่นายพิธาถือครองอยู่ เป็นทรัพย์ที่ได้รับการการรับมรดกว่ามีความแตกต่างจากการมีชื่อถือครองหุ้นไอทีวี ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่าจะมีผลอะไร มรดกมีหลายอย่าง ทั้งที่ดิน หุ้นและอื่น ๆ อาจแบ่งได้ 2 ส่วน ส่วนที่แบ่งแล้วสามารถโอนให้คนอื่นได้ ส่วนที่ยังไม่ได้แบ่งสามารถรอจัดการมรดกได้
นายรัชพล กล่าวว่า ขอให้กกต.ดำเนินการในฐานะเป็นผู้เสียหายโดยตรง แจ้งความเอาผิดกับผู้ที่นำเอกสารที่ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ที่มีความขัดแย้งกับคลิปเสียงของนายคิมห์ในที่ประชุม ซึ่งตนแจ้งความไว้ที่สน.ทุ่งสองห้องเช่นกัน แต่หากกกต.แจ้งความเองจะมีน้ำหนักมากกว่า และอยากให้การพิจารณาคดีต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ขอให้กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการดำเนินคดีเลือกตั้ง มาตรา 6 วรรค 3 ซึ่งคิดว่ากกต.น่าจะส่งอยู่แล้ว แต่ที่ตนมายื่นเพื่อให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น “ที่มายื่นเรื่องในวันนี้มีความคาดหวัง เพราะตัวเองทำงานมาเหนื่อย ไปแจ้งความ และเสียเวลาในการเตรียมเอกสารมาให้ กกต. ก็คาดหวังว่า กกต.จะนำไปพิจารณา ส่วนจะดำเนินการตามหรือไม่ ไม่อาจจะก้าวล่วงได้ เพราะ กกต.ก็เป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ส่วนตัวก็ทำในนามประชาชนคนหนึ่งที่อยากเห็นความเป็นธรรมที่เกิดกับประเทศไทย ไม่ว่าใครก็ตาม” นายรัชพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย