“ธนกร“ ย้อน “พิธา” เอาเวลาไปชี้แจงปมถือหุ้นสื่อฯ  

ทำเนียบ 7 มิ.ย.- “ธนกร​“ ย้อน​ “พิธา​“ เอาเวลาไปชี้แจงปมถือหุ้นสื่อฯ หลังจ่อเช็กบิล​ “พล.อ.ประยุทธ์​“ มอง​ “ปิยบุตร​“  เก่งสร้างวาทกรรม​ หลังเผยวลี​ “ตุลาการภิวัฒน์-​นิติสงคราม​” มั่นใจคนไทยเชื่อมั่นกระบวนการศาล


นายธนกร วังบุญคงชนะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เกี่ยวกับการกระทำรัฐประหารและออกคำสั่งมาตรา 44 ว่า วันนี้ตนคิดว่านายพิธาก็เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี ควรจะเตรียมตัวไปเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายค้านอยู่ ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลเพราะว่าวันนี้ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ   และที่ผ่านมาตนก็เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และ พล.อ.ประยุทธ์ก็พร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่า หน้าที่การตรวจสอบรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีองค์กรอิสระหลายองค์กรอยู่แล้ว ฉะนั้นหากต้องการตรวจสอบ ตนมองว่าต้องรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ตนคิดว่าวันนี้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี จะทำนโยบายให้สำเร็จได้อย่างไร เนื่องจากบางนโยบายก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อาทิ การปรับขึ้นค่าแรง 450 บาท  

พร้อมกับมองว่านายพิธา ควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีของคน 15 ล้านเสียงที่เลือกมา แต่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน และอีกประเด็นจะบอกว่านายพิธา ควรเตรียมการในการชี้แจง เรื่องกฎหมายหรือปัญหาหุ้นมากกว่า ไม่ใช่จะมาบอกว่าจะเช็คบิลรัฐบาล ซึ่งเรื่องหุ้นตนไม่ขอไปเข้าร่วม แต่ก็ควรมีทีมที่จะชี้แจง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีใครทำให้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นจากตัวเอง ซึ่งพวกของตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นตนจึงเชื่อว่ากระบวนการต่างๆคงต้องเดินหน้าไป และเป็นเรื่องที่นายพิธาต้องเตรียมการมากกว่า ที่จะมาบอกว่าจะมานั่งไล่เช็กบิล พล.อ.ประยุทธ์ คนไทยเชื่อว่าประชาชนคนไทยทราบอยู่แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศมากว่า  7- 8 ปี ฉะนั้นถ้าหากอยากจะตรวจสอบก็ดำเนินการไป ซึ่งตนก็พร้อมที่จะช่วยพลเอกประยุทธ์ชี้แจงอยู่แล้ว


ส่วนพลเอกประยุทธ์ หวั่นไหวในกรณีที่จะถูกตรวจสอบหรือไม่ นายธนกร ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นคนดี ความดีก็จะคุ้มครอง แต่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กังวลหรือรู้สึกอะไร และวานนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังมีท่าทีที่ยิ้มแย้มและหัวเราะ ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างไร ซึ่งพวกเราก็ให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการกันไป พร้อมยืนยันว่าตนก็ไม่ได้อยากจะออกมาชี้แจงตอบโต้อะไร  แต่เป็นเรื่องที่มันจะต้องชี้แจง

ส่วนการขุดเรื่องเก่าขึ้นมาจะถือเป็นการบ่มเพาะความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่  นายธนากร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องคิด  ตนจึงบอกว่าคนที่จะเป็นรัฐบาล ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านแล้ว การตรวจสอบมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน  และขณะเดียวกันการบริหารจัดการองค์กรอิสระก็เป็นผู้ตรวจสอบอยู่แล้ว รวมถึงขณะนี้เองก็มีภาคประชาชนได้มีการยื่นร้องเรียนไปยังหน่วยงานอิสระอยู่แล้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เองก็พร้อมที่จะไปชี้แจงทางหน่วยงานต่างๆเช่นกัน พร้อมกับมองว่าไม่ใช่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ในการตรวจสอบ ยกเว้นแต่เป็นเรื่องของการบริหารบางอย่างที่ต้องแก้ไข ซึ่งท่านอาจจะมองว่าไม่ดี   อาจไม่ทำต่อหรืออะไรก็ได้  พร้อมกับมองว่าควรเป็นเช่นนั้นมากกว่า

ทั้งนี้ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีเรื่องที่จะยื่นร้องว่าที่ ส.ส.พรรคอื่นต่อ กกต. น้อยมาก ไม่ค่อยมี เพราะจากที่ดูบางพื้นที่มีคะแนนที่ห่างค่อนข้างมาก จึงไม่ได้ร้องอะไร แต่ว่าที่ ส.ส.ของพรรค 36 คนนั้น ก็มีการพูดคุยกันตลอด โดยเฉพาะเลขาธิการพรรค นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พวกเราเองก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล


ส่วนในคำร้องเรียนดังกล่าวจะนำไปสู่การถอดถอน การให้ใบเหลืองหรือใบแดงของ กกต.ได้หรือไม่ นายธนกร ระบุว่าก็ไม่แน่เหมือนกัน ตนคิดว่าพรรคที่โดนร้องเรียนน่าจะเป็นพรรคอื่นมากกว่า เนื่องจากการยื่นร้องเรียนของพรรครวมไทยสร้างชาติมีไม่มาก พร้อมยืนยันว่าแต่หากมีการเลือกตั้งซ่อมพรรครวมไทยสร้างชาติเองก็พร้อม

นายธนกร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ระบุว่า ตุลาการภิวัฒน์และนิติสงครามอาจทำให้ เป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของศาล ว่าการสร้างวาทกรรมเป็นเรื่องที่นายปิยบุตร เก่ง ทำให้ดูน่าสนใจ ตนเชื่อว่าพี่น้องคนไทยยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาลอยู่ ตอนนี้เราอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่ว่าเมื่อศาลตัดสินถูกใจก็ว่าศาลดี หรือเมื่อศาลตัดสินตรงข้ามก็บอกว่าศาลไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเห็นว่ามีมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าไม่มีตุลาการภิวัฒน์ เพราะมองว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เมื่อผิดก็โดนลงโทษเหมือนกันหมด ยืนยันว่าไม่มีการใช้องค์กรในการกลั่นแกล้งใคร รัฐบาลนี้ไม่สามารถแทรกแซงองค์กรอิสระได้เหมือนกับรัฐบาลในอดีต องค์กรศาลยังเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนอยู่เราก็ต้องยอมรับ

ทั้งนี้นายธนกร มองว่าไม่สามารถอ้าง 15 ล้านเสียงที่โหวตเลือกพรรคก้าวไกลมากดดันให้ละเว้นการใช้กฎหมายได้ วันนี้ต้องมองประชาชนกว่า 70 ล้านคน ไม่ใช่มองแค่ 15 ล้านเสียง ซึ่งภายหลังจากทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ก็สามารถดำเนินการตั้งรัฐบาลไป ไม่จำเป็นต้องมาสร้างปัญหาให้กับประเทศ การเคลื่อนไหวชุมนุม การข่มขู่จะลงถนน เพื่อให้ได้ดั่งใจ ตนมองว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีความสุขในประเทศที่สงบ อยากก้าวไปสู่จุดนั้นเลย ขอให้ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม   

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม  ซึ่งอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการของพลเอกประยุทธ์ ได้มีการกำชับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่าไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ ตนไม่ขอกล่าวล่วงในกรณีนี้เพราะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และนายทักษิณยืนยันจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็กลับมาได้ไม่มีปัญหาอะไร .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]