ทำเนียบฯ 6 มิ.ย. -“วิษณุ” ย้ำกฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้ห้ามหัวหน้าพรรคถือหุ้นสื่อ ยกเว้นผู้สมัคร ส.ส. นายกฯ รมต. และว่าที่นายกฯ แต่ยอมรับข้อบังคับก้าวไกลอาจกระทบ “พิธา”
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบข้อขัดแย้งกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติหัวหน้าพรรคเรื่องการเซ็นรับรองผู้สมัคร ส.ส. แต่ข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีข้อบังคับห้ามหัวหน้าพรรคถือหุ้นสื่อ ศาลจะตีความโดนยึด พ.ร.ป.พรรคการเมือง หรือข้อบังคับพรรคโดยระบุว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติไว้จริงๆ ซึ่งตามมาตรา 56 หัวหน้าพรรคมีหน้าที่ออกใบรับรองให้กับสมาชิกพรรค แต่ในส่วนของหัวหน้าพรรคมีลักษณะต้องห้ามจำนวนมาก จึงต้องไปอิงกับรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ซึ่งมาตรา 98(3) เป็นเรื่องการถือหุ้นสื่อ เป็นมาตราเดียวที่ไม่ได้นำมาบังคับใช้กับหัวหน้าพรรค ดังนั้น ในส่วนของหัวหน้าพรรคไม่มีข้อห้ามการถือหุ้นสื่อ โดยกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหาร รวมถึงสมาชิกพรรค ถือหุ้นสื่อได้ แต่ผู้สมัคร ส.ส. นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมถึงว่าที่นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชี ถือหุ้นสื่อไม่ได้
ส่วนการที่พรรคก้าวไกล ออกข้อบังคับพรรคให้เทียบเท่าหรือเข้มข้นกว่ารัฐธรรมนูญ ถือเป็นเสรีภาพของพรรค และอาจต้องรับผลกระทบตรงนี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นเช่นนั้น เนื่องจากพรรคก้าวไกลเขียนข้อบังคับเอง นายวิษณุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีฟ้องร้องระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่ารายละเอียดเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ ขอให้สอบถามจากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาผลัดกันแพ้และชนะหลายหน แต่ก็ยังมีคดีที่ค้างอยู่ ส่วนคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ตนเองไม่ทราบและไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลจะส่งผลกระทบต่อไอทีวีอย่างไร และหากชนะจะทำให้สถานะของไอทีวีกลับมาเป็นสื่อได้หรือไม่ รวมทั้งไม่ขอแสดงความเห็นภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมรับว่าโอนหุ้นไอทีวีหมดแล้ว จะมีผลกระทบอย่างไรหรือไม่.-สำนักข่าวไทย