สมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย 1 มิ.ย.- “พิธา” ดันการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ภายใน 4 ปี เตรียมเวิร์กชอปร่วมกับ 3 สมาคมปกครองท้องถิ่น 15-16 มิ.ย. นี้ มั่นใจกระจายอำนาจได้แน่ แม้ไม่ได้คุม มท.
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือและรับฟังข้อเสนอแนะในการกระจายอำนาจกับสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า เป็นการหารือร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และ 3 สมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้บริหารท้องถิ่นในแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อการกระจายความเจริญไปสู่แต่ละท้องถิ่นภายในประเทศไทย โดยมีการพูดคุยเรื่องแผนงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลว่า ภายใน 100 วันแรกหลังมีรัฐบาลใหม่จะทำอย่างไร ทั้งคำสั่งที่ไม่เอื้ออำนวยให้ผู้บริหารท้องถิ่นทำตามศักยภาพและนำปัญหาของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง และมีสิ่งใดที่พรรคก้าวไกลจะสามารถช่วยปลดล็อคการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้
นายพิธา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกันว่าในช่วง 1 ปี และ 4 ปีจะมีเรื่องใดที่สามารถร่วมกันทำได้ รวมไปถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านประชามติของประชาชน หลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมกันและทำเวิร์กชอปในวันที่ 15-16 มิ.ย. โดยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพพูดคุยเรื่องรายละเอียดกฎหมายที่ไม่เอื้ออำนวยในการบริหารจัดการในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อถามว่ามีข้อเสนอใดที่สมาคมฯ เสนอมา หากไม่สามารถทำได้ใน 1 ปีแรก เพราะถือเป็นความท้าทายอย่างมาก นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีอะไรท้าทายเกินความต้องการของประชาชนที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งอะไรที่ต้องทำอย่างรวดเร็วและรอบคอบ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม หากแบ่งได้แบบนั้นจะทำให้รู้ว่าอะไรที่สามารถทำได้ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย และเรื่องใดต้องทำประชามติก่อนหรือต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน ถ้าเราแบ่งเป็นระยะๆ แบบนี้ ใครที่กังวลว่าการกระจายอำนาจการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เป็นเรื่องที่สุดโต่งจะได้เข้าใจและสบายใจ ว่าการทำทั้งหมดนี้เป็นการกระจายความเจริญไปสู่ประชาชนได้เร็วที่สุด
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทางพรรคก้าวไกลจะดำเนินการอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของการทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ซึ่งหากฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนเรื่องการจัดสรรงบประมาณการจัดการในแต่ละพื้นที่ ก็คงเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะวางกรอบให้ท้องถิ่นเป็นอิสระจากส่วนกลางหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การกระจายอำนาจต้องมีงบประมาณ มีภารกิจ การกระจายบุคลากร ดังนั้นต้องรอบคอบ ยกตัวอย่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มีการกระจายภารกิจกับบุคลากร แต่ทรัพยากรกับงบประมาณไม่ได้ตามลงมาด้วย ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้การบริหารจัดการเรื่องการกระจายอำนาจต้องมีอิสระในการทำงานมากขึ้น มีอิสระในการบริหารการเงินมากขึ้น ถึงจะทำให้การบริการประชาชนดีมากขึ้น
ทั้งนี้ หากพรรคก้าวไกลไม่ได้คุมกระทรวงมหาดไทย การกระจายอำนาจจะไม่มีปัญหาในการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การกระจายอำนาจเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลผลักดันมาโดยตลอด และจะทำให้เกิดขึ้นจนสำเร็จ พร้อมคิดว่าการทำงานร่วมกับ 3 สมาคม จะทำให้เป้าหมายและการวางตัวบุคคลสำเร็จ.-สำนักข่าวไทย