fbpx

ตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายใน MOU

พรรคประชาชาติ 30 พ.ค.-ที่ประชุมร่วม 8 พรรคตั้งคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน พร้อมตั้งคณะทำงานอีก  7 คณะ เตรียมตั้งให้ครบ 23 คณะตาม MOU มั่นใจปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่เป็นอุปสรรคตั้งรัฐบาล


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล  แถลงภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล  ว่าที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมีนายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน และมีคณะกรรมการร่วมจาก 8 พรรคการเมืองประกอบด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ  น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย นายวิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนจากพรรคเสรีรวมไทย นายกันต์วีร์ สืบแสง ตัวแทนจากพรรคเป็นธรรม นายวสวรรธน์ พวงพรศรี   ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยรวมพลัง และนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ  ตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ โดยจะประชุมคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งต่อไปวันอังคารที่  6 มิถุนายนที่พรรคเพื่อไทย 

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะทำงานขึ้นมา 7 คณะ   ประกอบด้วยคณะทำงานด้านค่าไฟฟ้าน้ำมันดีเซลและพลังงาน คณะทำงานด้านภัยแล้ง และเอลนีโญ คณะทำงานด้านสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะทำงานด้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ คณะทำงานด้านปัญหาสิ่งแวดล้อมและ PM 2.5 คณะทำงานด้านเศรษฐกิจปากท้องและเอสเอ็มอี และคณะทำงานด้านปัญหายาเสพติด โดยจะประชุมต่อเนื่อง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาก่อนกำหนดเป็นนโยบายและแถลงต่อรัฐสภา อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งต่อไปจะตั้งคณะทำงานเพิ่มให้ครบ 23 คณะตาม MOU ที่ 8 พรรคร่วมลงนาม  


“ยืนยันการทำงานของ 8 พรรคร่วมเป็นไปด้วยดี มีความสามัคคี เพื่อทำงานให้ประชาชน ส่วนเรื่องประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะพิจารณาร่วมกัน  จะไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล โดยหวังว่ากกต.จะเร่งพิจารณารับรองส.ส. เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลดำเนินการได้เร็วขึ้น” นายพิธา กล่าว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553