โรงแรมคอนราด 22 พ.ค.- “ศิธา” ยกมือถามกลางวง MOU ตั้งรัฐบาล ห่วงพรรคร่วมถูกดึงไปอยู่ในเกมของผู้ก่อรัฐประหาร “พิธา” ตอบต้องตัดตอนผลพวงปฏิวัติ ชี้ทำ รธน. ฉบับใหม่ใช้กรอบเวลาใกล้เคียง 4 ปี ด้าน “ชลน่าน” สัญญาอะไรบิดเบี้ยวจะทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานแถลงข่าวลงนาม MOU ของพรรคร่วมรัฐบาล ช่วงหนึ่ง น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ลุกขึ้นถามยืนกล่าวว่า ประชาชนทั่วประเทศได้กลิ่นความเจริญ เชื่อว่าประชาชนให้โอกาสทุกท่านตั้งแต่วันหย่อนบัตร เรามีความกังวลในรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว รัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะบทเฉพาะกาลที่ระบุให้ ส.ว.ที่แต่งตั้งโดย คสช. เลือกนายกรัฐมนตรีได้ใน 5 ปีแรก ทำให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือนและผิดเพี้ยนไป ขณะนี้เราถูกดึงไปเล่นในเกมของผู้ก่อการรัฐประหาร แม้จะรวมเสียงกันได้ 300 กว่าเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังถือว่าอยู่ในเกมของเขา ประชาชนอยากให้มี Advance MOU ที่ยกระดับของประชาธิปไตยให้เข้มข้นขึ้น เป็นการเซ็น MOU ร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย
นายพิธา ตอบว่า Advance MOU ต้องทำให้เป็นระบบ ตัดตอนผลพวงการรัฐประหาร คืนความเป็นปกติให้การเมืองไทย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ให้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบาย พรรคก้าวไกล ศึกษา โดยกระบวนการทำสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะมีระยะเวลาใกล้เคียงกันกับอายุของรัฐบาลในช่วง 4 ปี คงจะต้องให้ทีมงานไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่กับการดำรงอยู่ของรัฐบาลใหม่
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า สิ่งที่เรายึดมั่นคือ เราเชื่อมั่นว่าเราเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ได้รับเสียงบ่งชัดว่าเป็นผู้ต้องการประชาธิปไตย อะไรที่บิดเบี้ยวและผิดเพี้ยนในรัฐธรรมนูญจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดย ส.ว.ชุดนี้ ตามบทเฉพาะการจะหมดอายุในเดือนพฤษภาคม 2567 หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทัน ก็อยู่ในบทบัญญัติในการแก้ไข คงจะเป็นการทำ รัฐธรรมนูญให้เป็นของพี่น้องประชาชน เป็นรัฐธรรมนูญสมดุลที่คำนึงถึงการมีส่วนร่วม และเป็นของประชาชน
นอกจากนี้ นายพิธา ยังได้ตอบคำถามนายศิธา ทิวารี เรื่องเมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือรอจนหมดวาระแล้วเลือกตั้งใหม่ โดยนายพิธา กล่าวว่า กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญคงจะมีอายุใกล้เคียงกับรัฐบาล คือ 4 ปี ซึ่งต้องศึกษาเพิ่มเติมเรื่องโรดแมประหว่างการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่กับการมีรัฐบาลใหม่.-สำนักข่าวไทย