ทำเนียบรัฐบาล 19 พ.ค.-นายกฯ ยินดีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยเติบโต ผู้สร้างภาพยนตร์จากจีนพร้อมเข้ามาถ่ายทำในไทย คาดการณ์มูลค่าการลงทุนกว่า 750 ล้านบาท
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความก้าวหน้าและผลตอบรับของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ซึ่งนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจและพร้อมเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยต่อเนื่อง โดยล่าสุด ไทยได้ร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่ง ครั้งที่ 13 (Beijing International Film Festival) เป็นครั้งแรก และได้รับเกียรติจากผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ฯ ให้ไทยเป็น Country of Honour ประจำปี 2566 อีกด้วย ทั้งนี้ มีผู้สร้างภาพยนตร์จากจีนพิจารณาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยต่อเนื่อง คาดการณ์มูลค่าการลงทุน 750 ล้านบาท พร้อมสานต่อความสำเร็จให้ไทยเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอื่น ๆ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า Film Market เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่ง ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 25-27 เมษายน 2566 ซึ่งถือเป็นงานซื้อขายภาพยนตร์ที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนที่รวบรวมบริษัทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน และมีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกร่วมออกคูหา อาทิ เกาหลีใต้ มาเลเซีย จอร์แดน ไทย เป็นต้น ภายในงานเป็นการเจรจาธุรกิจซื้อขายภาพยนตร์ จัดแสดงอุปกรณ์การถ่ายทำ และการประชาสัมพันธ์สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งทางหน่วยงานของไทย ได้แก่ กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ได้ร่วมกันออกคูหาประชาสัมพันธ์เชิญชวนคณะถ่ายทำจากต่างประเทศให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ตลอดจนจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยให้กับผู้ประกอบการที่สนใจ โดยมีผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์ของไทยเข้าร่วมด้วย ซึ่งสามารถเชิญชวนและสร้างความสนใจให้แก่ผู้สร้างภาพยนตร์จากจีนพิจารณาเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยได้กว่า 7 ราย คาดการณ์มูลค่าการลงทุน 750 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยงานของไทยพร้อมสานต่อความสำเร็จในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ที่จะมีขึ้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 นี้ เพื่อขยายช่องทางการเจรจาร่วมกับผู้สร้างภาพยนตร์ทั่วโลกให้มาถ่ายทำในไทยได้เพิ่มขึ้น พร้อมประชาสัมพันธ์มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
“มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย (Incentive Measures) ได้ดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กองถ่ายต่างประเทศ มีการคืนเงิน (Cash Rebate) ซึ่งปรับขึ้นเป็นร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 2 ปี และการปรับเพดานการคืนเงิน โดยนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://tfo.dot.go.th
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีต่อความเชื่อมั่นที่ไทยได้รับอย่างต่อเนื่องจากหลายภาคส่วน ซึ่งผลตอบรับดังกล่าวเป็นเสียงสะท้อนความสำเร็จในการกำหนดนโยบายของไทย ในส่วนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พร้อมลงทุนในประเทศไทย ซึ่งพร้อมพัฒนาขีดความสามารถและขยายช่องทางการตลาด ดึงดูดการลงทุนสร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศ และพร้อมที่จะต่อยอดพัฒนาจากด้านภาพยนตร์ไปอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมทั้งในมิติอื่น ๆ” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย