ทสท.ระบุถ้าไม่ใช่ “พิธา” ขอดูก่อนว่าเป็นใคร

โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ 18 พ.ค. – “คุณหญิงสุดารัตน์” ระบุต้องคุยนโยบายก่อนแบ่งกระทรวง ส่วนถ้าต้องเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯ ระหว่างโหวต ขอดูก่อนว่าเป็นใคร ประสานเสียง “น.ต.ศิธา” พร้อมเป็นฝ่ายค้าน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลว่า วันนี้เป็นก้าวแรก ก้าวต่อไปจะจัดตั้งคณะทำงาน ซึ่งต้องมาดูกันเรื่องนโยบายรวมถึงประเด็นต่างๆ ที่แต่ละพรรคมีในเรื่องนโยบาย และมีจุดยืนในแต่ละเรื่องอย่างไร อะไรเห็นตรงกันหรือไม่ตรงกัน

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับ ส.ว. ซึ่งหน้าที่ในการประสานตรงนี้เป็นของพรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำ ถ้าเขามีอะไรให้เราช่วยเราก็คงจะดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับใคร แต่ทราบจากแกนนำพรรคก้าวไกลว่าได้ประสาน ส.ว. ไปหลายส่วนแล้ว

“จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องการแบ่งกระทรวง สิ่งแรกที่เราต้องทำและคิดตรงกันคือ การตั้งคณะทำงาน นำนโยบายของแต่ละคน ซึ่งคิดว่าเป็นนโยบายที่ดี และจะมาช่วยกันดูว่าเราจะช่วยกันผลักดันตรงนี้ได้อย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องกระทรวงใดๆ สิ่งที่ควรจะเริ่มต้นก่อนคือนโยบาย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีอาจเกิดเดดล็อกทางการเมือง จากศาลรัฐธรรมนูญหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่บางส่วนกังวล หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ได้แต่ภาวนาในฐานะที่อยู่ในการเมืองมานาน และลงพื้นที่มาก เราสงสารประชาชน ไม่ได้คิดว่าพรรคไหนจะโดนอะไรอย่างไร ซึ่งเราก็โดนมานาน แต่อะไรก็เกิดได้ ถ้าพูดกันตามตรง แต่อยากจะขอร้องทุกฝ่าย ทั้ง ส.ว. หรือพรรคการเมืองต่างๆ ประชาชนอยู่ไม่ไหวแล้ว ต้นทุนชีวิตของเขาบางมากแล้ว แทบจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ หรือเกิดเหตุการณ์ที่ก่อวิกฤติของประเทศ คนที่รับเคราะห์กรรมมากที่สุดคือประชาชน

เมื่อถามย้ำว่าหากโหวตครั้งแรกในสภาฯ ไม่ผ่าน จะต้องโหวตรอบสอง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนคนที่อาจจะไม่ใช่นายพิธาหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปรับเปลี่ยนเป็นอะไร อย่างไร ก็ต้องดูว่าถ้าไม่ผ่านต้องปรับเปลี่ยนเป็นอะไร ยังคาดเดาไม่ถูก ยอมรับว่ามีความไม่แน่นอนในวันข้างหน้าเยอะ

“วันนี้เราทำตามสัญญาประชาคมที่ได้ให้กับประชาชนว่าเราจะสนับสนุนพรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งให้จัดตั้งรัฐบาล แต่หากสลับสับเปลี่ยนกัน ต้องขอดูก่อนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เราไม่ได้กระหายว่าเราจะเป็นรัฐบาล แต่เราทำอะไรก็ได้ที่มันถูกต้อง จะให้เป็นฝ่ายค้านก็เป็นได้” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าว

ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นนิมิตรหมายอันดีหรือกลิ่นความเจริญ ขอเรียกว่าเป็นทีมของประเทศไทย ซึ่งประชาชนมีฉันทามติเลือก ส.ส. จากหลายพรรคมาเกินกว่า 60% ของสภาฯ เมื่อเป็นแบบนี้ เราต้องการอะไรอีก เชื่อว่าพี่น้องประชาชน รวมถึงนักวิชาการที่เห็นตรงกันหมด คิดว่ายังมีเวลาทั้ง ส.ว. นักการเมือง หรือประชาชน ยังมีโอกาสที่เราจะมาพูดคุยกันด้วยเหตุผลและมีวุฒิภาวะ ว่าเราควรจะให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้หรือยัง จุดยืนของเราชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเราสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยทุกพรรค และแสดงให้เห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ

“เราสนับสนุนทุกคนที่ไม่สนับสนุนเผด็จการ สั้นๆ คือไม่สนับสนุน 2 ลุง แล้วทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา ตนเข็ดแล้ว ซึ่งเราต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยสามัคคีกัน และนำพาประเทศไปให้ได้ แต่จะให้เป็นฝ่ายค้านเราก็เป็นได้ เพราะฝ่ายค้านก็ทำประโยชน์ให้กับฝ่ายประชาธิปไตยได้ ให้แกนนำไปดูว่าบุคคลที่เหมาะสมให้อยู่ตรงไหน เรายินดีอยู่ตรงนั้น เราถือว่าพรรคการเมืองตอนนี้ที่อยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายค้านเดิมแค่ 2 พรรค เขารวมกันเองก็เกินพอแล้ว สำหรับระบอบประชาธิปไตยปกติ แต่ทุกวันนี้เขามีน้ำใจ เพราะเห็นว่าเราสู้ด้วยกันมา เพื่อจะไปสู้กับกฎเกณฑ์ที่บิดเบี้ยวในวันนี้” น.ต.ศิธา กล่าว.-สำนักข่าวไทย