เตือนก้าวไกลอย่าข่มคนอื่นถ้าอยากได้เสียงโหวต

ทำเนียบรัฐบาล 18 พ.ค. – “ธนกร” ยอมรับ รทสช. ต้องรีแบรนด์พรรคใหม่ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง เชื่อก้าวไกลตั้งรัฐบาลได้ แต่ต้องไม่ข่มขู่ ส.ว. 


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ช่วงสองวันมานี้ไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ได้พูดคุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเราต้องถอดบทเรียนในการทำการเมือง เพราะขณะนี้โลกเปลี่ยนไป แม้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะสูงเกือบ 5 ล้านเสียง ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าหลายพรรคการเมือง แต่ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งต้องปรับเปลี่ยนบ้าง เพราะขณะนี้เป็นโลกของคนรุ่นใหม่

“วิธีการหาเสียงแบบเดิมจะต้องปรับเปลี่ยนและต้องใช้ดิจิทัล ในพรรคมีคนรุ่นใหม่อยู่มาก บางคนมาจากพรรคที่ได้รับชัยชนะด้วยซ้ำไป ดังนั้น ต้องปรับยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างคนทุกรุ่นให้ไปด้วยกันได้ ตนเชื่อว่ารวมไทยสร้างชาติจะไปได้ในอนาคต อาจต้องรีแบรนดิ้งพรรค และใช้ความรู้ความสามารถของคนทุกรุ่น มาผสมผสานกัน มั่นใจว่ายังไปต่อได้ โดยได้พูดคุยกับนายเอกนัฏประเด็นนี้แล้ว” นายธนกร กล่าว


เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ในอนาคตที่นายเอกณัฏจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค นายธนากร กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ตนและนายเอกนัฏอายุใกล้เคียงกัน ได้พูดคุยกันตลอด ในอนาคตต้องมาดู เพราะพรรคจะต้องมีการปรับ วันนี้ไม่ใช่ไม่ดี ดีอยู่แล้วแต่เมื่อเกิดสถานการณ์การเลือกตั้งออกมาในเทรนด์แบบนี้ก็ต้องปรับตัวให้ก้าวทันความเป็นยุคใหม่ให้ได้เท่านั้น

ส่วนจะพูดคุยกับ ส.ส. ที่ได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้ เวลา 16.00 น. จะประชุมที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่าพูดคุยกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร กล่าวว่า เมื่อวานได้พูดคุยกับนายสุชาติ ซึ่งผิดหวังบ้าง เนื่องจากเป็นคนที่ตั้งใจทำการเมืองมาก อยากจะช่วยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เช่นเดียวกับตน เพราะตนและนายสุชาติมากับนายกรัฐมนตรี ในส่วนตนก็ไม่ได้ตามเป้าหมาย ส.ส.ใต้ แม้จะได้มา 13-14 คน แต่ตั้งใจว่าจะได้มากกว่านั้น


เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะความผิดพลาดจากการแยกตัวออกมาจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า น่าจะมาจากหลายเรื่อง การแยกพรรคก็เป็นส่วนหนึ่งเพราะมีหลายองค์ประกอบ ส่วนที่เป็นบวกและชนะการเลือกตั้งก็มี หลายพื้นที่ หลายอย่างต้องปรับปรุง ปรับตัว

“วันนี้เห็นทางพรรคว่าที่รัฐบาลตั้งรัฐบาลได้ก็ยินดีด้วย เพราะจะได้เข้าไปบริหารบ้านเมืองตามนโยบายตามที่เคยบอกไว้ แต่ขอฝากไปยังพรรคก้าวไกลว่าวันนี้ขอให้ว่าที่ผู้สมัครหลายคนหยุดพฤติกรรมกดดัน ส.ว. โจมตีผู้อื่น อยากให้มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ เพราะท่านต้องไปขอเสียงสนับสนุนจากเขา ถ้าต้องการเสียงสมาชิกวุฒิสภาต้องไปเจรจาด้วยเหตุผลพูดจาด้วยดีดี บุคคลเหล่านั้นมีวุฒิภาวะและมององค์ประกอบหลายอย่าง คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าใช้พฤติกรรมกดดัน เขาก็มีเอกสิทธิ์ที่จะไม่ฟังใคร เช่นเดียวกับตัวตน ถ้าตนจะโหวตให้ท่าน แต่ท่านก็ยังคงด่าตนแบบนี้ ตนจะโหวตให้ท่านทำไม ควรต้องคุยกันดีๆ จะได้บรรยากาศที่ดี เพราะตนพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ไม่มีปัญหา” นายธนกร กล่าว

เมื่อถามว่าได้ดูการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ได้ดูการแถลงรวม แต่เห็นว่าตั้งรัฐบาลได้แล้ว แต่ควรหยุดพฤติกรรมข่มขู่ ทุกคนหวังดีกับประเทศทั้งนั้น แต่พฤติกรรมแบบนี้ไม่มีใครสนใจใคร ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวอะไร แต่ด้วยเรื่องนโยบายแตกต่างกัน โดยเฉพาะการแก้มาตรา 112 ซึ่งไม่เห็นด้วย จะให้ตนยกมือให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะการหาเสียงของพรรคก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าเราไม่แก้มาตรา 112 ต้องเดินหน้าแบบนี้ 

“คนที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็อยากให้นึกถึงบ้านเมือง ตนเป็นกำลังใจ เอาใจช่วย ในฐานะคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไร ก็ให้คนที่ได้เป็นอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลไป และให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามรัฐธรรมนูญ อารมณ์ดี ไม่ได้มีปัญหา เข้าใจสังคมการเมืองอยู่แล้ว เชื่อว่าพรรคก้าวไกลตั้งได้อยู่แล้ว เห็นว่ามีพรรคมารวมหลายเสียง พรรคละ 1 เสียงก็หลายพรรค

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ พูดอะไรกับสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่เห็นและเป็นความน่ารักของ พล.อ.ประยุทธ์ คือให้กำลังใจผู้สมัครทุกคน บางครั้งเจอผู้สมัคร ส.ส. ก็เข้าไปกอด เข้าไปให้กำลังใจ แทนที่พวกเราต้องให้กำลังใจท่าน แต่ท่านกลับมาให้กำลังใจทุกคน คิดว่าได้ใจผู้สมัครได้ใจพวกเราทุกคน

ส่วนที่นายธนกรเคยพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะวางมือทางการเมือง มีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่พูดตรงนี้ ตนไม่ก้าวล่วง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำอย่างไรต่อ พร้อมสนับสนุนและจะยืนเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ ตลอด.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง