“อนุทิน” ยัน ​”เนวิน” ไม่ได้ดีลลุง​ ประกาศไม่ตั้งรัฐบาลสู้

กทม. 20 มิ.ย.-“อนุทิน” ประณามคนปล่อยข่าว “ภูมิใจไทย” จ้องล้มนายกฯ-รัฐบาล​ ยัน ​”เนวิน” ไม่ได้ดีลลุง​ หนุน​ “พีระพันธุ์” นั่งนายกฯ​ ประกาศไม่ตั้งรัฐบาลสู้​ เหตุเหลือเวลาไม่นาน​ ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน​ ตัดจบไม่ขอชักเข้าชักออก กลับไปเป็นรัฐบาล​ แม้เปลี่ยนตัวนายกฯ

นายอนุทิน. ชาญวีรกูล​ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน วันนี้จะเดินทางไปร่วมงานบวชที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นงานของลูกพรรค


ส่วนกระแสข่าวที่นายเนวิน​ ชิดชอบประธาน สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไปพูดคุยกับลุง​ เพื่อสนับสนุนให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินบอกว่าไม่มี​ คนปล่อยข่าว ก็ต้องวิเคราะห์ด้วย ไม่ใช่ปล่อยข่าวอะไรมาไม่กลั่นกรองจะเป็นไปได้อย่างไร วันนี้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมาแล้ว​ การเดินทางวันนี้​ มาคนเดียว ไม่มีรถนำ เราทำตามบทบาท ตนอ่านข่าวถึงขั้นร้องโอ้โห ที่บอกว่านายเนวินไปคุยกับคนนั้นคนนี้ ข่าวไปถึงขั้นว่าคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา คนบุรีรัมย์ปล่อยมาอันนี้เกินไปแล้ว ยังไงเราก็เป็นมืออาชีพ ไม่มีเรื่องแบบนี้รับรองได้ จึงต้องขอความกรุณาให้ช่วยวิเคราะห์ข่าว​ มิเช่นนั้นเดี๋ยวเชื่อกันไปกันมา ก็กลายเป็นการสาดโคลนใส่กัน​

นายอนุทิน ยืนยันว่า เวลานี้จะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลสู้ มีแต่ข่าว สส.​ถูกดึงไปจากพรรคภูมิใจไทยไม่รู้กี่คนแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้มีการไปขอเสียงจากพรรค ประชาชน มารวมเป็นรัฐบาล ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับใครเลย ขอความกรุณาเรื่องข่าวลือ​ พอเราถอนตัวออกมา ก็เป็นไปคนละบทบาท หน้าที่แล้ว กระทรวงมหาดไทยผมก็ออกมา ตั้งแต่วันนั้น และไม่ได้เข้าไปอีกเลย ขนาดเก็บของยังให้เลขาและทีมไปเก็บ


เมื่อถามว่าจะอวยพรให้เขาจัดตั้งรัฐบาลกันได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขออะไรก็ได้ที่ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ เราพร้อม และอย่างที่เคยย้ำมาตลอด ส่วนตัวเชียร์นายกรัฐมนตรี และให้กำลังใจ ให้ท่านผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ ส่วนบทบาทของตนและพรรค ก็มีนโยบายที่ต้องมีจุดยืนของเรา ไม่มี ความโกรธอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว วันที่บอกว่าจะเอากระทรวงมหาดไทยกลับไปเราก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ ถ้านับเสียง เราไม่มีอะไรที่จะต่อสู้ ในเมื่อเรารับ ข้อเสนอ เขาไม่ได้ ให้เอากระทรวงมหาดไทยกลับไปและให้ไปอยู่กระทรวงสาธารณสุขกับประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เราก็ตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่าหลังพรรคภูมิใจไทยออกมามีการต่อรอง เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับตนแล้ว​ แต่ส่วนตัวมองว่าการที่พรรคเพื่อไทย เอาเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกลับไป ก็ต้องมี ตัวเลือกอยู่แล้ว ว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่รับ เขาจะต้องไปต่อได้ อะไรจะเกิดขึ้นจากนี้ก็แล้วแต่

ส่วนที่ตนเองยังอยู่ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน​ กล่าวว่าตอนนี้จะไปตั้งอะไรรัฐบาล รัฐบาลยังอยู่ นายกรัฐมนตรีก็ยังอยู่ ตนและพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เข้าไปเป็นอุปสรรค เมื่อวันที่ลาออกก็ได้โทรไปแสดงความยินดีกับนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ยังบอกเลยว่า ให้ลงพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี กับนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ก็ไม่ถึงขั้นสอนงาน​ บอกเพียงแค่ว่านายกรัฐมนตรีไปไหนต้องตามไปด้วย การสั่งงานทุกอย่างก็จะมีความคล่องตัว


เมื่อถามว่าสถานการณ์ประเทศ ตอนนี้เริ่มมีการนัดชุมนุม ขับไล่นายกรัฐมนตรี น่ากังวลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่อยากให้มีอะไรทำลายบรรยากาศที่ดีของประเทศเรา ได้แต่ภาวนา อย่าให้มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ และอยากให้ทุกฝ่ายมองว่า เป็นวิถีทางการเมือง ​พรรคไหนที่เสียงไม่พอรับเงื่อนไขอะไรไม่ได้ก็ถอยออกมา อย่าไปเพิ่มเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มขึ้น

“ขอให้คำยืนยัน ตราบใดที่ยังเป็นหัวหน้า พรรคภูมิใจไทยอยู่ ข่าวที่ออกมา ทั้งหลายว่าพรรคภูมิใจไทยทำนั่นทำนี่ เพื่อที่จะทำให้นายกฯและรัฐบาลมีอันเป็นไป ขอปฏิเสธและขอประณาม คนที่พยายามออกข่าวแบบนั้นด้วย​ ไม่รู้ว่าออกไปเพื่อที่จะเอาใจนาย หรือเอาใจใครเพื่อต่อรอง ตำแหน่งแห่งหนให้กับตัวเอง ในรัฐบาลหรือไม่​ อย่าไปโทษคนอื่นอย่าไปโทษพรรคอื่น อย่าไปเอาประโยชน์จากสถานการณ์ ผมก็ออกมา ก็เป็นไปตาม การตัดสินใจไม่มีใครบังคับให้ผมออก ท่านนายกฯหรือพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้บังคับ ท่านได้ยื่นข้อเสนอมา และผมก็ไม่ได้รับข้อเสนอนั้น ผมก็ตั้งใจออกของผมมาเอง”นายอนุทิน​ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม​ เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ควรฉวยโอกาส เรื่องคลิปเสียง เพื่อออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าว ยืนยันว่าไม่เคยฉวยโอกาส ไม่มีเรื่องคลิปก็ออกอยู่แล้ว​ เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาบอก ท่านให้ไปคิด 2-3 วัน ตนก็ปฏิเสธทันทีในวินาที ว่ารับข้อเสนอไม่ได้ และพร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน การตัดสินใจมันเกิดขึ้นวันนั้นเรียบร้อยแล้ว ไม่มีคลิปก็ออกอยู่แล้ว และไม่ได้ฉวยโอกาสอะไร อันนี้ต้องฝากท่านภูมิธรรม เพราะตนกับท่านก็เคารพรักนับถือกันดี ท่านควรรู้สไตล์การทำงานของตน ตรงไปตรงมามี มีอะไรก็บอกตรงๆ ไม่มีไปทำอะไรข้างหลัง หรือมุ่งร้ายอะไรกับใครอยู่แล้ว ไม่มีการฉวยโอกาส จะมีโอกาสอะไรในเมื่อถอยออกมาแล้ว ถ้าฉวยโอกาสมันคือ การอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลอาจจะอายุสั้นหากไม่มีพรรคภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่าตนไม่ใช่คนประเมิน ทุกเช้าก็พูดคุยกับทีมว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบอย่างไร ไม่ใช่ฝ่ายค้าน เพราะอะไรที่ดีเราก็พร้อมสนับสนุน แต่อะไรที่ไม่ถูกต้อง เราก็ตรวจสอบตามหน้าที่ ทำหน้าที่แบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องไปบอกว่า ทำแบบนี้แล้วหวังจะกลับเข้าไป เพราะเวลาไม่ได้เหลือเยอะอะไร ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านไป ไม่ต้องกังวลเลย คนที่ไปสร้างข่าวกลัวว่าตนจะกลับเข้าไป ไม่มีเลยถ้ากลับเข้าไปจะตอบประชาชนว่าอย่างไร

นายอนุทิน ยังไม่ขอวิเคราะห์เรื่องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าไม่ขอวิเคราะห์อะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ ขอทำหน้าที่ของตัวเอง ให้เรียบร้อย

เมื่อถามว่าหากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี สมการเปลี่ยนจะเปลี่ยนใจกลับไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถอยออกมาแล้วอย่าไปพูดอะไร ที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้น เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ มาถึงขนาดนี้แล้วจะชักเข้าชักออกก็ลำบาก​ และลำบากตัวพรรคร่วมรัฐบาลด้วย และตนก็ทำตัวปรับสภาพทุกอย่างแล้ว ไม่ได้ห่วงหาอาทรอะไร.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]