“อนุทิน” ยัน ​”เนวิน” ไม่ได้ดีลลุง​ ประกาศไม่ตั้งรัฐบาลสู้

กทม. 20 มิ.ย.-“อนุทิน” ประณามคนปล่อยข่าว “ภูมิใจไทย” จ้องล้มนายกฯ-รัฐบาล​ ยัน ​”เนวิน” ไม่ได้ดีลลุง​ หนุน​ “พีระพันธุ์” นั่งนายกฯ​ ประกาศไม่ตั้งรัฐบาลสู้​ เหตุเหลือเวลาไม่นาน​ ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน​ ตัดจบไม่ขอชักเข้าชักออก กลับไปเป็นรัฐบาล​ แม้เปลี่ยนตัวนายกฯ

นายอนุทิน. ชาญวีรกูล​ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน วันนี้จะเดินทางไปร่วมงานบวชที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นงานของลูกพรรค


ส่วนกระแสข่าวที่นายเนวิน​ ชิดชอบประธาน สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไปพูดคุยกับลุง​ เพื่อสนับสนุนให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินบอกว่าไม่มี​ คนปล่อยข่าว ก็ต้องวิเคราะห์ด้วย ไม่ใช่ปล่อยข่าวอะไรมาไม่กลั่นกรองจะเป็นไปได้อย่างไร วันนี้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมาแล้ว​ การเดินทางวันนี้​ มาคนเดียว ไม่มีรถนำ เราทำตามบทบาท ตนอ่านข่าวถึงขั้นร้องโอ้โห ที่บอกว่านายเนวินไปคุยกับคนนั้นคนนี้ ข่าวไปถึงขั้นว่าคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา คนบุรีรัมย์ปล่อยมาอันนี้เกินไปแล้ว ยังไงเราก็เป็นมืออาชีพ ไม่มีเรื่องแบบนี้รับรองได้ จึงต้องขอความกรุณาให้ช่วยวิเคราะห์ข่าว​ มิเช่นนั้นเดี๋ยวเชื่อกันไปกันมา ก็กลายเป็นการสาดโคลนใส่กัน​

นายอนุทิน ยืนยันว่า เวลานี้จะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลสู้ มีแต่ข่าว สส.​ถูกดึงไปจากพรรคภูมิใจไทยไม่รู้กี่คนแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้มีการไปขอเสียงจากพรรค ประชาชน มารวมเป็นรัฐบาล ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับใครเลย ขอความกรุณาเรื่องข่าวลือ​ พอเราถอนตัวออกมา ก็เป็นไปคนละบทบาท หน้าที่แล้ว กระทรวงมหาดไทยผมก็ออกมา ตั้งแต่วันนั้น และไม่ได้เข้าไปอีกเลย ขนาดเก็บของยังให้เลขาและทีมไปเก็บ


เมื่อถามว่าจะอวยพรให้เขาจัดตั้งรัฐบาลกันได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขออะไรก็ได้ที่ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ เราพร้อม และอย่างที่เคยย้ำมาตลอด ส่วนตัวเชียร์นายกรัฐมนตรี และให้กำลังใจ ให้ท่านผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ ส่วนบทบาทของตนและพรรค ก็มีนโยบายที่ต้องมีจุดยืนของเรา ไม่มี ความโกรธอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว วันที่บอกว่าจะเอากระทรวงมหาดไทยกลับไปเราก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ ถ้านับเสียง เราไม่มีอะไรที่จะต่อสู้ ในเมื่อเรารับ ข้อเสนอ เขาไม่ได้ ให้เอากระทรวงมหาดไทยกลับไปและให้ไปอยู่กระทรวงสาธารณสุขกับประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เราก็ตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่าหลังพรรคภูมิใจไทยออกมามีการต่อรอง เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับตนแล้ว​ แต่ส่วนตัวมองว่าการที่พรรคเพื่อไทย เอาเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกลับไป ก็ต้องมี ตัวเลือกอยู่แล้ว ว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่รับ เขาจะต้องไปต่อได้ อะไรจะเกิดขึ้นจากนี้ก็แล้วแต่

ส่วนที่ตนเองยังอยู่ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน​ กล่าวว่าตอนนี้จะไปตั้งอะไรรัฐบาล รัฐบาลยังอยู่ นายกรัฐมนตรีก็ยังอยู่ ตนและพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เข้าไปเป็นอุปสรรค เมื่อวันที่ลาออกก็ได้โทรไปแสดงความยินดีกับนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ยังบอกเลยว่า ให้ลงพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี กับนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ก็ไม่ถึงขั้นสอนงาน​ บอกเพียงแค่ว่านายกรัฐมนตรีไปไหนต้องตามไปด้วย การสั่งงานทุกอย่างก็จะมีความคล่องตัว


เมื่อถามว่าสถานการณ์ประเทศ ตอนนี้เริ่มมีการนัดชุมนุม ขับไล่นายกรัฐมนตรี น่ากังวลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่อยากให้มีอะไรทำลายบรรยากาศที่ดีของประเทศเรา ได้แต่ภาวนา อย่าให้มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ และอยากให้ทุกฝ่ายมองว่า เป็นวิถีทางการเมือง ​พรรคไหนที่เสียงไม่พอรับเงื่อนไขอะไรไม่ได้ก็ถอยออกมา อย่าไปเพิ่มเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มขึ้น

“ขอให้คำยืนยัน ตราบใดที่ยังเป็นหัวหน้า พรรคภูมิใจไทยอยู่ ข่าวที่ออกมา ทั้งหลายว่าพรรคภูมิใจไทยทำนั่นทำนี่ เพื่อที่จะทำให้นายกฯและรัฐบาลมีอันเป็นไป ขอปฏิเสธและขอประณาม คนที่พยายามออกข่าวแบบนั้นด้วย​ ไม่รู้ว่าออกไปเพื่อที่จะเอาใจนาย หรือเอาใจใครเพื่อต่อรอง ตำแหน่งแห่งหนให้กับตัวเอง ในรัฐบาลหรือไม่​ อย่าไปโทษคนอื่นอย่าไปโทษพรรคอื่น อย่าไปเอาประโยชน์จากสถานการณ์ ผมก็ออกมา ก็เป็นไปตาม การตัดสินใจไม่มีใครบังคับให้ผมออก ท่านนายกฯหรือพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้บังคับ ท่านได้ยื่นข้อเสนอมา และผมก็ไม่ได้รับข้อเสนอนั้น ผมก็ตั้งใจออกของผมมาเอง”นายอนุทิน​ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม​ เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ควรฉวยโอกาส เรื่องคลิปเสียง เพื่อออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าว ยืนยันว่าไม่เคยฉวยโอกาส ไม่มีเรื่องคลิปก็ออกอยู่แล้ว​ เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาบอก ท่านให้ไปคิด 2-3 วัน ตนก็ปฏิเสธทันทีในวินาที ว่ารับข้อเสนอไม่ได้ และพร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน การตัดสินใจมันเกิดขึ้นวันนั้นเรียบร้อยแล้ว ไม่มีคลิปก็ออกอยู่แล้ว และไม่ได้ฉวยโอกาสอะไร อันนี้ต้องฝากท่านภูมิธรรม เพราะตนกับท่านก็เคารพรักนับถือกันดี ท่านควรรู้สไตล์การทำงานของตน ตรงไปตรงมามี มีอะไรก็บอกตรงๆ ไม่มีไปทำอะไรข้างหลัง หรือมุ่งร้ายอะไรกับใครอยู่แล้ว ไม่มีการฉวยโอกาส จะมีโอกาสอะไรในเมื่อถอยออกมาแล้ว ถ้าฉวยโอกาสมันคือ การอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลอาจจะอายุสั้นหากไม่มีพรรคภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่าตนไม่ใช่คนประเมิน ทุกเช้าก็พูดคุยกับทีมว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบอย่างไร ไม่ใช่ฝ่ายค้าน เพราะอะไรที่ดีเราก็พร้อมสนับสนุน แต่อะไรที่ไม่ถูกต้อง เราก็ตรวจสอบตามหน้าที่ ทำหน้าที่แบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องไปบอกว่า ทำแบบนี้แล้วหวังจะกลับเข้าไป เพราะเวลาไม่ได้เหลือเยอะอะไร ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านไป ไม่ต้องกังวลเลย คนที่ไปสร้างข่าวกลัวว่าตนจะกลับเข้าไป ไม่มีเลยถ้ากลับเข้าไปจะตอบประชาชนว่าอย่างไร

นายอนุทิน ยังไม่ขอวิเคราะห์เรื่องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าไม่ขอวิเคราะห์อะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ ขอทำหน้าที่ของตัวเอง ให้เรียบร้อย

เมื่อถามว่าหากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี สมการเปลี่ยนจะเปลี่ยนใจกลับไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถอยออกมาแล้วอย่าไปพูดอะไร ที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้น เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ มาถึงขนาดนี้แล้วจะชักเข้าชักออกก็ลำบาก​ และลำบากตัวพรรคร่วมรัฐบาลด้วย และตนก็ทำตัวปรับสภาพทุกอย่างแล้ว ไม่ได้ห่วงหาอาทรอะไร.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]