ไทยสร้างไทย 16 พ.ค. – “คุณหญิงสุดารัตน์” วอน ส.ว. แสดงความกล้าหาญ เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย หนุนพรรคการเมืองที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคไทยสร้างไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค นายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี จัดประชุมภาค กทม. โดยมีผู้สมัคร ส.ส.กทม. สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ในส่วนของ กทม. เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
คุณหญิงสุดารัตน์ เน้นย้ำต่อผู้สมัครและผู้เข้าร่วมการประชุมทุกคนว่า พรรคไทยสร้างไทยจะยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยยึดหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะใช้ทุกคะแนนเสียงที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเป็นแรงผลักดันในการทำงาน เพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดส่งมอบให้กับลูกหลาน
พรรคไทยสร้างไทยขอประกาศย้ำอีกครั้งว่า จะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้เผด็จการ จะไม่ร่วมงานกับคนที่มีส่วนร่วมกับการรัฐประหาร ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม และมุ่งมั่นที่จะทำงาน โดยมีเป้าหมายในการผลักดันนโยบายที่ได้ประกาศไว้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมให้ได้ แม้จะต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นก็ตาม และจะเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของพรรค เพื่อทำให้คนไทยหายทุกข์หายจน และพรรคไทยสร้างไทยจะเสียสละทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุด้วยว่า พรรคไทยสร้างไทยยืนยันที่จะสนับสนุนและลงมติให้ความไว้วางใจผู้ที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 ตามครรลองประชาธิปไตยและมารยาททางการเมือง
“ขอสื่อสารไปถึงสมาชิกวุฒิสภาทุกคน ผู้ทรงคุณวุฒิ และในฐานะผู้ทรงเกียรติของบ้านเมือง ขอให้แสดงความกล้าหาญ เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย สนับสนุน พรรคการเมืองที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 ให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ และปฏิเสธอำนาจที่เข้ามาแทรกแซง รวมถึงการตอบแทนบุญคุณผู้ที่แต่งตั้งเข้ามา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการทำลายประชาธิปไตย ทำลายฉันทามติของประชาชน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอสื่อสารไปถึงพรรคการเมืองทุกพรรค ได้เดินหน้าผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้สำเร็จ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และวิกฤติการเมือง 2 ขั้วที่ฝังรากลึกอยู่กับประเทศไทยมายาวนานถึง 17 ปี และมาร่วมกันสร้างกติกาที่เที่ยงธรรม กติกาที่เป็นสากลให้สำเร็จ.-สำนักข่าวไทย
