ดินแดง 12 พ.ค.- “บิ๊กป้อม” นำทัพ พปชร. ทิ้งทวนปราศรัยใหญ่สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ปล่อยหมัดเด็ด ประกาศ “ครั้งนี้ภารกิจสุดท้ายรับใช้แผ่นดิน” พาประเทศก้าวข้ามขัดแย้ง ไม่วุ่นวาย พร้อมสัญญา “ผมเป็นนายกฯ ทุกนโยบายจะทำให้สำเร็จ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำ และผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง กทม. และต่างจังหวัด รวมถึงยังมีผู้สนับสนุนเข้าร่วมจำนวนมาก
เริ่มกิจกรรมประมาณ 14.40 น. ช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ 14.00 น. เนื่องจากรอประชาชนเดินทางเข้าฟังการปราศรัย โดยด้านหน้ามีการขึ้นป้ายข้อความ ระบุว่า “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวแรก คือ รับฟังความเห็นต่าง” ส่วนบนอัฒจันทร์โดยรอบ มีป้ายนโยบาย 3 ลด 7 เพิ่ม (3 ลดค่าใช้จ่ายค่าครองชีพประชาชนทันที และ 7 เพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนโดยตรง)
พล.อ.ประวิตร ขึ้นปราศรัย เริ่มต้นทักทาย “พี่น้องเอ้ย พี่น้องเอ้ย พี่น้องเอ้ย” พร้อมบอกว่า เสียงดังแบบนี้ค่อยใจชื้นหน่อย ซึ่งวันนี้เป็นวันสำคัญ เพราะเป็นการปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้ง พร้อมย้ำว่า ทุกนโยบายที่หาเสียง “ผมขอสัญญาว่าจะทำให้สำเร็จ ผมไม่มีภาระ ไม่มีธุรกิจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง มีเพียงภารกิจเดียวสุดท้าย คือ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญให้ประเทศไทย”
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า 8 ปี ในการเป็นรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ตนสามารถพูดคุยทุกคน รับฟังความเห็นต่างทุกฝ่าย ไม่มีอคติใดๆ และตลอดชีวิตตนมีหน้าที่ปกป้องประเทศจากศัตรูในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะความมั่นคง ต่อสถาบันหลักของชาติ
“วันนี้ ผมได้เห็นแล้วว่า ประเทศของเรายังมีปัญหาอีกมาก โดยเฉพาะปากท้อง และความยากจน ไปจนถึงต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ผมและพรรคพลังประชารัฐ มุ่งมั่นจะเอาชนะปัญหาของประชาชนให้ได้” พร้อมขอเสียงประชาชนที่ฟังปราศรัยว่า “รับรองไหมครับว่าเราจะไปด้วยกัน ไปด้วยกันนะครับ” ซึ่งก็มีเสียงเชียร์คึกคัก
พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำอีกว่า ทุกนโยบายที่รับปาก เมื่อตนทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี จะเดินหน้าทำทันที โดยให้ทุกคนเชื่อมั่น พร้อมขอเสียงผู้ฟังปราศรัยอีกครั้งว่า เชื่อมั่นไหมครับ ซึ่งก็มีเสียงตอบรับว่าเชื่อมั่น จากนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม จะนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง”
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้เลือกผม และพรรคพลังประชารัฐ ประเทศชาติจะไม่วุ่นวาย เศรษฐกิจจะเดินหน้า ค้าขายจะเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป ก่อนถามว่า “เอาไหมครับ” ซึ่งมีเสียงว่าเอา เพราะฉะนั้น เลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 ในทุกเขต
ทั้งนี้ บรรยากาศโดยรอบเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ มีกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ จำนวน 1 กองร้อย มาดูแลรักษาปลอดภัย เนื่องจากในบริเวณใกล้กันที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 จะถูกใช้เป็นสถานที่ปราศรัยปิดของพรรคก้าวไกล ซึ่งจะเริ่มในเวลา 18.00 น. นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ได้นําราวเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวระหว่างพื้นที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 และอาคารกีฬาเวสน์ 2 ไม่ให้เดินข้ามถึงกันได้ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกันที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงมีการคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาร่วมฟังการปราศรัย โดยมีเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย และทีมงานรักษาความปลอดภัยของพรรค ประจําตามจุดต่างๆ.-สำนักข่าวไทย