กกต. 11 พ.ค.- “เรืองไกร” ยื่น กกต.สอบเพิ่มปม “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ผิดข้อบังคับพรรค ต้องพ้นจากหัวหน้าก้าวไกล กระทบเซ็นรับรองส่งสมัคร ส.ส. อาจมีผลส่งผู้สมัคร 400 เขต เป็นโมฆะ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. ในกรณีการถือหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ได้นำข้อบังคับของพรรคก้าวไกลมายื่นเพิ่มเติม และจับประเด็นว่านายพิธาจะพ้นจากสมาชิก และหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพราะข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีการแก้ไขลงในราชกิจจานุเบกษา ปี 2563 ซึ่งข้อบังคับพรรคในข้อ 12,21,37 ซึ่งในข้อ 12 ระบุว่าสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ดังนั้นเมื่อระบุเช่นนี้ มาตรา 98 (3) จะทำให้พ้นสมาชิกหรือไม่ และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งหัวหน้าพรรค จะต้องขาดจากความเป็นหัวหน้าพรรค โดยสิ้นสุดลงเฉพาะตัว รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อที่ 36
นายเรืองไกร กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตให้ กกต. พิจารณาว่า หากนายพิธา มีลักษณะต้องห้ามเป็น ส.ส. รวมถึงต้องห้ามเป็นสมาชิกพรรค และหัวหน้าพรรค จากประเด็นการถือหุ้นไอทีวี ย่อมมีผลกับการที่นายพิธาได้เซ็นรับรองการส่งผู้สมัครของพรรคการก้าวไกลทั้งแบบเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ ทำให้ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
เมื่อถามว่า จะมีผลให้การส่งสมัคร ส.ส.ก้าวไกลเป็นโมฆะหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ให้ กกต. ตรวจสอบว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องถอดสมการว่าการเป็นหัวหน้าพรรคพ้นไปหรือยัง เพราะในข้อบังคับเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน แล้วนายพิธาก็ให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเรื่องนี้รู้มาตั้งนานแล้ว เรื่องลักษณะพรรคเคยมาปรึกษาสมัยที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรคถูกวินิจฉัยว่ามีลักษณะต้องห้ามลงสมัคร ส.ส.เพราะถือหุ้นวีลัค แต่ได้เซ็นรับรองส่งผู้สมัครของพรรคไปว่าจะเป็นอย่างไร ก็ได้ให้ความรู้เรื่องกฎหมายไป ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ซัง
นายเรืองไกร ยังกล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างยื่นเรื่องร้องเรียน ว่า ส่วนตัวไม่ชอบความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ ระมัดระวังตัวอยู่ และขอให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ ในฐานะที่เราใช้สิทธิ แต่กลับถูกทำร้ายเป็นครั้งที่ 2 ไม่อยากให้เกิดตัวอย่างเช่นนี้ในสังคม และคนที่บอกว่าอยากได้ประชาธิปไตย แต่ใช้คำหยาบคาย คำไม่สุภาพ ใช้การกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จึงไม่เห็นด้วย เคยอยู่มาทุกม็อบ ไม่สนับสนุนเรื่องอย่างนี้ เพราะแต่ละคนใช้สิทธิของตัวเอง.-สำนักข่าวไทย