จเชียงใหม่ 11 พ.ค.- “เศรษฐา” หวังเชียงใหม่ได้ ส.ส.ยกจังหวัด ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญประชาชนต้องเทใจให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ ชี้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3 คน เป็นกลยุทธ์ของเพื่อไทย เหตุระแวงโดนเตะตัดขาด้วยอุบัติเหตุการเมือง เชื่อมีความพร้อม ปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค. ดึงใจคนได้
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังหลังการจัดเวทีปราศรัยที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงโค้งสุดท้ายว่าจะสามารถดึงคะแนนเสียงได้อย่างไรบ้าง ว่า มีความมั่นใจ เพราะจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่สำคัญที่สุดของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นโฮมทาวน์ของเรา ดังนั้นเราจึงมีความคาดหวังว่าจะได้ ส.ส.ยกทั้งจังหวัด
เมื่อถามว่า มีการประเมินว่าหลังการเลือกตั้งจะกลับไปสู่วังวนการเมืองเดิม ในฐานะแคนดิเคตนายกฯ จะมีแผนรับมือกับสถานการณ์อย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า มีความมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนเหนื่อยมามากแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญ ประชาชนจะให้ฉันทามติกับพรรคที่ตัวเองชอบ ส่วนเรื่องความวุ่นวาย และความไม่แน่นอน หรือความไม่เป็นธรรมทั้งหลาย ส่วนตัวตนหลังเข้ามาสู่สนามการเมืองแล้ว เราต้องมั่นใจในระบบประชาธิปไตย และการทำงานขององค์กรอิสระ ความระแวง ความหวาดกลัวแน่นอนว่าต้องมีบ้าง อีกไม่ถึง 48 ชั่วโมง จะถึงการเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นเราต้องมั่นใจว่าระบบที่เราอยู่จะให้ความเป็นธรรม
เมื่อถามว่า วานนี้ (10 พ.ค.) บนเวทีปราศรัยมีการพูดถึงการรัฐประหาร และครอบครัวได้รับผลกระทบ นายเศรษฐา กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง แต่ถูกเชิญตัวไป และตนก็ปฏิบัติตามทุกอย่าง มีการริดรอนสิทธิของคนไทยคนหนึ่ง และเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่กระทำเช่นกัน เข้าใจ แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องของการข่มขู่ คุกคาม เพราะเราบอกแล้วว่าเราไม่ยอมรับการรัฐประหาร และเผด็จการ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก พี่น้องประชาชนต้องเทใจให้ฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้รับชัยชนะ
เมื่อถามถึงการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ของพรรคเพื่อไทย แต่ไม่บอกว่าใครจะเป็นนายกฯ เพื่อป้องกันการชี้เป้าและการเตะตัดขาใช้อุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นความหวาดระแวง เพราะเราโดนมาแล้วหลายหน ตรงนี้ก็เป็นกลยุทธ์ของเราเหมือนกัน ถือว่าต้องมีความระมัดระวังในการเดินไปข้างหน้าในเรื่องนี้ ยืนยันว่า ทั้ง 3 คนพร้อม ใครคนหนึ่งได้เป็น อีก 2 คน พร้อมทำงานคู่
ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถูกร้องตรวจสอบหุ้นสื่อถือเป็นการเตะตัดขาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูข้อเท็จจริง แต่เป็นกำลังใจให้ และแน่นอนว่าทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม และเรามีความเป็นห่วงพรรคการเมืองบางพรรคที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาเพียงชื่อเดียว
เมื่อถามว่า การปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 12 พ.ค.นี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ทุกคนติดตาม ส่วนจะมีอะไรที่จะสามารถดึงคะแนนคนที่ยังไม่ได้ตัดสินได้หรือไม่นั้น เป็นธรรมดาของการปราศรัยครั้งสุดท้าย เรามีความหวังว่าเราจะโน้มน้าวคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เลือกเราได้ ทั้งนี้ เรามั่นใจว่าเราเป็นพรรคใหญ่ เราเป็นสถาบันการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชน กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเรามั่นใจว่าทีมงานของเราพร้อม เราเชื่อว่าการปราศรัยของเราจะได้รับการติดตามจากพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พยายามหาเสียงด้วยการปลุกพลังเงียบ หวั่นจะกระทบกับคะแนนของคนที่ยังไม่ตัดสินใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่า พลังเงียบจะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งหมด พลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจก็มี เหตุผลที่เขาเงียบเพราะยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย และทุกพรรคการเมืองที่จะดึงคะแนนเสียงออกมา ส่วนอะไรที่จะดึงคะแนนตรงนี้ออกมาได้ ก็คือความชัดเจน ทั้งประสบการณ์ จริงๆ เราอย่าอยู่กับความฝัน แม้ความฝันไม่เสียเงิน เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่า ดูในอดีตดีกว่าว่า พรรคเพื่อไทยเคยทำนโยบายยากๆ ให้เกิดขึ้นได้และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน.-สำนักข่าวไทย