ก้าวไกล มั่นใจผลโพลทุกสำนักตรงกัน อยากให้ “พิธา” เป็นนายกฯ

พรรคก้าวไกล 4พ.ค.-ก้าวไกล เตรียมจัดคาราวานก้าวไกล จากถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบ มั่นใจผลโพลทุกสำนักตรงกัน อยากให้ “พิธา” เป็นนายกฯ ปิดประตูขั้วเดิมมาแข่ง ชี้คะแนนออนไลน์กับออนกราวน์ตรงกัน ปัด IO ปั่นกรแส เชื่อเกิดปรากฏการ “เรือล่มในหนอง” ไม่ใช่ “ตาอยู่”

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงว่าขณะนี้ได้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว ภายใต้กระแสที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสัปดาห์สุดท้ายจะจัดคาราวานไปหาพี่น้องประชาชนทั่วประเทศถึงที่ โดยเดินทางจาก 5 จุดทั่วไทยมาที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อคาราวานก้าวไกล จากถนนทุกสาย มุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาล เริ่มจากภาคใต้ได้ใต้ล่างนำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคาราวานภาคตะวันออกไม่แพ้ โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เช่นกัน


ขณะที่คาราวานสายเลือดอีสาน นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพระก้าวไกล และคาราวานสายมิตรภาพนำโดย นายปิยะบุตร เลขาธิการคณะก้าวหน้าโดยจะจัดปราศรัยหลักและปราศรัย ย่อยแบบดาวกระจาย เชิญชวนพี่น้องประชาชนตลอด 2 เส้นทาง ให้กาก้าวไกลทั้ง 2 ใบเพื่อเปลี่ยนแปลง และปิดท้ายที่สนามกีฬาเวช 1 เพื่อรวมพลังประชาชนทั้งประเทศส่งก้าวไกลสู่ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้พรรคก้าวไกลมั่นใจว่าประชาชนที่มีความฝันเดียวกับเรา ประชาชนจะใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในครั้งนี้ด้วยความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลง ประชาชนจะเลือกด้วยความหวังไม่ใช่เลือกด้วยความกลัว เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตไม่ใช่เลือกเพื่อกลับไปสู่อดีต

ทั้งนี้ได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้าก่อนที่จะมีผลการสำรวจความเห็นประชาชนออกมาเพราะพรรคเชื่อว่าพรรคจะมีคะแนนขยับกระโดดมา ยังเชื่อว่าช่องว่างงานคะแนนนิยมในโพลระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล ห่างกันน้อย เหลือเพียง 1% และเชื่อว่า 10วันสุดท้าย พรรคก้าวไกลจะมีคะแนนขยับขึ้นนำได้ และยังเชื่อมั่นว่าฝ่ายค้านเดิมจะได้จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน โดยเป้าหมายตอนนี้ยังเชื่อมั่นว่าเราต้องการเป็นฝ่ายเลือก และยืนยันว่าไม่ต้องการมีพรรค 2 ลุงอยู่แน่นอน


“10 วันสุดท้าย ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศจะทำงานอย่างหนัก ให้ถึงที่สุด เพื่อไปให้ถึง เป้าหมายสุดท้ายคือจำนวนส.ส 160 ที่นั่ง เพื่อให้ก้าวไกล เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้พี่ทาลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เราไม่เคยถึงมาก่อนไม่ใช่แค่ในอดีตที่ผ่านมา คำตอบสุดท้ายวันนี้ของประเทศไทย จะดังพร้อมกันทั่วประเทศชัดเจนตรงไปตรงมาก้าวก่ายทั้งแผ่นดิน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่าผลโพลที่ออกมาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้และต้องขอบคุณประชาชน ที่ตอบรับสิ่งที่พรรคพยามสื่อสารและพูดคุยกับประชาชนอย่างหนักตลอดหลานเดือนที่ผ่านมา และขอบคุณเสียงสะท้อนของโลต่างๆที่ออกมา ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจริงๆ และเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการได้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพี่น้องประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่นำพาประเทศไปสู่ข้างหน้า และไปสู่อนาคต ไม่ใช่จำกัดอยู่กับความสำเร็จในอดีต

ส่วนที่มีการพูดว่าพรรคก้าวไกล ชนะเลือกตั้ง แต่อาจแพ้จัดตั้งรัฐบาลนั้น เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ต้องคิดว่าสถานการณ์ในวันนี้ ต่างกับการเลือกตั้งปี 2562 หากเราดูแนวโน้มจากโพลต่างๆ ที่เผยแพร่ออกมา ประกอบกับโพลของฝ่ายความมั่นคงล่าสุดและโพลพรรคการเมืองต่างๆ ออกมาสอดคล้องกันหมด และการเลือกตั้งรอบนี้กับปี 2562 แนวโน้มข้างชัดเจนว่าฝ่ายขั้สรัฐบาลเดิมจะไม่มีโอกาสที่จะได้ส.ส.รวมกันเกิน 180 ที่นั่ง ขณะที่ 2พรรคหลัก ก้าวไกลและเพื่อไทยมีแนวโน้มที่ชัดเจนมากว่า จะรวมกันถึง 300 เสียง ซึ่งความห่างของพรรคอันดับ 1 ของขั้วรัฐบาลเดิมจะห่างมากๆเป็นร้อยเสียง ดังนั้นความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นไปไม่ได้ และไม่ต้องกังวลว่าเสียงของพรรคหลัก 2พรรค ในฟากเสรีนิยม จะทำให้คนอันดับ 3 เข้ามาแทรกได้ เพราะสถานการณ์โดยรวมจากโพลทั้งหมด รวมถึงการสำรวจหน้างานในแต่ละเขตเลือกตั้งสอดคล้องกันหมดว่าโดยทั่วไป 2 พรรคหลักเพื่อไทยก้าวไกล เฉลี่ยอยู่ที่ 70% แล้ว พร้อมย้ำ 2 พรรคนี้รวมกันจะเกิดสถานการณ์ไม่ใช่ “ตาอยู่”แต่จะเป็นสถานการณ์”เรือล่มในหนอง” และเสียง 2 ขั้วรวมกันไม่ใช่ปริ่มน้ำแต่จะเป็น 300 ++ ดังนั้นความชอบธรรม ในการจัดตั้งรัฐบาล เสียงข้างน้อยจับขั้วรัฐบาลจึงเป็นไปได้ยากมาก


เมื่อถามว่าพรรคมีเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112 ไม่สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย จะมีการปรับลดอย่างไรนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคก้าวไกลได้ยื่นค้างไว้ในสภา หากสภาเปิด ถ้าก้าวไกลก็จะขอให้หยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดเงื่อนไขในการดำเนินการเรื่องนี้ และคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันสิ่งที่พระก้าวไกลอยากจะเห็นคือการทำข้อตกลงร้วมกันหรือ MOU ในประเด็นใหญ่ร่วมกันเช่นต้องมีคำมั่นสัญญาว่าจะมีการจัดทำประชามติ ถามประชาชนว่าต้องการจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยมี สสร. ขึ้นมายกร่างหรือไม่ จะปฏิรูปกองทัพโดยเริ่มต้นจากการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร รวมถึงวาระสำคัญๆเช่น สุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม รวมถึงเรื่องของกฎหมายปลดล็อกท้องถิ่น ให้กระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น

ส่วนมั่นใจแค่ไหนว่าคะแนนในโลกออนไลน์จะเป็นคะแนนจริงนั้น เลขาธิการพรรคก้าวไกลกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ทั้งสามย่านมิตรทาวน์ชลบุรีและในหลายๆจุดจะเห็นว่าโลกออนไลน์กับ on Ground ไปด้วยกัน ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการปั่นกระแสเป็น io นั้นเชื่อว่าคนที่อยู่ในโลกออนไลน์ จะแยกออกและมองว่าพรรครัฐบาลปัจจุบัน คงมีพฤติกรรมที่ถนัด ใช้ io สร้างกระแส ข้อมูลเท็จ ดังนั้นขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ทำเรื่องเช่นนี้ และอย่าว่าแต่ io เลยการซื้อโฆษณา บน Facebook ยังไม่ซื้อด้วยซ้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย