ทำเนียบรัฐบาล 2 พ.ค. – “อนุทิน” ให้สิทธิลูกพรรคพิจารณาจะฟ้อง “เศรษฐา” ปราศรัยโจมตีกัญชา ทำพรรคเสียชื่อเสียง หรือไม่ ส่วน “ทักษิณ” ทวีตอยากกลับบ้าน ให้เป็นไปตามกฎหมาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ระบุว่าจะกลับมาเลี้ยงหลานว่า ไม่ใช่สิ่งที่พรรคจากวิพากษ์วิจารณ์ เพราะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงพรรคการเมืองอื่นไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย
สำหรับกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ปราศรัยที่จังหวัดนครพนม และมีเนื้อหาพาดพิงพรรคภูมิใจไทย ทั้งการอ้างว่าเลือกภูมิใจไทยแล้วได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงโจมตีนโยบายกัญชาว่าเป็นการมอมเมาประชาชน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังพิจารณาว่าส่วนไหนที่ทำให้เกิดความเสียหายกับพรรค หรือผิดกฎหมาย ต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ผู้เสียหายสามารถร้องเรียนได้ เพราะเสียหายจากการให้สัมภาษณ์ของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะการบิดเบือนพูดเท็จด้อยค่านโยบาย คนที่เสียหายคือผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย
ส่วนจะให้ผู้สมัครทั้ง 400 เขต ไปฟ้องร้องนายเศรษฐาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วแต่ผู้สมัครของพรรค เพราะถือเป็นผู้เสียหาย
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยปราศรัยโจมตีในพื้นที่อีสานใต้แสดงว่าอาจจะไม่มั่นใจในคะแนนเสียง นายอนุทิน กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ใช่บอกว่าอย่าไปเลือกภูมิใจไทย เดี๋ยวลุงตู่มา ซึ่งอย่างนี้พูดไม่ได้ เพราะเป็นการโน้มน้าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหาย รวมถึงผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค
“ถ้ามีประเด็นทางกฎหมายเราก็ต้องดำเนินการ ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้จำนวน ส.ส. มากเพียงพอก็ต้องรับตำแหน่งสำคัญ ไม่ว่าตำแหน่งนายกฯ หรืออะไร จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนพรรคที่มี ส.ส. มาเป็นลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาล และไม่เห็นด้วยกับการให้คนที่อยู่นอกบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นนายกฯ สำหรับพรรคภูมิใจไทยต้องเอาคนของพรรค ถ้าพรรคภูมิใจไทยมา ตนเป็นนายกฯ” นายอนุทิน กล่าว
ส่วนต้องเคลียร์ใจกับนายเศรษฐาหรือพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีแล้ว และว่า “พี่เขาว่าตนก่อน เขาไม่ได้ว่าตนส่วนตัว เขาว่าพรรค หนักกว่าว่าส่วนตัวอีก เพราะส่วนตัวตนยังมองว่าเป็นพี่ๆ น้องๆ กัน แต่นี่ว่าพรรค คนอื่นๆ ในพรรคก็เสียหาย ตนจึงจำเป็นต้องออกมาตอบโต้เท่านั้นเอง เรื่องส่วนตัวไม่มีอะไร เพราถ้ามีตนคงไม่เรียกพี่นิด”
ส่วนจะไฟเขียวให้ผู้สมัครทั้งประเทศฟ้องเอาผิดหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ได้มีธงเรื่องดังกล่าว แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละคน ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ เราต้องทำงานของเรา ถ้าผู้สมัครคนใดรู้สึกเสียหายก็เป็นสิทธิของเขา เราชี้นำหรือสั่งการไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่าเป็นการปิดประตูกับพรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาเขาก็มีช่องทางพูดคุย ทุกพรรคการเมือง วันนี้ภูมิใจไทยยังไม่พูดท่าทีอะไรทั้งสิ้น ตั้งแต่วันที่แถลงจุดยืนพรรคจนถึงวันนี้ยังไม่หารือกับพรรคการเมืองใด ทุกวันนี้ดูแลแต่ตัวเอง ไม่ให้บอบช้ำกับการกล่าวหา กล่าวให้ร้ายจากผู้อื่น
ส่วนเรื่องการร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถึงเวลาก็รู้อยู่แล้ว ใครเป็นคนเคาะหรือตัดสินใจหรือใครได้แต่พูด คนในวงการการเมืองเขารู้ดี ไม่กังวล
นายอนุทิน กล่าวถึงผลโพลของพรรคภูมิใจไทยช่วงโค้งสุดท้ายว่าดี และตนก็คาดหวัง ส.ส. ได้มากที่สุด ซึ่งเท่าไรก็เท่านั้น เพราะคนที่ตัดสินใจคือประชาชน หากวันนี้ไม่ติดการประชุมคณะรัฐมนตรีคงไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ที่ต้องเข้ามา เพราะมีหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ ต้องเข้ามาทำหน้าที่ให้สมบูรณ์
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างนายอนุทินกับนายเศรษฐา หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่พูดถึง ถามเรื่องอื่นดีกว่า พร้อมร้องเพลงว่า “โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเรื่องในอดีต”.-สำนักข่าวไทย