เชียงใหม่ 24 เม.ย.- “ร.อ.ธรรมนัส-ชัยวุฒิ” เปิดเวทีปราศรัยเชียงใหม่ ประกาศยุติความขัดเเย้ง บอกจะเปลี่ยนเชียงใหม่ต้องกล้าเปลี่ยนของเก่า เผย “พล.อ.ประวิตร” คนผลักดันให้มี พ.ร.บ.ลำไย
พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ ลงพื้นที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ปราศรัยหาเสียงช่วยนายนรพล ตันติมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 8 เขต 10 จังหวัดเชียงใหม่ โดยเเห่รถหาเสียงไปรอบอำเภอฮอด พร้อมทักทายประชาชนก่อนขึ้นเวทีปราศรัย
นายชัยวุฒิ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า เห็นใจชาวบ้านที่มีปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น โดยยืนยันว่าสิ่งเเรกที่พรรคพลังประชารัฐจะทำทันทีที่เป็นรัฐบาลเเละพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคือ การลดค่าครองชีพ ลดค่าไฟ ค่าเเก็ส ค่าน้ำมัน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตั้งแต่มีการต่อสู้บนถนนราชดําเนิน บนสี่แยกราชประสงค์ ตนเคยถูกยึดทรัพย์ ถูกดําเนินคดีในฐานะเป็นท่อน้ําเลี้ยงคนเสื้อแดง เมื่อปี 49 จนถึงทุกวันนี้ มีพี่น้องหลายคนติดคุกติดตาราง หลายคนมีคดีติดตัว ต้องเสียลูก เสียเมีย เสียผู้นําครอบครัว ตั้งแต่มีการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ถามว่าคนไทยได้อะไร ตอบได้ทันทีว่ามีแต่เพิ่มความบอบช้ำ เกิดความแตกแยกความสามัคคี บ้านใดเมืองใดไม่มีความสามัคคี อย่าหวังเลยว่าประเทศชาติจะเกิดความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน
“จึงเป็นที่มาที่พรรคพลังประชารัฐประกาศนโยบายว่า เราต้องการให้คนไทยรักกัน นั่นคือนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง เราจะเปลี่ยนเชียงใหม่ เราต้องกล้าเปลี่ยน ของเก่า เราไม่เอา ของเก่า ถอดทิ้งจากหัวใจดีกว่า การเลือกคนมาเป็นผู้แทน ถือว่าสําคัญมาก” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคเหนือลําไย ถือว่าเป็นพืชผลทางการเกษตรของพี่น้องชาวเหนือ แต่กลับไม่มีกฎหมายคุ้มครอง อย่างเช่น พ.ร.บ.ลําไย เมื่อครั้งที่ตนเป็นรัฐมนตรี พยายามผลักดันพ. ร. บ.ลําไยมาจนตอนนี้เรามีพ.ร.บ.ลําไยคุ้มครองแล้ว โดยเมื่อปี 2563 พี่น้องได้ชดเชยราคาลําไยไร่ละสองพันบาท ซึ่งบุคคลที่อยู่ข้างหลังในการผลักดันช่วยจนสำเร็จ คือผู้ใหญ่ใจดีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังปรารัฐ ที่ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนเท่าเทียมกัน ตั้งใจจะมาพัฒนาประเทศของเราอย่างแท้จริง
“พี่น้องครับ ในส่วนของบัตรประชารัฐ ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งประกาศว่า เราจะเปลี่ยนบัตรพวกนี้ไม่เอาแล้ว พี่น้องจะยอมหรือไม่ เราต้องสามัคคี เราต้องเลือกเจ้าของบัตร เจ้าของความคิด ชื่อมันบอกชัดเจนว่า บัตรประชารัฐ ดังนั้น บัตรประชารัฐที่อยู่กับคนไทย ณ เวลานี้กว่า 40 ล้านกว่าชีวิต เราจะเปลี่ยนมูลค่าในบัตรจาก 300 บาทเป็น 700 บาท ซึ่งบัตรประชารัฐยังมีทุนอีก 30,000 บาทที่พี่น้องจะสามารถนำไปประกอบอาชีพต่อยอดได้ และยังมีประกันชีวิต ทันทีที่เราหมดลมหายใจ คนข้างหลังไม่ลําบาก สามารถไปเบิกเบี้ยประกันได้อีก 200,000 บาท นี่คือสิ่งที่เราต้ังใจทำให้ครับ สุดท้ายผมขอฝาก ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ และขอให้มั่นใจว่า เราทำจริงทำทันที มาร่วมกันก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว.-สำนักข่าวไทย