ระนอง 23 เม.ย. – แหลงแล้วทำ ! “อนุทิน” หาเสียง “ระนอง” ชูเป็นเมืองเศรษฐกิจระดับโลก ปั้นแลนด์บริดจ์ เชื่อม 2 ฝั่งทะเล
23 เมษายน 2566 ณ ลานอเนกประสงค์หน้าเทศบาลเมืองระนอง จ.ระนอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่ช่วย นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 2 หาเสียง มีประชาชนรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจในความทุ่มเทของนายคงกฤษ ในการเป็นผู้แทนประชาชน ที่ผ่านมา มีผลงานรับใช้ประชาชน ล่าสุด ประสบความสำเร็จ ในการขยายพื้นที่โรงพยาบาลระนอง พื้นที่ 16 ไร่ อำนวยความสะดวกประชาชน สิ้นสุดการรอคอยมาหลาย 10 ปี เป็นเครื่องสะท้อนความมุ่งมั่นในการทำงานของนายคงกฤษ
สำหรับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย นโยบายเร่งด่วน คือ พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย นโยบาย เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท และ กองทุนผู้สูงวัย
“หลักคิดของภูมิใจไทย คือเราต้องให้โอกาสคนไทย และเราเชื่อมั่นในศักยภาพของประชาชน ว่าจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างยั่งยืน หากได้รับโอกาส เมื่อเป็นรัฐบาล นโยบายพวกนี้ เราได้เห็นความคืบหน้าใน 6 เดือนแน่นอน แต่ถ้าเป็นนายกฯ จะเร็วกว่านั้น”
ขณะที่นโยบาย ซึ่งต้องทำแน่นอน คือโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมฝั่งอันดามันกับอ่าวไทย จากจังหวัดระนองสู่ชุมพร นี่คือนโยบายหลัก ที่จะเปลี่ยนให้ระนอง เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก ด้วยการพัฒนาท่าเรือสองฝั่งทะเลอันดามัน และระนอง โดยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างกัน เป็นระบบราง รถไฟทางคู่ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง มอเตอร์เวย์ ตามแนวเส้นทางจะมีท่อส่งพลังงาน โครงการนี้ ไม่ต้องแยกแผ่นดิน ไม่มีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม และความมั่นคง จะเกิดขึ้นในไทย ไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติ นี่คือความมั่นคงของประเทศไทย ที่จะเปลี่ยนระนอง และจังหวัดใกล้เคียง ให้เป็นพื้นที่ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจระดับโลก
“พรรคภูมิใจไทย แหลงแล้วทำ เราทำงาน ไม่สร้างความขัดแย้ง ถ้าชอบแบบนี้ ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย พรรคเรามีผลงานมาก กระทรวงคมนาคม เราพัฒนาถนน กระทรวงสาธารณสุข เราเดินหน้านโยบายฟอกไตฟรี เราจัดหาเครื่องฉายมะเร็ง ไปในทุกพื้นที่ อสม. เราเพิ่มค่าตอบแทน และผลักดันให้ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 2,000 บาท ซึ่งบรรจุในร่างกฎหมายงบประมาณแล้ว เราทำงานไม่เกรงใจใคร เรามุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน ผมจะทำให้ระนอง เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกใบนี้ ผมจะทำให้ดูครับ” .-สำนักข่าวไทย
