ขอนแก่น 19 เม.ย.- “เศรษฐา” นำทีมเพื่อไทยปราศรัยที่น้ำพอง ชาวบ้านมอบก่องข้าวเหนียว-พวงมาลัยถั่วฝักยาวต้อนรับ ประกาศนโยบายยึดทรัพย์คนค้ายา ดันเงินดิจิตอล 1 หมื่น พร้อมขอยกจังหวัดทั้ง 11 เขต
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษก พรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ นายชัชวาล พรอมรธรรม เขต 1 เบอร์ 6 , น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ เขต 2 เบอร์ 9 , นายจตุพร เจริญเชื้อ เขต 3 เบอร์ 5 ,นางมุกดา พงษ์สมบัติ เขต 4 เบอร์ 11 ,นายภาควัต ศรีสุรพล เขต 5 เบอร์ 3 , นายสิงหภณ ดีนาง เขต 6 เบอร์ 5 , นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข เขต 7 เบอร์ 6 , น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ เขต 8 เบอร์ 6 , น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร เขต 9 เบอร์ 4 , นายวันนิวัติ สมบูรณ์ เขต 10 เบอร์ 9 , นายพชรกร อรรณนพพร เขต 11 เบอร์ 4 ท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 2,000 คน
เมื่อนายเศรษฐามาถึง ประชาชนได้มอบก่องข้าวเหนียว พร้อมปลาร้าบอง เนื้อแดดเดียว พวงมาลัยถั่วฝักยาว พวงมาลัยกล้วยให้ เป็นการต้อนรับที่มาเยือนจังหวัดขอนแก่นด้วย จากนั้นนายเศรษฐา กล่าวปราศรัยว่า พอแล้วสำหรับ 8 ปีที่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เรื่องของยาเสพติดตอนนี้ยาบ้าเม็ดละ 20 บาท แพร่หลาย ซื้อง่ายยิ่งกว่าก๋วยเตี๋ยว พรรคเพื่อไทยกับเรื่องยาเสพติดไปด้วยกันไม่ได้ ผู้เสพยาต้องไม่เป็นผู้ผลิต ต้องเข้ารับการรักษาเหมือนกับผู้ป่วย คนขายยาเสพติดต้องนำกลับมาลงโทษอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นคนที่ร่ำรวย กฎหมายยึดทรัพย์ต้องเด็ดขาด นโยบายปราบยาเสพติดของเพื่อไทยต้องยึดทรัพย์โดยเร็วที่สุด สำหรับนโยบายด้านการศึกษาของบุตรหลานทุกคน ต้องเรียนฟรี ทั้งระดับอาชีวะ ให้นักเรียนเรียนมาแล้วตรงตามต้องการของแหล่งงาน อาหารกลางวันมีเสริม รถรับส่งต้องมีพร้อม
นายเศรษฐา กล่าวว่า ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่แค่ประชาชนอย่างเดียวที่ได้ ร้านค้าขอให้เตรียมพร้อมกับการผลิต ให้ทุกคนได้มาซื้อ เราต้องการกระตุ้นตามแหล่งบัตรประชาชนภายใน 4 กิโลเมตรและต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนให้เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยมีนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถทางด้านเกษตรกรรม เราจะนำนวัตกรรมมาช่วยให้พี่น้องมีรายได้สูงขึ้น นายกรัฐมนตรีคนเดิมนั่งอยู่แต่ในทำเนียบฯ ไม่เคยเดินทางออกไปต่างประเทศเพื่อเปิดตลาดใหม่ นายกรัฐมมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นตนหรือน.ส.แพทองธาร หรือนายชัยเกษม ทั้งสามคนมั่นใจว่าจะเดินไปเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ของพี่น้องประชาชนไปขายในต่างประเทศ
“ผมขออ้อนวอนว่าวันที่ 14 เดือนพฤษภาคมนี้ วันนั้นจะเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ผมหวังว่าทุกท่านจะเดินเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยทั้งสองบัตรสองใบ โดยจังหวัดขอนแก่นต้องยกทั้ง 11 เขต ถ้าไม่เช่นนั้นพรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถผลักดันนโยบายได้ ผมอยากกลับมาเห็นรอยยิ้มของพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับมาแล้วทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข” นายเศรษฐา กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ประชาชนทุกคนต้องได้รับสนับสนุนจากประชาชน พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่จะชนะเผด็จการ ขอให้ประชาชนเลือกเพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค ให้เกินครึ่ง ให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ไปเป็นรัฐบาล ส่วนนโยบายต่าง ๆ เพื่อไทยทำได้ทุกครั้ง เป็นพรรคการเมืองที่มีเกียรติในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังโจมตีพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยมีนโยบายจับต้องได้ สำหรับนโยบายเงินหมื่นดิจิทัล ต้องการนำพาสังคมไทยทั้งระบบเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลพรรค การมาปราศรัยที่เขาสวนกวาง ซึ่งมีไก่ย่างสวนกวาง ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่มาจากผลิตภัณฑ์ชุมชนสอดคล้องกับนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ค้นหาผู้ที่มีความสามารถ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว เป้าหมาย 20 ล้านอัตราจากโครงการนี้
“จังหวัดขอนแก่น ทั้ง 11 เขต ยกจังหวัดให้โลกเห็นว่าขอนแก่นแน่แค่ไหน ประชาธิปไตยแบบกินได้เท่านั้นคือทางออกของประเทศ วันนี้เหลืออีก 25 วันที่จะลงคะแนน มีโอกาสเราจะมาพบมาเยี่ยมมาหากันใหม่” นายณัฐวุฒิ กล่าว.-สำนักข่าวไทย