กทม. 18 เม.ย.- “นฤมล” ลงพื้นที่เอกมัย 19 หาเสียง ชูนโยบาย “บ้านประชารัฐ 360 องศา” เปลี่ยนเงินเช่าเป็นเงินผ่อน สานฝันให้ทุกคนมีโฉนดของตัวเอง
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พร้อมด้วย นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. เขตวัฒนา-คลองเตย หมายเลข 8 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชุมชนลีลานุช เอกมัย 19 พร้อมเปิดตัวพื้นที่ต้นแบบ “บ้านประชารัฐ 360 องศา” โครงการต้นแบบจากนโยบายบ้านประชารัฐ 360 องศา “เข้าถึง เข้าใจ ทำได้จริง” โดยได้ร่วมพูดคุยและรับฟังความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนในชุมชน
นางนฤมล กล่าวว่า เรามาดูแลนโยบายเพื่อที่จะทำให้กับเขตวัฒนา-คลองเตย โดยผู้สมัครของพรรค นายภูวกร หรือ ไปป์ ได้เสนอกับผู้บริหารพรรคให้แก้ไขในเรื่องของที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนทันที หากได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาฯ จะต้องมีการผลักดันผ่านหน่วยงานต่าง ๆ และ กทม. รวมถึงภาคเอกชนที่จะต้องเข้ามาช่วยในเรื่องของการออกแบบก่อสร้าง ตกแต่ง ให้ถูกใจผู้อยู่อาศัย และบริเวณภายนอกก็ควรจะเหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ นอกจากนี้จะต้องมีการประสานกับธนาคารของรัฐ ที่จะเข้ามาช่วยในด้านการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำด้วย
นางนฤมล กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะผลักดันให้เป็นสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ซึ่งอยู่ในโครงการบ้านประชารัฐ และเป็นบ้านหลังแรก โดยพี่น้องประชาชนจะได้มีบ้านที่สวยงาม มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และสามารถสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้ เช่น เมื่อเรามีการพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ หรือร้านค้าอื่น ๆ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา รายได้ก็จะตามมา
“พื้นที่บริเวณนี้จะต้องได้รับการพัฒนาเหมือนเช่นคอนโดฯ ตึกใหญ่รอบข้างที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ชุมชนตรงนี้ก็จะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้ได้ วันนี้ต่อให้เราจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็น เราก็จะผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งนโยบายนี้เราจะทำให้เกิดขึ้นในทุกเขต เพื่อให้ชาว กทม.ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ เพราะคน กทม.ยังมีอีกหลายชุมชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง” นางนฤมล กล่าว
ด้านนายภูวกร กล่าวว่า เกิดและโตที่นี่ และต้องการจะผลักดันโครงการบ้านประชารัฐ ได้รับข่าวจากประธานชุมชนว่า ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามชุมชน โดนไล่รื้อถอนบ้านที่อยู่อาศัยไปแล้ว จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีกในชุมชนนี้ ตนต้องการให้ชุมชนลีลานุชแห่งนี้ เป็นชุมชนแรกที่ได้ริเริ่มโครงการบ้านประชารัฐ ที่ผ่านมาเราเคยมีบ้านลักษณะเช่นนี้จากภาครัฐมาแล้ว แต่วันนี้จะทำให้ดีขึ้นอีก
“อาชีพของผมที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงเข้าใจโครงการนี้อย่างถ่องแท้ เราไม่ได้มาขายฝัน แต่สามารถทำได้จริง ทุกคนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากปกติที่เราเช่าอยู่ แต่วันนี้เราจะเปลี่ยนเงินเช่าไปเป็นเงินผ่อน เพื่อที่จะทำให้เรามีบ้านของตัวเองให้ได้ ทุกคนจะต้องมีโฉนดเป็นของตัวเอง และมีกรรมสิทธิ์ในบ้านที่อยู่อาศัยของเรา ซึ่งจะพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งเช็กอินใหม่ไม่แตกต่างอะไรจากคลองโอ่งอ่าง ที่สามารถสร้างเม็ดเงิน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้ด้วย ผมขอฝากเบอร์ 8 สำหรับเขตวัฒนาและคลองเตย และเบอร์ 37 พรรคพลังประชารัฐไว้ด้วย” นายภูวกร กล่าว
นายภูวกร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่ เพราะเชื่อว่าทุกคนก็ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความมั่นคง โดยเมื่อเราได้ประชาสัมพันธ์นโยบายบ้านประชารัฐออกไป ถือว่าเป็นการสร้างความหวังให้กับประชาชน ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านในหลายชุมชนก็เริ่มมีการเก็บเงินออม เพื่อให้พวกเขามีบ้านได้เร็วขึ้นกันแล้ว
นางนฤมล กล่าวด้วยว่า บรรยากาศการหาเสียงในพื้นที่ภาพรวมของ กทม. ส่วนใหญ่ที่ไปพบและพูดคุยจะพบว่า ประชาชนอยากจะให้ช่วยในเรื่องเศรษฐกิจและการทำมาหากิน เพราะนอกจากเรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว พื้นที่ในการทำมาหากินก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องมีการจับมือกันหลาย ๆ ฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาและสนับสนุนประชาชนให้สามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองได้ นอกจากนี้ ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านไป มีผลกระทบทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากมาก พรรคพลังประชารัฐ จึงมีนโยบายจัดตั้งกองทุนที่จะมาพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise (SE) ที่มีพระราชบัญญัติรองรับอยู่แล้ว นำมาพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยกลไกของตลาดทุนจะเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย