“พิธา” ปราศรัยหนองคาย ปลื้มกระแสก้าวไกลพุ่ง

หนองคาย 17 เม.ย. – “พิธา” ปราศรัยหนองคาย ปลื้มกระแสตอบรับ ‘ก้าวไกล’ พุ่งทะยาน เปิด ‘วิสัยทัศน์อีสาน 2574’ สร้างเศรษฐกิจให้อีสานหายจนใน 10 ปี ชูนโยบายปฏิรูปที่ดิน-หวยใบเสร็จช่วยเอสเอ็มอี เย็นนี้แท็กทีม ‘ปิยบุตร’ ปราศรัยใหญ่อุดร


วันที่ 17 เมษายน 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ‘ครูใหญ่’ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และ นายิกา ศรีเนียน หรือ ‘แคนแคน’ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัยแนะนำผู้สมัครและนโยบายพรรคก้าวไกล ที่ จ.หนองคาย

โดยช่วงเช้าได้เปิดเวทีที่หน้าวัดหายโศก ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย หาเสียงให้ อภิญญา บุญจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 1 (เบอร์ 10) ส่วนช่วงบ่ายเปิดเวทีที่วัดหนองคอน ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี หาเสียงให้ แสวง ราชพลแสน ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 2 (เบอร์ 8) โดยทั้งสองเวทีต่างได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง


ในส่วนของพิธา ระบุว่าพรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมาได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเราเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ นโยบายไม่ได้มีแต่สำหรับคนรุ่นใหม่ แต่มีนโยบายเพื่อคนรุ่นใหญ่ด้วย ทั้งรัฐสวัสดิการ เบี้ยผู้สูงอายุ ฯลฯ นอกจากนี้ แม้พรรคก้าวไกลจะเป็นคนติดดิน ป้ายหาเสียงอาจจะน้อยไปหน่อย และเป็นพรรคที่ไม่มีหัวคะแนน แต่เวลามีปัญหาประชาชนเข้าถึงได้ทันที ไม่ต้องผ่านใคร ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลคือนักการเมืองสายเลือดใหม่ ที่ไม่ใช่นักการเมืองหน้าเก่าในขวดใหม่หรือลูกหลานของใคร ประชาชนคนธรรมดาก็มาเป็น ส.ส. ได้ และเราพร้อมต่อสู้ร่วมกับประชาชนเสมอ พรรคก้าวไกลเป็นอย่างเสื้อที่ตนใส่มาในวันนี้ ที่เขียนข้อความว่า ‘ตรงไปตรงมา’ นี่เป็นคุณค่าที่ประชาชนต้องการ เราคือความตรงไปตรงมาทางการเมือง เศรษฐกิจ และอนาคต

ในส่วนของภาคอีสานนั้น สิ่งที่เรามองเห็นตลอดเวลาที่ผ่านมา คือทั้งสภาฯ เรามี ส.ส.อีสานถึง 132 คน จาก 500 คน หรือ 1 ใน 3 ของรัฐสภา แต่คำถามคือทำไมอีสานยังเจ็บยังจน มีแหล่งน้ำมากมายแต่ทำไมยังแล้งซ้ำซาก นั่นแปลว่าระบบการเมืองและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยมีปัญหาแน่นอน พรรคก้าวไกลจึงเสนอว่าประชาชนทุกคน รวมทั้งที่ภาคอีสานแห่งนี้ ต้องได้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของตัวเอง แก้ปัญหาด้วยมือของประชาชนเอง และหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะทำประชามติทันที ถามประชาชนว่าเห็นชอบหรือไม่ ให้มีการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และโอนถ่ายอำนาจการบริหารจังหวัดไปสู่ท้องถิ่นในทุกจังหวัดภายใน 5 ปี

พิธายังกล่าวต่อไปว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว พรรคก้าวไกลเคยนั่งคิดว่าจะแก้คำสาปห้ามพัฒนา หยุดการแช่แข็งภาคอีสานได้อย่างไร จนนำมาสู่วิสัยทัศน์อีสาน 2574 ของพรรคก้าวไกล ที่มีเป้าหมายในการทำให้ภาคอีสานหายเจ็บหายจนภายใน 10 ปี แก้ปัญหาที่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สิน การสาธารณสุข และตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกอย่างของภาคอีสาน ตามหลังประเทศไทยในภาพรวมกว่า 2 เท่าเสมอ


อย่างเช่นที่จังหวัดหนองคายนี้ เป็นจังหวัดที่เน้นเศรษฐกิจชายแดน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นได้เพียง ‘การค้าผ่านแดน’ ไม่ใช่ ‘การค้าชายแดน’ เป็นเพียงทางผ่านของสินค้าจากต่างประเทศที่จะไปที่ลาว มาลงแหลมฉบัง ส่งมาผ่านที่หนองคาย แล้วค่อยส่งต่อไปให้ลาว แต่สิ่งที่ขาดไปคือศูนย์กลางการค้าในระดับภาคอีสาน

พิธากล่าวต่อไป ว่าหากจะทำให้เศรษฐกิจชายแดนเป็นการค้าชายแดนได้อย่างแท้จริง SMEs ในจังหวัดชายแดนจะต้องเข้มแข็งมากกว่านี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีนโยบายส่งเสริม SMEs หลายนโยบาย เช่น หวย SMEs ทุนสร้างตัว ทุนตั้งตัว ที่ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ให้เศรษฐกิจติดดินของประชาชนได้เติบโต ควบคู่ไปกับการสร้างรัฐสวัสดิการ รีดงบประมาณไขมันกองทัพมาทำสวัสดิการให้ประชาชน พร้อมกับการสร้างเทคโนโลยีที่เป็นของประเทศไทยเอง เช่น น้ำประปาดื่มได้ รถเมล์ไฟฟ้า ฯลฯ ที่จะนำไปสู่อุตสาหกรรมใหม่และการจ้างงานใหม่ๆ ด้วย

“ภาพอนาคตของภาคอีสานในปี 2574 สำหรับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องที่เรียบง่าย เพียงแค่การทำให้ทุกคนตื่นมาตอนเช้ามีน้ำสะอาดใช้ ส่งลูกไปโรงเรียนก็เรียนฟรีจริง เดินทางไปไหนมีคมนาคมสาธารณะใช้ มีงานที่ดีใกล้บ้านตัวเอง ไม่ต้องเดินทางไปหางานไกลๆ ทำ ตอนเย็นกลับบ้านมาได้กินข้าวพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ไม่ต้องรอมาเจอกันทุกวันหยุดเทศกาล นี่คือเป้าหมายที่เรียบง่าย ไม่ต้องคิดถึงตัวเลขสวยหรูที่จับต้องไม่ได้” พิธากล่าว

ด้านอภิชาติ ระบุว่า ที่ผ่านมาตลอด 4 ปี ไม่ว่าตนและพรรคก้าวไกลไปที่จังหวัดไหน ก็จะต้องเจอปัญหาที่ดินอยู่ทุกจังหวัด หลังการศึกษาปัญหามาอย่างยาวนาน เราก็พบว่านี่เป็นปัญหาที่เกิดจากการรวมศูนย์อำนาจการตัดสินใจ และวิธีคิดในการจัดสรรที่ดินโดยรัฐบาล ที่ทำให้เกิดปัญหาสะสมมาหลายทศวรรษที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข ที่ผ่านมาทุกพรรคการเมืองเสนอการแก้ปัญหาแบบผิวเผิน แต่วันนี้พรรคก้าวไกลกำลังเสนอการรื้อระบบที่ดินครั้งใหญ่ ให้สมกับที่เป็นประเทศประชาธิปไตย ที่มีการกระจายอำนาจในการจัดการปัญหาที่ดิน

ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาที่ไร้ประสิทธิภาพ เป็นเพราะโครงสร้างทางการเมืองที่มาจากการรัฐประหาร ทุกครั้งที่เกิดการรัฐประหาร จะเกิดการไล่ประชาชนออกจากที่ดินทำกินทุกครั้งไป เช่น การรัฐประหารในปี 2557 นำไปสู่นโยบายทวงคืนผืนป่า รวมศูนย์อำนาจการจัดการที่ดินอยู่ที่ 8 กระทรวง เต็มไปด้วยการออกกฎหมายที่ทับซ้อนกัน ใช้อำนาจเผด็จการออกกฎหมายโดยไม่ฟังเสียงของประชาชน ทำให้ประชาชนกลายเป็นผู้ผิดกฎหมาย ทั้งที่อยู่ทำกินมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย

พรรคก้าวไกลจึงยืนยันว่าจะต้องแก้ปัญหาการเมือง แก้กฎหมายที่เป็นมรดกการสืบทอดอำนาจ คสช. ยกระดับกรรมสิทธิ์ที่ดินของประชาชนทันที รัฐบาลพรรคก้าวไกลจะทำให้เกิดการพิสูจน์สิทธิในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างประชาชนกับรัฐ แก้เงื่อนไขการพิสูจน์สิทธิที่ไม่เป็นธรรม เช่น ให้รัฐบาลต้องยอมรับหลักฐานว่าประชาชนมีการทำกินของประชาชนและการดำรงอยู่ของชุมชนมาก่อน ไม่ใช่แค่หลักฐานเอกสารที่รัฐออกให้เท่านั้น นอกจากนี้ รัฐบาลก้าวไกลยังจะตั้งกองทุนพิสูจน์สิทธิ 1 หมื่นล้านบาท นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้การพิสูจน์สิทธิเสร็จสิ้นภายใน 4 ปี ไม่ให้เป็นปัญหาค้างคาอีก

รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484, พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ, พ.ร.บ.ป่าสงวน, พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า รวมทั้งกฎหมายที่ราชพัสดุ เปลี่ยนอำนาจในการบริหารจัดการ ป้องกันสิทธิของประชาชนให้ชัดเจน เขียนให้ชัดว่าพื้นที่อนุรักษ์และที่ราชพัสดุต้องไม่ใช่พื้นที่ที่มีประชาชนอยู่อาศัยและเป็นชุมชนดั้งเดิมมาก่อน ซึ่งวันนี้พรรคก้าวไกลเตรียมร่างแก้ไขกฎหมายทุกฉบับไว้พร้อมแล้ว สามารถยื่นเข้าสภาฯ ได้ทันทีที่มีการเปิดสภาฯ หลังการเลือกตั้ง

สำหรับช่วงเย็นวันนี้ พิธา พร้อมด้วยแกนนำพรรคก้าวไกล จะร่วมเวทีปราศรัยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี ทั้ง 10 เขตของพรรคก้าวไกล โดยจะมี ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล มาร่วมเป็นผู้ปราศรัยในเวทีนี้ด้วย โดยเวทีจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]