ทำเนียบรัฐบาล 10 เม.ย.-โฆษกรัฐบาลประชุมคณะกรรมการโฆษกกระทรวง ย้ำกรอบแนวทางหลักการประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญการบริหารประเด็นข้อมูลข่าวสาร บูรณาการการทำงาน ต่อต้านข่าวปลอม เพื่อประโยชน์ประชาชน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโฆษกกระทรวง ครั้งที่ 1/2566 โดยมีโฆษกกระทรวง ผู้แทนและตัวแทนจาก 20 กระทรวงและหน่วยงาน เข้าร่วมการประชุม โดยนายอนุชา แจ้งให้ที่ประชุมทราบแผนปฏิบัติการด้านการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่จะใช้เป็นกรอบแนวทางหลักในการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนของประเทศ เพื่อกำหนดเรื่องสื่อสารที่สำคัญให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างถูกต้อง แม่นยำ รวมทั้งใช้ในการบริหารประเด็นข้อมูลข่าวสารและต่อต้านข่าวปลอม (Fake News) โดยสามารถโหลดแผนปฏิบัติการดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ของกรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งแจ้งต่อที่ประชุมถึงผลการดำเนินงานของรัฐบาล ปีที่ 4 (25 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2565) ซึ่งยังได้จัดพิมพ์รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลฯ ในรูปแบบ e-book อีกด้วย
“ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ การปฏิบัติการสารสนเทศต่อต้านข่าวปลอม (Fake News) ซึ่งทุกกระทรวงได้เปิดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม หรือสร้างช่องทางภายในกระทรวง เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และสร้างการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว หากเกิดประเด็นที่คาบเกี่ยวกันกับหลายหน่วยงาน แต่ละกระทรวง หน่วยงานออกมาชี้แจงได้ เพื่อป้องกันความสับสน และให้เกิดความถูกต้อง รวดเร็ว ในขณะที่รัฐบาลจะช่วยชี้แจงประชาสัมพันธ์อีกทาง เพื่อบูรณาการการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพให้การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลสอดคล้อง เท่าทันสถานการณ์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำหน้าที่ร่วมกันประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของภาครัฐอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ให้เป็นมาตรฐานและแนวทางเดียวกัน ด้วยในปัจจุบันมีการเผยแพร่ข่าวเป็นไปได้ในหลายช่องทาง จึงอาจต้องปรับรูปแบบการทำงาน การนำเสนอให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการชี้แจงแก้ไขข่าวเท็จ ข่าวบิดเบือน ต้องดำเนินการทันที ซึ่งทั้งหมดของการทำงานนี้จะเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ได้รับรู้ข่าวสารที่ครอบคลุม ถูกต้อง เป็นประโยชน์ ยกระดับการสร้างการรับรู้สู่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย