กรุงเทพฯ 7 เม.ย.- “เศรษฐา” นำ “เพื่อไทย” ลุยหาเสียงฝั่งธนฯ ขึ้นรถไฟในรอบ 40 ปี ก่อนขึ้นสองแถวต่อ MRT เย็นเดียวเดิน 3 ตลาด 1 งานหนังสือ ลั่นต้องต่อยอดรถไฟไทยให้ประชาชนใช้เพิ่มขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียงกรุงเทพมหานคร น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล โฆษกกทม. นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองสาน,เขตธนบุรี (ยกเว้นแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจีและแขวงบางยี่เรือ) ,เขตราษฎร์บูรณะ (เฉพาะแขวงบางประกอก) พรรคเพื่อไทย และนายอารุม ตุ้มน้อย เขตบางกอกใหญ่,เขตภาษีเจริญ (ยกเว้นแขวงบางหว้า แขวงบางด้วนและแวงคลองขวาง), เขตธนบุรี (เฉพาะแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจีและแขวงบางยี่เรือ), เขตตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงบางเชือกหนัง), เขตบางกอกน้อย (เฉพาะแขวงศิริราช)
โดยนายเศรษฐา และคณะได้เดินตลาดบริเวรสถานีรถไฟก่อนที่จะขึ้นรถไฟที่สถานีวงเวียนใหญ่ซึ่งเป็นจุดเชื่อมสินค้าจากตลาดมหาชัยซึ่งเป็นตลาดใหญ่เข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพมหานครถือเป็นจุดเศรษฐกิจจุดหนึ่งของคนกรุงเทพฯ เพื่อไปยังสถานีตลาดพลู โดยคณะพรรคเพื่อไทยพบปะพ่อค้า แม่ค้า และพี่น้องประชาชนบริเวณตลาดพลู ซึ่งนายเศรษฐา ระบุว่า นี่ถือเป็นการขึ้นรถไฟในรอบ 40 กว่าปี โดยครั้งสุดท้ายที่ขึ้น ตนนั่งไปเชียงใหม่กับเพื่อนๆ ตอนอายุ 18 ปี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเรามักเห็นประชาชนร้องเรียนเรื่องรถไฟไม่ตรงเวลา สภาพรถไม่ดี แต่เมื่อตนได้มาซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟด้วยตนเอง พบว่ารถไฟมาตรงเวลา แม้จะเป็นรถไฟชั้นสองแต่ก็สะอาด รถก็ไม่ติด ลมก็ดี ได้เห็นภาพประชาชนยังขึ้นรถไฟอย่างเนืองแน่น น่าจะสามารถต่อยอดได้อีกมาก ซึ่งทางการรถไฟจะต้องหมั่นรณรงค์และทำความเข้าใจให้ประชาขนทราบถึงตรงนี้ หากในอนาคตมีการรณรงค์ให้ใช้รถไฟมากขึ้น เศรษฐกิจบริเวณรถไฟก็จะดีขึ้นด้วย มีการซื้อขายได้มากขึ้นด้วย
ต่อมา คณะเดินทางด้วยรถไฟ ออกจากสถานีรถไฟตลาดพลู ไปสถานีรถไฟวุฒากาศ ก่อนเดินทางด้วยรถสองแถว จากสถานีรถไฟวุฒากาศ ไปยังตลาดเดินเล่นพบปะพี่น้องประชาชนบริเวณตลาดเดินเล่น โดยบรรยากาศตั้งแต่ระหว่างการขึ้นรถไฟจนถึงการเดินตลาดทั้งสามตลาดเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนให้การต้อนรับ พร้อมขอถ่ายภาพกับนายเศรษฐาและคณะพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ทั้งนี้ ระหว่างเดินตลาดพลูด้วยอากาศที่ร้อนนายเศรษฐา จึงแวะทานลอดช่องสิงคโปร์พร้อมพูดคุยกับทีมผู้สมัครถึงการผลักดันให้ตลาดพลูเป็นซอฟต์พาวเวอร์หนึ่งของย่านฝั่งธนฯ
นายเศรษฐา กล่าวถึงการลงพื้นที่กับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยว่า ตนเจอนายศิลปวิชญ์ มาทุกที่ เขาไปช่วยทุกคนไปที่ไหนเขาก็มีแต่คนรู้จัก ที่นี่จะเป็นที่พิสูจน์ โดยในวันที่ 14 พฤษภาคม มั่นใจได้ว่ากว่าจะถึงวันที่ 14 พฤษภาคมที่เป็นวันเลือกตั้ง น้ำหนักเขาจะลงอีกเยอะ โดยนายเศรษฐากล่าวติดตลกด้วยว่า “นี่จะเป็น KPI ของผู้สมัครส.ส.กทม.ทุกคนว่าน้ำหนักต้องลง เพระหาเสียงในหน้าร้อนและเราเดินในพื้นที่อย่างหนัก และหากได้เข้ามาเป็นส.ส.น้ำหนักก็ห้ามขึ้น เพราะต้องลงพื้นที่ต่อเนื่อง เป็นส.ส.แล้วห้ามพัก ต้องลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชน”
จากนั้นเวลา 18.30 น. นายเศรษฐา และคณะแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางด้วยรถสองแถวจากตลาดเดินเล่นไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT ใต้ดินท่าพระ เพื่อขึ้น MRT ไปศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อร่วมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 51 .-สำนักข่าวไทย