“อุปกิต” แถลงข่าวทั้งน้ำตาเป็นเหยื่อการเมือง

รัฐสภา 17 มี.ค.- “อุปกิต” น้ำตานองแถลงข่าว ระบุเป็นเหยื่อการเมือง ยกมือท่วมหัวสาบาน ไม่เคยเอี่ยวยาเสพติด ใครใส่ร้ายขอให้มีอันเป็นไป ยันไม่เป็นนายทุน รทสช. จ่อฟ้องทุกคนที่ใส่ร้าย


นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แถลงข่าวกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการฟอกเงิน โดยเริ่มต้นกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ขออภัยที่ออกมาชี้แจงล่าช้า เพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ และสื่อบางสื่อตัดสินว่าตนผิด เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว จึงไม่ขอก้าวล่วงมากนัก

ทั้งนี้ ก่อนชี้แจงเรื่องข้อกล่าวหาต่าง ๆ นายอุปกิตได้พูดถึงกรณีที่ลูกเขยถูกจับกุมในคดียาเสพติดและฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีพฤติกรรมหลบหนี ทั้งที่ลูกเขยอยู่ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 69 ซึ่งเป็นบ้านพักของตน ซึ่งลูกเขยพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นมานานแล้ว ขณะถูกจับกุม ลูกเขยก็เดินเล่นกับลูกคือหลานของตน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอุปกิตพูดถึงเรื่องดังกล่าว ถึงขั้นร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกสงสารหลาน โดยระบุว่า หากตนเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างที่มีการกล่าวอ้าง ลูกเขยคงไม่ต้องอยู่ในคุกมา 7 เดือน เพราะหากตำรวจอยากช่วยตน ก็มีอำนาจจับกุมแล้วประกันตัวได้ และหากจะช่วยกันก็ช่วยตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ลูกเขยอยู่ในคุกมา 7 เดือน หลานเล็ก ๆ ของตนร้องไห้ทุกวัน แม่ของหลานก็โทรมาร้องไห้ทุกวัน แต่ตนช่วยอะไรไม่ได้เลย

นายอุปกิต ยืนยันว่า ตนไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหรือเป็นกรรมการบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด และตำรวจไม่ได้ช่วยแยกคดีนี้ออกมาเป็นอีกคดีหนึ่ง ทั้งหมดเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ส่วนกรณีที่กล่าวอ้างว่า มีตำรวจที่ทำคดีดังกล่าวถูกโยกย้าย ยืนยันว่า ตนไม่มีอำนาจหรือกดดันให้ใครย้ายตำรวจคดีนี้ แต่ตำรวจที่ถูกย้ายเป็นการย้ายไปตามวงรอบ และไม่มีผลงานในช่วง 3-4 เดือน มีแค่คดีนายทุนมินลัตคดีเดียว อีกทั้งการย้ายครั้งนี้เป็นการย้ายไปในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ย้ายเพราะการลงโทษ หากตนมีอิทธิพลจริง ก็คงย้ายออกไปไกล ๆ ขณะเดียวกัน ตำรวจชุดนี้ไม่ได้รับผิดชอบคดีดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าตำรวจจะช่วยตน ก็ช่วยตั้งแต่วันแรกที่มาจับกุมลูกเขยแล้ว กรณีการออกหมายจับแล้วยกเลิกหมายจับในวันเดียวกันนั้น เนื่องจากมีการตกแต่งคำพูดในแชทโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพื่อนำมาปั้นเป็นหลักฐานให้ตนมีความผิด

ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่า นายอุปกิตนำเงินที่ค้ายาเสพติดมาฟอกผ่านธุรกิจจำหน่ายระหว่างไทยกับเมียนมา นายอุปกิต ชี้แจงว่า คงไม่มีใครนำเงินค่าไฟฟ้าที่ถูกกฎหมายไปเปลี่ยนให้เป็นเงินผิดกฎหมาย เพื่อไปฟอกผ่านการโอนเงินจ่ายค่าไฟฟ้า จึงยืนยันว่าไม่ได้นำไปฟอกกับคนโอนเงินเพื่อจ่ายค่าไฟฟ้า ขณะที่คดีของนายทุนมินลัต ยังไม่สิ้นสุดกระบวนการยุติธรรม กลับนำคดีนี้มาปั่นกระแสเพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยที่ตนไม่มีโอกาสชี้แจงหรือรักษาสิทธิตนเอง


“ขอตั้งข้อสังเกตว่า มีทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่ และ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลพญาไท มีความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลหรือไม่ และขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความพยายามปั้นหลักฐานต่าง ๆ ไปฟ้องต่อศาล ผ่านกระบวนการที่มีความเชื่อมโยงกันจากหลายฝ่าย ทั้งนักวิชาการ นักเคลื่อนไหว นักการเมือง สื่อมวลชน และตำรวจ กรณีต่าง ๆ เหล่านี้มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะการเผยแพร่เอกสารหลุดจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ และพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามขั้วรัฐบาลออกมาโหนกระแส ผมและครอบครัวจึงขอความเป็นธรรม เพราะผมและครอบครัวตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ใช้ประโยชน์เพื่อการหาเสียง ผมยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครก้าวก่ายและแทรกแซงได้ โดยเฉพาะผม” นายอุปกิต กล่าว

นายอุปกิต กล่าวว่า วันนี้ตนและทนายความจะไปยื่นฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ สำหรับสื่อมวลชนที่ได้ฟ้องไปแล้วและกำลังจะยื่นฟ้อง เนื่องจากทำให้ตนเสียหาย ทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินว่าตนผิด

“ใครที่ล้ำเส้นผม กล่าวหาผม ผมจะปกป้องสิทธิด้วยการฟ้อง หากผมชนะคดีเหล่านี้ ขอบริจาคเงินให้การกุศลทั้งหมด เพราะผมต้องการเพียงกอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศของผม” นายอุปกิต กล่าว

หลังการแถลงเสร็จสิ้น นายอุปกิตได้ยกมือพนม พร้อมกล่าวสาบานทั้งน้ำตาว่า “ผมขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในสากลโลก ผมและครอบครัวไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจยาเสพติดอย่างที่โดนกล่าวหา ไม่คิดจะทำ และไม่มีวันทำ แต่หากใครใส่ร้ายกล่าวหาผมและครอบครัว ขอให้ท่านเหล่านั้นและครอบครัวประสบความวิบัติและมีอันเป็นไป”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายชาคริส กาจกำจรเดช คือใคร นายอุปกิต กล่าวว่า นายชาคริส คือคนที่เคยเช่าอัลลัวร์ และเป็นหุ้นส่วน 15% ของอัลลัวร์ ที่ตนเคยทำ

ส่วนที่นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเท็จ เนื่องจากนายอุปกิตไม่ได้ซื้อขายหุ้นอัลลัวร์ให้นายชาคริสจริง ซึ่งนายอุปกิต ยอมรับว่า เป็นความสะเพร่าของตน เพราะจะขายให้กับนายชาคริส ก่อนมารับตำแหน่ง ส.ว. ขณะเดียวกัน การถือหุ้นไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ไม่อยากให้มีข้อครหา จึงเซ็นสัญญาซื้อขาย เพราะตั้งใจจะขายให้กับนายชาคริส แต่ปรากฎว่า สัญญาเป็นโมฆะ จึงโอนให้กับลูกเขย จากนั้นขายให้กับนายแอ็ดดี้เป็นเงินสด โดยตั้งใจว่าจะยื่นชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หลังจากออกจากตำแหน่ง ส.ว. ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้ซีเรียสเรื่องสัญญา

“ตึกที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้ติดต่อขอเช่า โดยแจ้งว่าใช้เป็นออฟฟิศส่วนตัว ยืนยันว่า ทำสัญญาเช่าถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ทราบมาก่อนว่าจะเปลี่ยนเป็นที่ทำการพรรค พร้อมยินดีให้ตรวจสอบสัญญาเช่า ผมไม่ได้รู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการส่วนตัว แต่คิดว่าที่ได้รับเลือกให้เป็น ส.ว. เพราะมีความชำนาญด้านการต่างประเทศและการไฟฟ้า ยืนยันว่า ผมไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างที่ถูกกล่าวหา จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า ผมตกเป็นเหยื่อทางการเมืองอย่างแน่นอน”นายอุปกิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]