“ธีระชัย-ม.ล.กรกสิวัฒน์” หนุนทีมเศรษฐกิจ พปชร.

พปชร. 15 มี.ค. – “บิ๊กป้อม” ต้อนรับ “ธีระชัย-ม.ล.กรกสิวัฒน์” หนุนทีมเศรษฐกิจ พปชร. เชื่อทำงานร่วม “มิ่งขวัญ” รับรองดีแน่นอน ปัดตอบดีลจับขั้วการเมือง หลังมีภาพกินข้าว “อนุทิน-ศักดิ์สยาม”


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงเปิดตัว ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อมาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่จะทำงานร่วมกันในพรรคพลังประชารัฐ และนำประโยชน์ให้กับประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมขอบคุณทั้งสองคนที่ตกลงใจมาอยู่กับพรรค ซึ่งพรรคยินดีที่จะต้อนรับทั้งสองท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง


นายธีระชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจตอบรับเพราะเห็นว่าบ้านเมืองกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ในอีกสามถึงสี่ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งปัญหามาจากภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งจะเป็นคลื่นลูกใหญ่กับประเทศไทยทางด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เริ่มแสดงอาการ ทั้งตลาดเงินในสหรัฐและยุโรป

“การบริหารประเทศต้องมีนโยบายที่เน้นทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็งในตัวเอง ใช้ศาสตร์ของพระราชาอย่างแท้จริง ไม่ใช่การที่จะรอให้มีนายกรัฐมนตรีที่เด่นดังเสมือนว่าคนเดียวจะสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาให้กับทุกชุมชนได้ จึงถึงเวลาที่รัฐบาลจะเปลี่ยนวิธีบริหารไปกระตุ้นให้ประชาชน เพิ่มช่องทางให้กับตัวเองรับผิดชอบ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศดีขึ้น” นายธีระชัย กล่าว

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า การบริหารประเทศไม่ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของผู้บริโภคกับนายทุนเอกชนต้องแก้ไข เพราะประชาชนถูกเอาเปรียบ  ขณะเดียวกันยังจะต้องเพิ่มนโยบายที่ขจัดความขัดแย้ง เปิดรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมมองว่าการจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้พรรคการเมืองจะต้องเปิดกว้างให้นักวิชาชีพมืออาชีพเข้ามาร่วมงานพรรคการเมือง ต้องมีการบริหารโดยให้เกิดความสมดุลแก่ประโยชน์ของประชาชนมากขึ้น พรรคการเมืองต้องสามารถบริหารความขัดแย้งในสังคมได้ และมองว่านโยบายเศรษฐกิจมีผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน คือ สาขาพลังงาน และผู้ที่ยกร่างนโยบายพลังงานที่ครอบคลุมในทุกแง่มุมคือ นายสนธิรัตน์ รมว.พลังงาน ที่ได้เป็นคนเชิญตนเองและ ม.ล.กสิวัฒน์ มาร่วมงาน และมองว่าการทำงานจะต้องก้าวข้ามตัวบุคคล ก้าวพ้นสีเสื้อ ก้าวเพื่อประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ชูธงนำในการก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงตัดสินใจเข้ามาในพรรค เพื่อจะเสนอนโยบายที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ทำได้จริง สร้างสมดุลกับประชาชน นายทุน ที่ปราศจากผลประโยชน์ครอบครัวของเจ้าของ และเป็นนโยบายที่มองกว้างไกลเพื่อให้เป็นทางเลือกแก่ประชาชน


ด้าน ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีความสนใจติดตามเรื่องปัญหาพลังงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคประชาชนเคลื่อนไหวให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดการพลังงานไทยมาตั้งแต่ปี 2551 รวมกว่า 15 ปี ซึ่งไม่เคยได้ยินพรรคการเมืองใดพูดถึงประโยชน์ในเรื่องนี้ จนกระทั่งได้ยินนายสนธิรัตน์ได้กล่าวบนเวทีจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยกัน ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคเองได้ติดตามและเห็นความสำคัญจึงให้ตนเองได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร จึงได้รู้ว่าพรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจ ไม่ใช่แค่ลดราคาพลังงานแบบฉาบฉวย ได้มีการพูดคุยกันนาน ใจกว้างรับฟังความเห็นที่ตนเสนอ และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่ ทำให้ตนเองเชื่อมั่นว่านโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงานจะถูกคัดกรองมาว่าจะเป็นนโยบายที่แก้ปัญหายังยืนหยุดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง

“หาก พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะเป็นตำแหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เชื่อมั่นว่านโยบายของพรรคด้านพลังงานจะต้องถูกผลักดันให้สำเร็จจงได้ เชื่อมั่นว่าหากพลังประชารัฐได้เป็นนโยบายจะมีผลเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น เนื่องจากพลังงานเป็นของประชาชนเพื่อประชาชนตามที่พรรคมีเจตจำนง ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และทุกภาคส่วนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น”ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อมวลชนคงได้รับทราบว่าพรรคมีทีมเศรษฐกิจจำนวนมาก พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง สามารถที่จะให้มีกินมีใช้ ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ดังนั้น ขอฝากสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ว่าพรรคมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้จับมือ 2 ทีมเศรษฐกิจที่เข้ามาร่วมงานของพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อถามว่าเรื่องทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรคจะออกมาเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ขอให้ออกมาก่อนแล้วค่อยถาม เดี๋ยวพรรคจะมีทีมงานเศรษฐกิจที่จะออกมาเอง ตนคิดคนเดียวไม่ได้ ทำคนเดียวทำไม่เป็น พรรคมีทีมงานเยอะแยะที่จะทำงานเรื่องเศรษฐกิจ นโยบายของพรรคจะทยอยออกมาเรื่อยเรื่อย

ส่วนจะสามารถร่วมงานกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจอีกคนหนึ่งของพรรคได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหา เพราะทั้งสองท่านมีความรู้ด้วยกันทั้งคู่ เดี๋ยวจะคุยกันว่าจะทำอย่างไร รับรองว่าดีอยู่แล้ว ดีแน่นอน 

เมื่อถามว่าจะมีทีมเศรษฐกิจมาเพิ่มอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แค่นี้ก็มากพอแล้ว

เมื่อถามว่าจะสู้กับทีมเศรษฐกิจของพรรคอื่นได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จะไปสู้กับใคร ตนจะสู้กับความยากจนของประชาชนเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ให้ได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกันทุกคน ส่วนกรณีมีภาพปรากฏกินข้าวกลางวันกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย นั้น พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า “กินไม่ได้เหรอ”

เมื่อถามว่าจะเป็นการจับขั้วการเมืองใหม่หรือไม่ ระหว่างพลังประชารัฐกับภูมิใจไทย  พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ตนไม่รู้ คุณคิดเองทั้งนั้น” เมื่อถามว่ามีโอกาสจะไปกินข้าวกับพรรคอื่นเพิ่มหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เรื่องของตน ตนจะไปกินอะไร ทำไมถึงอยากรู้กันนัก”.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]