“ธีระชัย-ม.ล.กรกสิวัฒน์” หนุนทีมเศรษฐกิจ พปชร.

พปชร. 15 มี.ค. – “บิ๊กป้อม” ต้อนรับ “ธีระชัย-ม.ล.กรกสิวัฒน์” หนุนทีมเศรษฐกิจ พปชร. เชื่อทำงานร่วม “มิ่งขวัญ” รับรองดีแน่นอน ปัดตอบดีลจับขั้วการเมือง หลังมีภาพกินข้าว “อนุทิน-ศักดิ์สยาม”


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงเปิดตัว ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อมาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่จะทำงานร่วมกันในพรรคพลังประชารัฐ และนำประโยชน์ให้กับประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมขอบคุณทั้งสองคนที่ตกลงใจมาอยู่กับพรรค ซึ่งพรรคยินดีที่จะต้อนรับทั้งสองท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง


นายธีระชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจตอบรับเพราะเห็นว่าบ้านเมืองกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ในอีกสามถึงสี่ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งปัญหามาจากภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งจะเป็นคลื่นลูกใหญ่กับประเทศไทยทางด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เริ่มแสดงอาการ ทั้งตลาดเงินในสหรัฐและยุโรป

“การบริหารประเทศต้องมีนโยบายที่เน้นทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็งในตัวเอง ใช้ศาสตร์ของพระราชาอย่างแท้จริง ไม่ใช่การที่จะรอให้มีนายกรัฐมนตรีที่เด่นดังเสมือนว่าคนเดียวจะสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาให้กับทุกชุมชนได้ จึงถึงเวลาที่รัฐบาลจะเปลี่ยนวิธีบริหารไปกระตุ้นให้ประชาชน เพิ่มช่องทางให้กับตัวเองรับผิดชอบ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศดีขึ้น” นายธีระชัย กล่าว

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า การบริหารประเทศไม่ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของผู้บริโภคกับนายทุนเอกชนต้องแก้ไข เพราะประชาชนถูกเอาเปรียบ  ขณะเดียวกันยังจะต้องเพิ่มนโยบายที่ขจัดความขัดแย้ง เปิดรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมมองว่าการจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้พรรคการเมืองจะต้องเปิดกว้างให้นักวิชาชีพมืออาชีพเข้ามาร่วมงานพรรคการเมือง ต้องมีการบริหารโดยให้เกิดความสมดุลแก่ประโยชน์ของประชาชนมากขึ้น พรรคการเมืองต้องสามารถบริหารความขัดแย้งในสังคมได้ และมองว่านโยบายเศรษฐกิจมีผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน คือ สาขาพลังงาน และผู้ที่ยกร่างนโยบายพลังงานที่ครอบคลุมในทุกแง่มุมคือ นายสนธิรัตน์ รมว.พลังงาน ที่ได้เป็นคนเชิญตนเองและ ม.ล.กสิวัฒน์ มาร่วมงาน และมองว่าการทำงานจะต้องก้าวข้ามตัวบุคคล ก้าวพ้นสีเสื้อ ก้าวเพื่อประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ชูธงนำในการก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงตัดสินใจเข้ามาในพรรค เพื่อจะเสนอนโยบายที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ทำได้จริง สร้างสมดุลกับประชาชน นายทุน ที่ปราศจากผลประโยชน์ครอบครัวของเจ้าของ และเป็นนโยบายที่มองกว้างไกลเพื่อให้เป็นทางเลือกแก่ประชาชน


ด้าน ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีความสนใจติดตามเรื่องปัญหาพลังงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคประชาชนเคลื่อนไหวให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดการพลังงานไทยมาตั้งแต่ปี 2551 รวมกว่า 15 ปี ซึ่งไม่เคยได้ยินพรรคการเมืองใดพูดถึงประโยชน์ในเรื่องนี้ จนกระทั่งได้ยินนายสนธิรัตน์ได้กล่าวบนเวทีจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยกัน ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคเองได้ติดตามและเห็นความสำคัญจึงให้ตนเองได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร จึงได้รู้ว่าพรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจ ไม่ใช่แค่ลดราคาพลังงานแบบฉาบฉวย ได้มีการพูดคุยกันนาน ใจกว้างรับฟังความเห็นที่ตนเสนอ และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่ ทำให้ตนเองเชื่อมั่นว่านโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงานจะถูกคัดกรองมาว่าจะเป็นนโยบายที่แก้ปัญหายังยืนหยุดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง

“หาก พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะเป็นตำแหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เชื่อมั่นว่านโยบายของพรรคด้านพลังงานจะต้องถูกผลักดันให้สำเร็จจงได้ เชื่อมั่นว่าหากพลังประชารัฐได้เป็นนโยบายจะมีผลเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น เนื่องจากพลังงานเป็นของประชาชนเพื่อประชาชนตามที่พรรคมีเจตจำนง ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และทุกภาคส่วนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น”ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อมวลชนคงได้รับทราบว่าพรรคมีทีมเศรษฐกิจจำนวนมาก พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง สามารถที่จะให้มีกินมีใช้ ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ดังนั้น ขอฝากสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ว่าพรรคมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้จับมือ 2 ทีมเศรษฐกิจที่เข้ามาร่วมงานของพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อถามว่าเรื่องทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรคจะออกมาเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ขอให้ออกมาก่อนแล้วค่อยถาม เดี๋ยวพรรคจะมีทีมงานเศรษฐกิจที่จะออกมาเอง ตนคิดคนเดียวไม่ได้ ทำคนเดียวทำไม่เป็น พรรคมีทีมงานเยอะแยะที่จะทำงานเรื่องเศรษฐกิจ นโยบายของพรรคจะทยอยออกมาเรื่อยเรื่อย

ส่วนจะสามารถร่วมงานกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจอีกคนหนึ่งของพรรคได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหา เพราะทั้งสองท่านมีความรู้ด้วยกันทั้งคู่ เดี๋ยวจะคุยกันว่าจะทำอย่างไร รับรองว่าดีอยู่แล้ว ดีแน่นอน 

เมื่อถามว่าจะมีทีมเศรษฐกิจมาเพิ่มอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แค่นี้ก็มากพอแล้ว

เมื่อถามว่าจะสู้กับทีมเศรษฐกิจของพรรคอื่นได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จะไปสู้กับใคร ตนจะสู้กับความยากจนของประชาชนเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ให้ได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกันทุกคน ส่วนกรณีมีภาพปรากฏกินข้าวกลางวันกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย นั้น พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า “กินไม่ได้เหรอ”

เมื่อถามว่าจะเป็นการจับขั้วการเมืองใหม่หรือไม่ ระหว่างพลังประชารัฐกับภูมิใจไทย  พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ตนไม่รู้ คุณคิดเองทั้งนั้น” เมื่อถามว่ามีโอกาสจะไปกินข้าวกับพรรคอื่นเพิ่มหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เรื่องของตน ตนจะไปกินอะไร ทำไมถึงอยากรู้กันนัก”.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เข้าสภา ก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69

รัฐสภา 31 พ.ค. – นายกฯ บอกเจ็บคอ หลังสื่อถามต้องเช็กเสียงก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 หรือไม่ เมื่อเวลา 14.50 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการลงมติรับหรือไม่รับในวาระแรก ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องมีการเช็กเสียงก่อนลงมติหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ เพียงแต่หันมาแล้วใช้มือชี้ที่คอของตัวเอง ก่อนระบุว่า “เจ็บคอ” และเดินขึ้นห้องประชุมทันที.-316-สำนักข่าวไทย

กองปราบย้าย “สจ.กอล์ฟ-พวก” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กทม. 31 พ.ค.- ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกทั้ง 7 คน จากเรือนจำ จ.สงขลา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน คดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจ ตชด. ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบดำเนินการ และทางตำรวจกองปราบได้ยื่นหนังสือคำร้องโอนย้ายการฝากขังจากศาลจังหวัดสงขลา มาเป็นศาลอาญารัชดา และทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอโอนตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.68) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 รายจากเรือนจำจ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 รายประกอบด้วย นายสิรดนัย […]

ตำรวจเมากร่าง ถูกให้ออกจากราชการ

เชียงใหม่ 31 พ.ค.-ให้ออกจากราชการ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายร่างกายตำรวจจราจร สภ.สันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้คำพูดด่าทอหยาบคาย และถึงขั้นเข้าไปทำร้ายร่างกายตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณแยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้นเหตุเกิดจาการที่ตำรวจที่มีอาการมึนเมา ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดูแลความเรียบร้อย แต่กลับถูกด่าทอ และทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ที่เมาแล้วกร่าง ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ 4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการกองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งที่ 204 / 2568 ให้สิบตำรวจเอก นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน […]

ถกงบ 69 วันสุดท้ายเหงา ช่วงเช้าไร้เงารัฐมนตรี

รัฐสภา 31 พ.ค.-ถกงบ 69 วันที่ 4 ช่วงเช้าไร้เงารัฐมนตรี หลังเจอ “ทักษิณ” ทวง “มหาดไทย” คืน ขณะที่เวทีอภิปราย “เลาฟั้ง” ซัด “กรมป่าไม้-กรมอุทยานฯ” ได้งบ 692 ล้าน แต่เอาไปแก้ปัญหาที่ดินแค่ 34% ชี้ควรดำเนินการปฏิรูปที่ดินให้ชัดเจนตามสิทธิ์ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยบรรยากาศช่วงเช้าเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยเฉพาะบริเวณประตูหน้าอาคารรัฐสภา ที่เป็นทางเข้าหลักของรัฐมนตรี ปรากฏว่า แทบจะไม่มีรัฐมนตรีเดินทางมาร่วมการประชุม ทั้งรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม มีเพียงแค่น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม คนเดียวเท่านั้นที่เดินเข้าประตูดังกล่าว ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 30พ.ค.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปให้สัมภาษณ์ที่สำนักข่าวเนชั่นทีวี […]