กระทรวงมหาดไทย 9 มี.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง สั่งตรวจสอบ กรณีชายถือบัตรประชาชน 7 ใบ ชี้ มีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ ประสานจังหวัดกาญจนบุรีเอาผิดตามกฎหมาย
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพและข้อความเกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีบัตรประชาชน 7 ใบ โดยแต่ละใบจะมีชื่อและนามสกุลไม่ซ้ำกัน แต่ใบหน้าเจ้าของบัตรประชาชนเป็นคนเดียวกันและมีที่อยู่อาศัยในพื้นที่ต.ลาดหญ้าอ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า กรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลาง ได้มอบหมายให้สำนักบริหารการทะเบียน ตรวจสอบฐานข้อมูลสำนักทะเบียนกลาง ทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนแล้วพบว่า บุคคลตามภาพถ่าย หลักฐานทางทะเบียนและข้อมูลการขอมีบัตร ชื่อ นายภาคิน สุขประพันธ์ โดยในกรณีดังกล่าว เป็นการปลอมแปลงบัตร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลในฐานข้อมูลระบบการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนของกรมการปกครองแต่อย่างใด เป็นการใช้ชื่อบุคคลอื่นกระทำการปลอมแปลงบัตรขึ้นมาเอง โดยกรมการปกครองจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
“การดำเนินการปลอมแปลงรายละเอียดชื่อในบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท” นายแมนรัตน์ กล่าว อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่สังคมได้มีข้อสงสัยว่า การปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชนลักษณะนี้ จะมีผลกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่สามารถนำเอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นมาไปใช้ในการเลือกตั้งได้ เนื่องจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนที่กรมการปกครองในฐานะสำนักทะเบียนกลางจัดส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น ไม่ปรากฏชื่ออื่นๆ นอกเหนือจากชื่อจริงของบุคคลนั้นๆ ซึ่งการแสดงตนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง จะมีการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของรายการบัตรประจำตัวประชาชนกับรายการทะเบียนบ้าน และหากประชาชนท่านใดมีข้อสงสัยหรือมีเบาะแสการกระทำผิดในลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นๆ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย