นายกฯ บอกอยุธยามีเสน่ห์ โวรัฐบาลนี้ทำอะไรก็เป็นที่ 1 ทุกเรื่อง

พระนครศรีอยุธยา 3 มี.ค.- นายกฯ บอกอยุธยามีเสน่ห์ มุ่งผลักดันการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โวรัฐบาลนี้ทำอะไรก็เป็นที่ 1 ทุกเรื่อง บอกเจ็บมือ แต่ไม่เจ็บใจ สู้ทุกอย่าง ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น ปัดมาหาเสียง


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมายังวัดใหม่หญ้าไทร ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานสรุปการดำเนินโครงการปรับปรุง ระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกและการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมและภัยแล้ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เข้ากราบสักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทร

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่าเห็นใจชาวพระนครศรีอยุธยาที่ต้องเดือดร้อน เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่รัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ แม้ว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลแต่ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการมาโดยตลอด ไม่ใช่แค่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเท่านั้น ยังจะต้องดูแลอีก 76 จังหวัด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ในการเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งก็รู้ว่าประชาชนเดือดร้อนแต่ก็ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า มาที่จังหวัดอยุธยาหลายครั้ง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้ไปมาหลายวัด ตนอธิษฐาน ขอให้บ้านเมืองชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มีความสุขมีรายได้มากขึ้น และขอให้ตนสามารถทำงานได้สำเร็จ สุขภาพแข็งแรงครอบครัวปลอดภัย

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือเรื่องความเท่าเทียมของโอกาส ในการเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไปมาหาสู่สะดวก ขนส่งสินค้าได้ง่าย ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย นั่นคือความเท่าเทียมทางโอกาส และกฎหมายเดียวกัน รวมทั้งเรื่องความเป็นธรรม ดูแลผู้มีรายได้น้อย ก็พยายามอย่างค่อยเป็นค่อยไป สิ่งสำคัญที่สุด ต้องหาเงินให้ประเทศ โดยต้องมีโครงการขนาดใหญ่ ให้คนมาลงทุนในประเทศให้ได้มากขึ้น ที่ผ่านมาเจอหลายปัญหา แต่รัฐบาลก็ทำให้ปลอดภัยจากโควิดจนได้รับคำชื่มชมจากชาวต่างชาติ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดในอาเซียน โครงสร้างด้านดิจิทัลการให้บริการต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พยายามจะทำให้ดีที่สุด และให้มากขึ้น ยืนยันไม่ได้มาหาเสียง แต่มาพูดในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องดูคนทั้งประเทศ และดูคนในทุกช่วงวัย สิ่งสำคัญคืออนาคตของลูกหลาน การศึกษาต้องมีงานทำ คนสูงวัยที่มีจำนวนมาก ขาดแรงงานในอนาคต ส่วนสุขภาพดูแลอย่างเต็มที่ ทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้แก้ไขปัญหาความยากจน โดยให้ทุกคนเข้าถึงการบริการภาครัฐ จะทำตรงนี้ให้มากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยุธยามีเสน่ห์ ประวัติศาสตร์ยาวนาน สิ่งสำคัญทำข้าวให้มีคุณภาพ เพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำข้าวที่ปลอดภัย เป็นข้าวรักษ์โลก ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รัฐบาลพยายามทำให้เป็นตามกรอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีรายได้ สินค้าโอทอป ต้องออกแบบใหม่ เพราะบางอย่างเป็นอัตลักษณ์ ต้องปรับปรุงให้เป็นสินค้าทั่วโลก เพื่อสร้างจุดขาย สร้างรายได้ให้ประชาชน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำให้พื้นที่ของเราเป็นพื้นที่น่าสนใจ เราอาจจะชินกับโบราณสถานในสายตาของเรา แต่จะทำอย่างไรให้ชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งจากการพูดคุยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้สึกดีใจ ที่ได้เจอกับนายกฯและได้มาเที่ยว ประเทศไทยเพราะต่างประเทศอากาศหนาว เมืองไทยเป็นเมืองที่หลบหนาว ดังนั้นเราต้องให้ความอบอุ่น และต้อนรับด้วยรอยยิ้มไม่ใช่มาทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะเราเป็นประเทศไทยมีรอยยิ้มสยาม ยิ้มสู้ไปเดี๋ยวก็ดีขึ้นอย่างน้อยใจเราก็ดีขึ้น ไม่โกรธไม่เกลียดไม่ชังกัน

“อโหสิให้กันเถอะครับทุกเรื่อง ไม่ได้ด่า ไปแช่ง ไปอะไรกับใคร ให้อะไรมา ก็อโหสิไปแล้วกัน อย่าไปสร้างบาปต่อกัน เพราะว่าเราเป็นไทยพุทธ และไทยอื่นๆก็อยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ได้รับรางวัลเป็น 1 ใน 50 เมืองทั่วโลกที่ควรเดินทางเยือนหลังจากการระบาด โควิด-19 และยังเป็น 1 ใน 8 แห่งของทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นที่หนึ่งทุกเรื่อง วันนี้รัฐบาลนี้ทำ ที่หนึ่งทั้งนั้น วันนี้พูดในนามนายกฯ ไม่เป็นไร ไม่ได้ด่าใคร ดังนั้นเราต้องมุ่งผลักดันการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ เป็นซอร์ฟพาวเวอร์ของเรา

“อย่าไปเครียดๆ ถ้าเครียด จะนึกอะไรไม่ออก บางอย่างเป็นเรื่องที่ต้องสู้ ต้องทำ ต้องเห็นใจรัฐบาล ถือว่ามีลูก 70 ล้านคน เหนื่อย แต่ทำ พอบ่นว่าเหนื่อย เดี๋ยวบอก ก็ออกไปสิ ใช่มั้ย ก็พูดได้แค่นี้แหละ ก็ทำ ผมก็จะทำจนถึงสุดท้ายที่จะทำให้ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนก็คอยดูแล้วกัน ว่าในอนาคตเขาจะทำได้บ้างหรือเปล่า ไม่รู้ แต่ผมยืนยันว่าในตอนนี้เวลาที่เหลือก็ไม่มากนัก ผมก็จะทำให้ จะวางพื้นฐาน ต่อไปถ้ามันเป็นไปได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการเสนอแผนงานโครงการงบประมาณในปีหน้า ปี 67 แล้วต่อไปเรามีแผน การเงินระยะปานกลาง 67 68 69 70 เราต้องวางเค้าโครงของงบประมาณว่ามีเท่าไหร่ รายได้มาจากไหนก็รายจ่ายมาจากไหน ตรงไหนมากตรงนี้น้อย ซึ่งต้องมีทางการลงทุนและการดูแลประชาชน ถ้าเราดูแลทั้งหมดประเทศก็อยู่ที่เดิมแย่กว่าเดิมไปเรื่อยๆก็ขอความเห็นใจด้วยแล้วกัน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลพิทักษ์ ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ของเรา นั่นคือสิ่งที่เป็นแกนหลักของ ประเทศไทยมายาวนาน ส่วนเรื่องการศึกษาทำอย่างไรจะให้มีงานทำ วันนี้ถ้าใครเรียนไม่ถึงปริญญาให้ไปอาชีวะ เพราะโรงงานที่มาตั้งในประเทศไทยต้องการแรงงานกลุ่มนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นอะไรไม่รู้เจ็บมือ เจ็บมือ แต่ไม่เจ็บใจ ปลื้มใจ พอเห็นหน้าทุกคน ยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้ก็คิดว่าจะเจออะไรบ้าง ไปไหนจะเจออะไรบ้าง

“แต่สู้ สู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม เพราะนี่คือผม ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จะต้องดูแลให้ดีที่สุด ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้“ พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วม หรือน้ำแล้งประชาชนมีความเดือดร้อน วันนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือทำให้น้ำระบายเร็วขึ้นให้ขังท่วมให้น้อยลงและ ให้ใช้ค่าใช้จ่ายเงินเยียวยาให้ลดลง ซึ่งวันนี้ทำตรงนี้ได้แล้วเพราะฉะนั้นน้ำท่วมอาจจะมีอยู่แต่จะทำอย่างไรให้ท่วมให้สั้นที่สุด จะไม่ให้ท่วมเลย อย่าไปฟัง โม้ ใครจะทำได้ ตอนนี้ยังไม่ได้แน่นอน แต่ต่อไปจะต้องได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศ ทำให้เกิดผลกระทบเรื่องของน้ำท่วมน้ำแล้งซึ่งทุกคนต้องเรียนรู้และเตรียมการให้พร้อม

นายกรัฐมนตรี ได้ชี้ป้ายของตัวเอง พร้อมกล่าวว่า วันนี้เรามาเดินทางกันมาไกลมากแล้ว รู้ใช่หรือไม่ ไกลแล้ว นานแล้วด้วย หาให้เจอว่าตนนั้นทำอะไร หลายอย่างดำเนินการเสร็จไปแล้ว หลายอย่างกำลังดำเนินการอยู่ หลายอย่างต้องทำให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ทุกคนมีรายได้ มีอาชีพ มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวติดตลกกับประชาชนว่า ขอให้ไปดูในทีวีบ้าง ถ้าวันไหนที่นายกรัฐมนตรีไม่ค่อยหล่อ แปลว่าวันนั้นหงุดหงิด แต่ไม่ได้หงุดหงิดกับประชาชน แต่หงุดหงิดกับคำถาม ปกติเป็นคนใจดี แต่ถ้าถามเมื่อไหร่จะหงุดหงิดเมื่อนั้น เพราะถามในสิ่งที่ไม่ควรตอบ

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ได้มา เมืองพระ เมืองโบราณ บรรพบุรุษรักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้ กว่าจะได้มา เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ท่านคงไม่อยากได้น้ำมากขนาดนี้ เรารักษาแผ่นดินนี้ไว้ได้เพราะเรามีน้ำ เมืองหลวงจึงไม่ถูกเขายึดไป เว้นแต่ตอนมีไอ้คนเลว คนทรยศ คนเลวมีทุกระยะ ไม่ต้องไปกลัว และอย่าไปส่งเสริมคนเลว คนเลวคือคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ได้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างสุจริตใจ อย่างนี้เค้าเรียกว่าเลว นายกยังไม่รู้ว่าดีหรือเลว อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าจะทำให้ สุจริตและบริสุทธิ์ใจมากที่สุด พร้อมย้ำว่าวันนี้ไม่ได้มาหาเสียง

สำหรับบรรยากาศการพบปะประชาชน นายกรัฐมนตรีได้ เดินรับดอกไม้จากประชาชนที่มาให้กำลังใจ และถ่ายภาพเซลฟี่ โดยมีช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถรับดอกไม้ได้ เนื่องจากมือขวามีอาการบวมและเจ็บ จึงให้ทีมงานรับดอกไม้แทน และเป็นที่น่าสังเกตว่านายกรัฐมนตรีพยายามเลี่ยงที่จะให้ประชาชนสัมผัสที่มือขวา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]