ทำเนียบรัฐบาล 3 มี.ค.-รมว.เกษตรฯ กำชับหน่วยเกี่ยวข้องตามสถานการณ์ PM2.5 ขณะกรมฝนหลวงพร้อมขึ้นบินตลอด แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นสัมพัทธ์ด้วย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ติดตามความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ใน 5 ภูมิภาค จำนวน 7 ศูนย์ เพื่อเข้าแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่มีค่าเกินมาตรฐาน รวมถึงเข้าช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ การป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน ซึ่งทุกหน่วยมีความพร้อมขั้นสูงสุด และสามารถออกปฏิบัติการในทุกโอกาสเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม
“1 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้รับเรื่องขอรับบริการจากพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดกําแพงเพชร ตาก ลําปาง อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ และภาคตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทรา และระยอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกปฏิบัติการได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม เช่น ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยระดับปฏิบัติการมีค่าต่ำกว่า 60% อากาศมีเสถียรภาพส่งผลให้เมฆไม่ก่อตัวในพื้นที่เป้าหมาย หรือกลุ่มเมฆในพื้นที่เป้าหมายไม่เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายเฉลิมชัยได้มอบกรอบแนวทางการปฏิบัติการฝนหลวงให้มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของสภาพอากาศและความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีอากาศยานทั้งหมด 30 ลำ ประกอบด้วย อากาศยานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 24 ลำ และอากาศยานของกองทัพอากาศ จำนวน 6 ลำ
“นอกจากการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 และหมอกควัน การปฏิบัติการของกรมฯ ยังครอบคลุมการเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ ของประเทศ โดยเริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลและขอฝนหลวงได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 ต่อ 410 หรือช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, Instagram, Tiktok, Twitter : @drraa_pr และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 7 ศูนย์ทั่วประเทศ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย