พรรคประชาธิปัตย์ 2 มี.ค.-“มาดามเดียร์” เตือนครม. ระวังผิดอาญา หากอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถามเมื่อรู้ว่าไม่ชอบมาพากล ยังจะดันเข้าครม.ก่อนหมดอายุรัฐบาลหรือไม่
น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กภายหลังจากที่วานนี้(1 มี.ค.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องคดีแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินเอกสารคัดเลือกเอกชน ในการประกวดราคาครั้งที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด(มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จนเป็นชนวนทำให้เอกชนผู้ซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย โดยศาลฯ วิเคราะห์ว่า ผู้ถูกฟ้องคดี คือ คณะกรรมการ ม.36 และ รฟม.มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมาย สะท้อนว่าคำชี้ขาดครั้งนี้ อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับการประมูลโครงการภาครัฐอื่น ๆ สามารถใช้อำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การประมูลได้ตามใจชอบ แม้จะอยู่ในช่วงระหว่างเกมการแข่งขัน สร้างความเสียเปรียบได้เปรียบ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ ที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ และอาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ
“ส่วนต่าง 68,612.53 ล้านบาท ในโครงการประมูลสายสีส้ม ระหว่างการประมูลรอบแรก ที่บีทีเอสซี ขอรัฐสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาสุทธิ รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก ที่ 9,675.42 ล้านบาท(ถูกล้มประมูลออกไป) ในขณะที่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM เอกชนที่ชนะการประมูล (ประมูลรอบที่สอง) เสนอขอรัฐสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาสุทธิจำนวน 78,287.95 ล้านบาท ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ารัฐอาจเสียงบประมาณมหาศาล จึงทำให้สังคม นักวิชาการ นักการเมืองจี้ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กำกับดูแลหน่วยงานประมูลโครงการสายสีส้มและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้ารัฐบาล ตรวจสอบให้สังคมสิ้นสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากล ทั้งเรื่อง เงินส่วนต่าง และเงินทอน และล่าสุดอดีตนักการเมืองอย่างชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ปูดขึ้น รวมถึงต้องชะลอการนำโครงการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติผลการประมูลและลงนามในสัญญาร่วมลงทุน ไม่เช่นนั้นแล้วนอกจากรัฐจะเสียงบประมาณจำนวนมากแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่จะมีส่วนรับภาระกับความไม่โปร่งใส จากกลุ่มคนเพียงไม่กี่รายในครั้งนี้ด้วย” น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ขณะนี้คาดการณ์ว่ากระทรวงคมนาคมจะผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าครม. ก่อนยุบสภาหรือให้ทันในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้อาจจะได้ยินนายศักดิ์สยามโต้กลับว่าต้องยึดคำสั่งศาลปกครองถึงที่สุด ล่าสุดเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ฝั่งรัฐเป็นฝ่ายชนะคดีนัดแรก(รื้อเกณฑ์ประมูลระหว่างแข่งขัน)ได้ทันก่อนยุบสภา หรือก่อนหมดวาระการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลชุดนี้ จึงขอตั้งคำถามถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า เมื่อเห็นเส้นทางการประมูลสายสีส้มไม่ชอบมาพากลในครั้งนี้ สมควรผลักดันให้ไปต่อหรือไม่
“เช่นเดียวกับคำถามเดียวกัน หากผู้นำรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นความผิดปกติ ควรผลักดันเห็นชอบโครงการบนความเจ็บปวดของประชาชนต่อไปหรือไม่ ที่สำคัญรัฐบาลนี้รู้อยู่แล้วว่าไม่ถึง 70 วันจะเลือกตั้ง ซึ่งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เรื่องที่เป็นนโยบายหลัก หรือเรื่องที่สังคมยังตั้งข้อกังขาหรือไม่สิ้นสุดความสงสัยจากหลายองค์กร ทั้งภาคีต่อต้านคอรัปชัน สื่อ ประชาชน โดยสปิริต จรรยาบรรณ จริยธรรม หรือหลักการบริหารที่ดี ที่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรมเป็นที่ตั้ง ควรหรือไม่ที่นายนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้จะดันทุรังพิจารณารถไฟฟ้าสายสีส้ม” น.ส.วทันยา กล่าว.-สำนักข่าวไทย