พปชร.อบรมว่าที่ผู้สมัคร ย้ำนโยบาย-ลุยพบปชช.

พรรคพลังประชารัฐ 1 มี.ค.- “สันติ” ควง “วิรัช” ให้ความรู้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เรื่องนโยบายที่จะนำไปบอกกับปชช. ย้ำทำได้จริง เน้นลงพื้นที่ เข้าถึงนโยบายทำได้จริง ชู “พล.อ.ประวิตร” นั่งนายกฯ


นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร่วมให้ความรู้และอบรมเตรียมความพร้อมว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศในการลงพื้นที่ เพื่อเสนอนโยบายของพรรคที่ออกมา 5 นโยบาย ทั้งนโยบายเพิ่มเงินสวัสดิการบัตรประชารัฐ  ทบทวนกฎเกณฑ์และเตรียมความพร้อมเรื่องกฎหมายและนโยบายพรรคสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ

นายสันติ กล่าวว่า พรรคออกนโยบายเพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เพื่อให้พรรคเข้าถึงใจและเชื่อมั่นว่าพรรคที่นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ได้ทำนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนได้อย่างแน่นอน ตั้งแต่นโยบายเพิ่มเงินช่วยเหลือในบัตรประชารัฐ  นโยบายที่ทำกิน นโยบายน้ำ ที่หัวหน้าพรรคได้ดำเนินมาตลอด 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล  และนโยบายล่าสุด นโยบายจากครรภ์มารดา สู่บุตร ธิดา ประชารัฐ  “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” หากเลือกพปชร.ได้จัดตั้งรัฐบาล และยกมือในสภาผู้แทนเพื่อให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี เราจะทำทันที


นายสันติ กล่าวย้ำให้ว่าที่ผู้สมัครลงพื้นที่อย่างเข้มแข็ง รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น เพื่อนำมาสู่การทำนโยบาย เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง และมองเห็นอนาคต ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญว่าที่ผู้สมัครต่างรู้ถึงปัญหาในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเครื่องชี้ชัดว่าพรรคเรามีความจริงใจกับประชาชน และที่สำคัญตัวว่าผู้สมัครจะเป็นตัวช่วยสร้างพรรคได้เป็นอย่างดี

“นโยบายใหม่ที่ออกมา เพื่อดูแลผู้สูงวัย และนโยบายดูแลสตรีมีครรภ์และเด็ก เพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และจำนวนเด็กเกิดน้อยลง เพราะด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ค่าเลี้ยงดูสูง พปชร.เห็นความสำคัญเรื่องนี้ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มจำนวนประชากรของประเทศอย่างมีคุณภาพให้กับประชาชน ที่สำคัญจะส่งเสริมให้โรงพยาบาลระดับตำบลมีแพทย์ โดยให้จังหวัดตั้งกองทุนจัดหาเด็กเรียนดีในจังหวัดให้เข้าเรียนแพทย์ และกลับมาทำงานในท้องถิ่นตนเอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทาง ให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และลดความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่

นายวิรัช กล่าวว่า การอบรมเพิ่มเติมให้กับว่าที่ผู้สมัครตั้งแต่รุ่น 1-4 เพื่อมารับทราบนโยบายเพิ่มเติม เพื่อลงพื้นที่ รวมทั้งรับฟังความเห็นของว่าที่ผู้สมัครไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน เพื่อมาแลกเปลี่ยนข้อมูล ในการหาเสียง เพราะระยะเวลาการเลือกตั้งกำลังจะมาถึงอีกไม่นานนี้ เป็นการเพิ่มเครื่องมือให้กับว่าที่ผู้สมัคร และทำความเข้าใจในนโยบายของพรรคที่จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ป้อม 700  มีน้ำไม่มีแล้ง ไม่มีจน มีที่ทำกินไม่มีจน นโยบายดูแลผู้สูงอายุ  3-4-5-6-7-8 และนโยบายแม่-บุตร -ธิดา ประชารัฐ  วันนี้ เราให้เครื่องมือเพื่อไปบอกกับประชาชน.-สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง