“อ๋อม-สกาวใจ” สวมเสื้อเพื่อไทย ชิงเก้าอี้สะพานสูง

พรรคเพื่อไทย 6 ก.พ. – “เพื่อไทย” เปิดตัว “อ๋อม-สกาวใจ” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสะพานสูง-ประเวศ ลั่น มาเพื่อชนะ ไม่ได้มาเพื่อแพ้ ด้าน “มาดามนครบาล” มั่นใจ เพื่อไทยแลนด์สไลด์ กทม.ครบ 33 เขต

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภาคตะวันออก และ กทม.พรรคเพื่อไทย


การ

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความภาคภูมิใจเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จันทบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง มีความโดดเด่นด้านเกษตรกรรม ท่องเที่ยวและประมง เป็นพื้นที่หมุดหมายของพรรคเพื่อไทยในการส่งเสริมศักยภาพให้กลายเป็นเมืองแห่งผลไม้และอัญมณี จึงขอเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จันทบุรีในวันนี้ และเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง กทม.อีก 3 คน ทำให้ กทม.เปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครบทั้ง 33 เขตแล้ว พร้อมย้ำเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ต้องชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ต้องได้ ส.ส.มากกว่า 251 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อปิดกั้นอำนาจเก่า

“กทม.เป็นหัวใจของประเทศไทย เป็นศูนย์การการเมืองการปกครอง เป็นศูนย์กลางทางมิติสังคม สะท้อนทุกอย่างภายในประเทศ เป็นพื้นที่ที่เพื่อไทยให้ความสำคัญมาก เรามั่นใจว่า ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร และ ส.ส.ในอนาคต จะตอบโจทย์พี่น้องประชาชนทุกมิติ ฝากชาว กทม.ช่วยกันพิจารณาสร้างโอกาสร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่ออนาคตของ กทม.และประเทศชาติ เพื่อไทยยึดมั่นถือประชาชนเป็นหัวใจ ร่วมชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ให้ถล่มทลาย” นพ.ชลน่าน กล่าว


ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำงานต่อเนื่องเพื่อประชาชน โดยวานนี้(5ก.พ.)ที่ได้ลงพื้นที่ภูเก็ตและพังงา ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี และในฐานะของ ส.ส.นครราชสีมาผู้แทนของคนโคราช ขอขอบคุณชาวโคราชที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ส.ส.แบ่งแขตและบัญชีรายชื่อ จากโพลนิด้าล่าสุด ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยขอเปิดตัว ผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ภาคตะวันออก 2 คน และ กทม.อีก 3 คน ได้แก่

-ภาคตะวันออก 2 คน จากจังหวัดจันทบุรี คือ 1. นายวันทิตย์ ตั้งรักษาสัตย์ และ 2. นายนิติรุจน์ ศิระวิเชษฐ์กุล
-กทม.3 คน ได้แก่ 1.นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสะพานสูง ประเวศ 2.นายเอกภาพ หงสกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสายไหม 3.นางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกระดี่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางขุนเทียน

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า พื้นที่ กทม.ในขณะนี้ มีความพร้อมทุกด้าน เพราะมีว่าที่ผู้สมัครครบทั้ง 33 เขต ทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถ ลงพื้นที่ต่อเนื่อง เข้าใจถึงปัญหาในพื้นที่พร้อมรับใช้ชาวกรุงเทพฯ มีความพร้อมเรื่องนโยบาย ทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทย และนโยบายของ กทม. กลั่นกรองมาจากปัญหาของประชาชนในพื้นที่ เช่นเดียวกับนโยบายของ ส.ก.ที่ทำได้จริง ด้วยนโยบายที่ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ทุกนโยบายทำได้จริง และความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ เพราะตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา ภายใต้การนำของรัฐบาลปัจจุบัน ประเทศประสบกับวิกฤติมากมาย โดยเฉพาะวิกฤติด้านเศรฐกิจ ปากท้อง การแพร่ระบาดของโรค ยาเสพติด และการทุจริตในวงกว้าง ทุกอย่างล้วนสะท้อนถึงล้มเหลวโดยสิ้นเชิงของการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้


“ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเปลี่ยนรัฐบาลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาแก้ไขวิกฤติของประเทศ พรรคเพื่อไทย ขออาสา มาแก้ไขวิกฤติของประเทศ โดยนำ ส.ส.ที่มีคุณภาพ นโยบายดีๆที่สามารถทำได้จริง และเคยสำเร็จมาแล้วในอดีต ให้กลับมาพลิกฟื้นประเทศในครั้งนี้ ดิฉันขอโอกาส จากพี่น้อง กทม. และพี่น้องทั้งประเทศ โปรดใช้สิทธิ์ของท่าน ร่วมกันพลิกฟื้นประเทศ โดยเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เราจะก้าวข้ามอดีต และร่วมกันสร้างอนาคตของประเทศไปด้วยกัน” นางพวงเพ็ชร กล่าว

จากนั้น อ๋อม สกาวใจ  ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการเข้าร่วมงานกับพรรค เพื่อไทย ว่า การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เนื่องจากตนอยู่ในวงการบันเทิงมา 30 กว่าปี  มีรายได้เลี้ยงชีพและเป็นที่รู้จัก เพราะประชาชนมอบชื่อเสียงให้มา  จะเป็นอ๋อม สกาวใจในวันนี้ไม่ได้เลย หากไม่ให้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน  จึงอยากตอบแทนบุญคุณพี่น้องประชาชนที่รักและเอ็นดู  เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนตั้งแต่ตื่นจนหลับ  ภาษีที่เสียไปหลากหลายรูปแบบ ถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่าหรือไม่  แม้ที่ผ่านมาได้ออกมาพูดถึง (call out) ปัญหาของบ้านเมืองมาโดยตลอดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก แม้ได้รับการแก้ไข แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  เพราะปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว  การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต้องแก้ที่ต้นเหตุด้วยการนำเอานโยบายดีๆ เสนอเข้าสู่สภาตามระบอบประชาธิปไตย จึงจะสามารถนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้ 

สำหรับเหตุผลที่เลือกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากที่ผ่านมาตนเลือกอยู่ฝั่งประชาธิปไตยมาเป็นอันดับหนึ่ง  หากจะเลือกลงการเมืองกับพรรคใดจะต้องเป็นพรรคที่เข้าถึงปัญหาและต้องยึดโยงผู้แทนกับประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจน  จึงทำให้อุ่นใจ นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังเป็นองค์กรการเมืองที่เข้าถึงประชาชน นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจนมาถึงเพื่อไทย ซึ่งตนได้เห็นผลงานมาโดยตลอด พรรคเพื่อไทยสามารถตอบโจทย์นโยบายที่หาเสียงได้ทุกครั้ง เป็นพรรคเดียวที่คิดนโยบายและทำได้จริง  จึงมีความมั่นใจเลือกพรรคเพื่อไทย


                 น.ส.สกาวใจ ยังกล่าวว่า ตนเองมีนายพลภูมิ วิวัติภูมิประเทศ  ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นเพื่อนสนิท เป็นที่ปรึกษาและได้ทำงานเชิงพื้นที่ร่วมกัน  และผู้ใหญ่ที่เคารพรักอย่างนายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด และอีกหลายคนในพรรคที่ได้เข้าไปพูดคุย ปรึกษาปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน  การที่ตนเองมีชื่อเสียง อายุ 40 กว่าปี มาจากประชาชน และจากนี้ไปจะเข้ามาตอบแทนบุญคุณพี่น้องประชาชน  เข้ามาแก้ปัญหาที่โครงสร้าง แก้นโยบายในภาพใหญ่ และแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน  ทั้งนี้ ในการลงสมัคร ส.ส.เขตสะพานสูง ประเวศ เพราะใช้ชีวิตครอบครัวในพื้นที่นี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬามานานหลายปี สิ่งที่เห็นในวันนี้ควรพัฒนาให้มีความเจริญมากกว่านี้

น.ส.สกาวใจ กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีเรื่องแปลกที่พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.อันดับหนึ่ง แต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล  หากรัฐบาลเป็นพรรคเพื่อไทย  ประเทศคงไปได้ไกลกว่านี้  จึงอยากสอบถามประชาชนว่า วันนี้เราตื่นขึ้นมา  กับ8 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่  มีเพียงบางโครงการที่เดินต่อไปเท่านั้น  ขณะที่สภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ ค่าแรงเท่าเดิม  นักเรียน นักศึกษา มองไม่เห็นอนาคต ผู้ใหญ่ไม่ฟังเด็ก  เชื่อว่าตราบใดที่ยังมีรถถังออกมาเพ่นพ่านแบบนี้ ไม่มีทางที่ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากประเทศกำลังพัฒนาได้ “อ๋อมตัดสินใจไม่ผิด อ๋อมไม่ได้มาเพื่อแพ้  อ๋อมมาเพื่อชนะ ประเทศต้องก้าวไปข้างหน้า  อ๋อมมั่นใจในตัวเอง มั่นใจในทีมงาน และมั่นใจในพรรคเพื่อไทย” นางสาวสกาวใจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์-ผลประชุม GBC กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]