ปชป. มอง สธ. กำหนดเงื่อนไขยาบ้า ย้อนแย้งหลักสากล

กทม. 5 ก.พ.- รองโฆษก ปชป. มอง สธ. กำหนดเงื่อนไขยาบ้า ย้อนแย้งหลักสากล จี้แก้ปัญหาที่ต้นตอ อย่าผลักคนเข้าเรือนจำแทนการบำบัดคืนสังคม


นางสาวศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบร่างกฎกระทรวงฯ ว่าด้วยการกำหนดจำนวนยาบ้า ให้ผู้ครอบครองเกิน 1 เม็ด เป็นผู้ค้ายาเสพติด และเตรียมส่งเข้า ครม. พิจารณาวันอังคาร ที่ 7 ก.พ.นี้ โดยมองว่าเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งกับความพยายามของหลักการสากล ในการเปลี่ยนมุมมองจากผู้เสพเป็นผู้ป่วย มากกว่าผลักให้คนเหล่านี้ไปเป็นอาชญากร และความพยายามในการเปลี่ยนมุมมองจากผู้เสพเป็นผู้ป่วย ยังเน้นกระบวนการบำบัดรักษาฟื้นฟู เพื่อช่วยให้ผู้เสพสามารถกลับคืนสู่สังคมได้ง่ายขึ้น ผู้เสพต้องได้รับการบำบัดทั้งทางร่างกายและจิตใจทำให้รู้ถึงโทษและพิษภัย ไม่กลับไปแตะต้องอีก

ซึ่งการกำหนดให้ผู้ครอบครองยาเกิน 1 เม็ดเป็นผู้ค้านั้น ไม่สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้ มีแต่จะสร้างปัญหาอื่นเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ แต่เป็นการตัดโอกาสในการกลับคืนสู่สังคมของผู้ป่วยด้วยเช่นกัน เรามักจะเห็นข่าวบ่อยครั้ง ที่ผู้ต้องขังคดียาเสพติด พ้นโทษมาแล้วก่อเหตุซ้ำ หลายคนเข้าไปสร้างเครือข่ายกันในเรือนจำ บางคนมีอาการทางจิต หากไม่ได้รับการบำบัดรักษา ก็จะส่งผลต่อความปลอดภัยในสังคมได้ 


อยากเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ศึกษามาตรการเหล่านี้ให้ชัดเจน เพราะการเปลี่ยนแปลงกติกาใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ควรมีผลการศึกษารองรับ และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน  ตลอดจนหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ไม่ควรทำ เหมือนกับกรณีปลดล็อกกัญชา ในขณะที่ยังไม่มี พ.ร.บ.กัญชากัญชง ออกมาควบคุม จนทำให้สังคมเกิดความปั่นป่วนมาแล้ว

ส่วนตัวเห็นด้วยกับการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง แต่การปราบปรามยาเสพติดที่ยั่งยืน ควรแก้ปัญหาที่ต้นตอด้วยการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้เข้มงวดกับผู้ผลิตและผู้ค้ายาเสพติด ผ่านความร่วมมือระดับสากลระหว่างรัฐบาลเพื่อปราบปรามเครือข่ายผู้ค้าและผู้ผลิตรายใหญ่ และแก้ปัญหาผู้เสพด้วยการยกระดับระบบการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เสพสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างสมบูรณ์ ก่อนจะออกกฎใดๆ จำเป็นจะต้องมีความเข้าใจปัญหาอย่างท่องแท้ มิเช่นนั้นจะมีแต่นำประเทศลงเหว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทำเนียบฯ เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568

ทำเนียบรัฐบาล จัดเต็ม เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ2568 เปิดหน้าทำงาน-นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สวมบทบาทโฆษกรัฐบาล “นิวส์จิ๋ว” อ่านข่าวภาคภาษาไทย และอังกฤษ พบขบวนมาสคอต “หมูเด้ง” และผองเพื่อน