กระทรวงกลาโหม 25 ม.ค.-ที่ประชุมสภากลาโหม ให้หน่วยขึ้นตรง วิจัย พัฒนาต่อยอดผลิตยุทโธปกรณ์ใช้เองให้เป็นรูปธรรม ลดการซื้อจากต่างประเทศ พร้อมกำชับให้เร่งปราบยาเสพติด แก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง
พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า การประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 1/2566 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566-2570) (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ประเด็นที่ 4 อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต แผนย่อยอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ กำหนดเป้าหมาย ลดการพึ่งพาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากต่างประเทศ และพัฒนาต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมส่งออกได้ต่อไป
“ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ในการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเรื่องการวิจัย พัฒนายุทโธปกรณ์ สิ่งอุปกรณ์ อะไหล่และชิ้นส่วนซ่อมให้ผลิตใช้ได้เองภายในกองทัพ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอดจนให้ร่วมกันศึกษารูปแบบอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของประเทศต่าง ๆ ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เพื่อจัดทำข้อมูลสำหรับการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยต่อไป” รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
พ.อ.จิตนาถ กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาปัญหายาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งความมั่นคงของชาติ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระเร่งด่วน โดยให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งในด้านการป้องกัน ปราบปราม และการบำบัดรักษาผู้ป่วย ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้งและพัฒนาศักยภาพของสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดให้ได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยผู้ป่วยยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัดรักษาเป็นสำคัญ อีกทั้งสร้างการยอมรับและความเข้าใจอันดีให้แก่ประชาชน สนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว ตลอดจนการดำเนินการอื่น ๆ เมื่อได้รับการประสานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด อันจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป
“ที่ประชุมยังให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ บูรณาการและประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในพื้นที่เมือง พื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ ให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร เช่น กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทั้งนี้ การป้องกันและแก้ไขปัญหาต้องเป็นไปอย่างมีเอกภาพ การรับผิดชอบกำกับดูแลพื้นที่ต้องไม่เกิดช่องว่างระหว่างหน่วยงาน ตลอดจนให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง” รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว.-สำนักข่าวไทย