ทสท.ชูนโยบายแก้หนี้ให้ประชาชน

ไทยสร้างไทย   วันนี้  ( 19 ม.ค.)   “สุพันธุ์ ไทยสร้างไทย”  ชูนโยบายแก้หนี้ใน-นอกระบบ ขอบคุณ   “กรณ์”  เอานโยบายไปขยายต่อประชาชนได้ประโยชน์


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ   พรรคไทยสร้างไทย แถลงนโยบาย “แก้หนี้ให้ประชาชน”   ในแคมเปญ SMEs  “สร้างไทย คนตัวเล็กสร้างชาติ”      โดยกล่าวว่า วันนี้ปัญหาสำคัญของประเทศคือเศรษฐกิจ   สืบเนื่องมาจากการที่รัฐล็อกดาวน์ในช่วงการระบาดของโควิด ประชาชนทำกิจการไม่ได้ เป็นหนี้สิน เศรษฐกิจของประเทศก็ชะงักเพราะหนี้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น หนี้สาธารณะ, หนี้ครัวเรือน, หนี้เสีย, หรือหนี้นอกระบบ ถ้าเราแก้หนี้ไม่ได้ เศรษฐกิจก็เดินต่อไปลำบาก แต่ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลแก้หนี้ได้ถูกจุดไหม

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กู้หนี้สาธารณะรัฐบาลมาโดยให้เหตุผลว่าเอามาพัฒนาประเทศ จนวันนี้เรามีหนี้สาธารณะสูงถึง 60% ของจีดีพี หรือสูงถึงกว่า 3 ล้านล้านบาท แต่คุณภาพชีวิตประชาชนกลับไม่ดีขึ้น รายได้ประชาชนไม่ได้เพิ่มขึ้น เงินบางส่วนเอาไปใช้กับงบประมาณกองทัพ เช่น ซื้อเรือดำน้ำ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ อีกทั้งยังมีเรื่องคอร์รัปชันซึ่งสูญงบประมาณของประเทศไปไม่ต่ำกว่า 30% แทนที่จะเอาเงินก้อนี้มาอัดฉีดให้คนตัวเล็กเข้ามาหมุนเงินในระบบได้อีกหลายรอบ


ขณะเดียวกันหนี้ครัวเรือนของคนไทยสูงถึง 90% ของจีดีพี สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่รายได้ของประชาชนกลับไม่สูงตาม แถมยังมีค่าครองชีพที่แพงขึ้น เช่น ค่าไฟฟ้า นั่นแสดงให้เห็นว่าหนี้สาธารณะที่รัฐบาลกู้มาไม่ได้ถูกใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

นอกจากนี้ หนี้เสียเครดิตบูโรช่วงโควิดมีถึง 5 แสนล้านบาท   เราต้องแก้หนี้เสียเหล่านี้ ไม่ใช่ยกเลิกเครดิตบูโร   ซึ่งผิดวิธี เพราะความจริงแล้วคนเหล่านี้เขามีศักยภาพในการใช้หนี้   แต่เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลในการล็อกดาวน์ช่วงโควิด  ทำให้พวกเขาประกอบกิจการไม่ได้  ดังนั้นเราต้องพักหนี้  3 ปี  เพื่อชดเชยช่วงที่ประชาชนทำมาหากินไม่ได้เพราะโควิดมา 3 ปี  และลดดอกเบี้ยจากอัตราของหนี้เสีย ให้เท่ากับดอกเบี้ยปกติ นโยบายกองทุนฟื้นฟูหนี้เสียโดยใช้งบประมาณแค่ 10,000 ล้านบาทก็จะช่วยปลดล็อกชีวิตคนอีกหลายล้านคน   เพื่อให้พวกเขากลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวได้ใหม่ เป็นนักรบของประเทศไทยหารายได้เข้าประเทศ

อีกทั้งยังมีเรื่องหนี้นอกระบบที่คนไทยกว่า 40% เป็นหนี้ หลังจากช่วงการระบาดของโควิดนาน 3 ปี การเป็นหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อเดือนทำให้หลายคนต้องจมอยู่กับการเป็นหนี้และใช้ดอกเบี้ย ตัวเองเคยเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบมาก่อนจึงรู้ดีว่ารู้สึกอย่างไร ไม่มีกะใจทำมาหากิน บางรายต้องขายทรัพย์สินหรือหนีหนี้ หมดโอกาสกลับมาทำมาหากินได้อย่างเคย พรรคไทยสร้างไทยจะแก้วงจรอุบาทว์และหยุดระบบที่เอาเปรียบประชาชนให้ได้ ด้วยนโยบายเครดิตประชาชน จากพื้นฐานความคิดที่ว่าประชาชนทุกคนมีเครดิต และสามารถกู้ได้ตั้งแต่ 5,000 บาท ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน และถ้าจ่ายหนี้ตรงเวลาก็จะเพิ่มได้สูงถึง 50,000 บาท เพียงแค่ลงทะเบียนออนไลน์ และไม่จำเป็นต้องกลับไปพึ่งหนี้นอกระบบ


วันนี้เราเห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมมาก คนตัวเล็กและ SMEs เป็นหนี้สินท่วมตัวไม่สามารถกลับมาทำมาหากิน พรรคไทยสร้างไทยจึงมีแคมเปญ  “SMEs สร้างไทย คนตัวเล็กสร้างชาติ”    เพื่อช่วยพวกเขาแก้หนี้และกลับมายืนได้อีกครั้ง หากได้เป็นรัฐบาลยืนยันว่าจะแก้หนี้ได้อย่างแน่นอน โดยส่วนหนึ่งจะใช้งบประมาณซอฟท์โลนเดิมที่รัฐบาลกู้มาแล้วยังติดค้างในคอขวดมาใช้ และยังมีนโยบายหาเงินเข้าประเทศ เช่น การจัดอีเวนต์ใหญ่ หรือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นต้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เปิดแคมเปญเงินกู้ด่วนสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ติดแบล็กลิสต์ที่คล้ายกับเงินกู้ด่วน กองทุนเครดิตประชาชน   ที่พรรคไทยสร้างไทยเปิดนโยบายแก้หนี้นอกระบบไปก่อนหน้านี้ นายสุพันธุ์ กล่าวว่า แม้เราจะทำมาก่อนหลายเดือนแล้ว   แต่ถ้านายกรณ์มีจุดประสงค์ที่ดีในการช่วยเหลือประชาชนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับประชาชน   เพราะทุกคนช่วยกันทำ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย