รทสช. มีผู้สมัครพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งเกิน 100 %

รัฐสภา 18 ม.ค.-“เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์” สมัครสมาชิกรวมไทยสร้างชาติแล้ว เผยเป็นทีม “ลุงตู่-พี่ขิง” พร้อมชิง ส.ส.กทม. ด้าน “เอกนัฏ” ระบุมี ส.ส. พร้อมลงสนามเลือกตั้งครั้งใหม่เกิน 100%


นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง มาเขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคให้การต้อนรับพร้อมรับใบสมัครการเป็นสมาชิกพรรคของนายเขตรัฐ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคของนักการเมืองต่าง ๆ ในขณะนี้คือมี ส.ส. ที่ลาออกจากพรรคเดิมและผู้สมัครใหม่ทยอยมาเขียนใบสมัคร ซึ่งถ้าเป็นส.ส.ปัจจุบันตามที่ได้คุยกันไว้ก็ยังอยากให้ทำหน้าที่ ส.ส. ไปก่อน เพื่อให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่ในกรณีของนายเขตรัฐ เนื่องจากเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ การลาออกจึงไม่กระทบการทำงานของ สภาฯ สามารถลาออกมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้


“ในส่วนของกทม.จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ เพราะถ้าจะไปลงสมัครในระบบเขตทุกคนต้องมีเวลาลงพื้นที่ ซึ่งคนที่พรรคจะส่งสมัครในฐานะตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติ หลายคนรู้ตัวกันอยู่แล้ว และในวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.) จะประชุมว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดของกทม.กว่า 30 คน เพื่อทำความเข้าใจในการทำงาน อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่จำเป็นต้องรอความชัดเจนของการแบ่งเขต แต่สำหรับว่าที่ผู้สมัครที่มีความชัดเจนแล้วจะแนะนำตัวเพื่อให้ทำงานในพื้นที่ได้เลย เมื่อทุกอย่างพร้อม พรรคจะประกาศตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการทันที รวมถึงการประกาศนโยบายของพรรคที่จะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วย” นายเอกนัฏ กล่าว

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการของประชาชนเช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ ที่ประกาศไปแล้วหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีแน่นอน โดยแนวคิดของพรรคคือจะต้องดูสถานะของประเทศก่อน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นหลังจากปัญหาโควิด ซึ่งหากดูจากภาพรวมเห็นได้ว่าตัวเลขจีดีพีกำลังไปในเชิงบวก ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านถือว่าประเทศเราไปได้ดี ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่กอบกู้สถานการณ์มาแล้ว หลังจากนี้ต้องเก็บเกี่ยวโอกาสใหม่ ๆ

“ส่วนการจะไปแข่งเรื่องการลด แลก แจกแถม เห็นว่าเป็นการใช้เงินบิดเบือนกลไกการตลาด ไม่ทำให้เกิดความยั่งยืน ผมเชื่อว่าจากผลงานของรัฐบาลชุดนี้ หากส่งเสริมการลงทุนหรือการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ การพัฒนาธุรกิจบริการการสาธารณสุขที่สามารถมาส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ และจะทำให้เศรษฐกิจโตขึ้น ประเทศมีรายได้ ทำให้ตลาดการจ้างงานโตขึ้นด้วย ที่เขาพูดกันเรื่องประกันค่าแรง 600 บาทในความรู้สึกผม ถ้าทำได้ดี ไม่ต้องไปประกัน ผมว่าอีก ปีสองปีเราก็สามารถทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นได้ และไม่ใช่เฉพาะในส่วนของค่าแรงอย่างเดียว แต่รายได้กับคนที่ทำอาชีพอื่นด้วย ไม่ใช่การรับจ้างอย่างเดียว จะเป็นเกษตรกร เจ้าหน้าที่ พนักงาน เป็นคนที่อยู่ในออฟฟิศก็จะไปด้วยได้”  นายเอกนัฏ กล่าว


นายเอกนัฏ กล่าวว่า สิ่งที่ควรต่อยอดจากรัฐบาลชุดนี้คือเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ที่พัฒนาถนนหนทาง ท่าอากาศยานเตรียมพร้อมสำหรับการเชื่อมโยงประเทศไทยกับภูมิภาค และประชาคมโลกไว้ได้ดีมากแล้ว ขณะเดียวกันต้องมีสวัสดิการที่ต่อยอด สร้างความเท่าเทียมเรื่องของโอกาส การสร้างสังคมที่เป็นธรรม ไม่ได้ดูแลเฉพาะบุคคล แต่เป็นการดูแลไปถึงครอบครัว

“จากนี้ไปเราได้รับนักการเมืองไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ปัจจุบันหรือนักการเมืองหน้าใหม่ที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจำนวนมาก เตรียมขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสในอนาคตที่จะพัฒนาให้พรรคเป็นสถาบัน หน้าที่ของเราคือจะต้องขับเคลื่อนสู้ศึกการเลือกตั้งนี้ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อจะขับเคลื่อนนโยบายของเราไปให้ได้ แต่ทั้งหมดจะต้องมีความรับผิดชอบในฐานะพรรคการเมืองด้วย” นายเอกนัฎ กล่าว

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรค นายเอกนัฏ กล่าวว่า กระบวนการคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ดังนั้น 1 ใน 3 จะต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว แต่จะมีขั้นตอนกระบวนการที่อาจจะไม่ต้องพูดถึงเรื่องพิธีกรรมอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่ก็รู้กันอยู่แล้ว

นายเอกนัฎ กล่าวถึงกำหนดการการพบปะประชาชนของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า จะเกิดขึ้นสิ้นเดือนนี้ คาดว่าถ้าเป็นไปตามกำหนดจากนี้ไป พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวกสองใบ เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็เป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย หลังจากที่จัดงานไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม มีเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปพบ ดังนั้น ตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไปจะออนทัวร์ ไปตามภูมิภาคต่าง ๆ โดยจะเลือกจุดที่ง่ายต่อการเดินทาง ซึ่งเป็นจุดหลักในภูมิภาค

 ส่วนกรณีที่พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ก่อนการเดินทางไปของพล.อ.ประยุทธ์ นายเอกนัฎ กล่าวว่า คงไม่มีผลอะไร เป็นเรื่องธรรมดาของการปฏิบัติราชการหรือการทำงานการเมือง ขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์มีหมวกสองใบ การจะออกไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัดเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว ส่วนในฐานะสมาชิกพรรคเป็นการทำงานนอกเวลาราชการ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเย็น ช่วงวันหยุด เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะใช้เวลาให้คุ้มค่าในการทำหน้าที่ของสมาชิกพรรค เพื่อขับเคลื่อนพรรคไปพร้อมกับสมาชิกพรรคและผู้บริหารคนอื่น ๆ ด้วย

เมื่อถามถึงกลุ่มรัฐมนตรีจากกลุ่มพรรคเพื่อประชาชนที่สนใจจะมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติมีความชัดเจนอย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในทางการเมือง ความชัดเจนที่เห็นขณะนี้ถือว่าชัดมากแล้ว และที่คุยกันไว้มีอีกจำนวนมาก บางคนยังไม่สามารถบอกได้ เพราะต้องรักษามารยาททางการเมือง แต่ยืนยันได้ว่า ณ เวลานี้ จะมีกลุ่มนักการเมือง ส.ส. ปัจจุบัน รัฐมนตรี ขณะเดียวกันมีนักการเมืองดาวฤกษ์รุ่นใหม่ คนใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากบ้านใหญ่ มีศักยภาพเป็นดาวฤกษ์ในตัวเองที่ตั้งใจมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติกว่า 100 คน

“มีเสียงเรียกร้องให้พรรคประกาศตัวผู้สมัครเลย ซึ่งจริง ๆ เรามีอยู่แล้ว ทำพรรคการเมืองเราก็รู้ ช้าสุดก็ต้องเลือกตั้งอีกไม่นาน ดังนั้น ตัวผู้สมัครหลายภาค อย่าบอกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ดีกว่า หลายเขตเลือกตั้งมีผู้มาแสดงความประสงค์จะลง ส.ส. มากกว่าหนึ่งคนก็ต้องคัดเลือกคนที่ดีที่สุดในสายตาประชาชน นั่นคือเกณฑ์สำคัญของเราอยู่แล้ว วันนี้เรื่องตัวผู้สมัคร เราพร้อม กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคใต้ แม้กระทั่งอีสาน เหนือ ทุกภาคพร้อม อาจจะมีบางคนที่ตัดสินใจไปพรรคอื่นแล้วเปลี่ยนใจมาที่นี่ก็ได้ คนที่ไม่คิดจะมาก็มา เมื่อวานก็มีมาเพิ่มอีก แต่ถ้าเป็นส.ส.อยู่ก็อยากให้ทำงานไปก่อน ยังไม่ต้องรีบลาออก อันนี้ก็ถือประกาศไปเลย แต่บัญชีรายชื่อไม่เป็นไร” นายเอกนัฏ กล่าว

นายเอกนัฏ กล่าวว่า สำหรับนายเขตรัฐ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อก็จริง แต่วันนี้ตั้งใจจะมาลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งกรุงเทพฯ ก็เลยลาออกมา แต่ไม่ทำให้สภาฯ ต้องเสียหาย ขณะเดียวกันคุณเขตรัฐจะลงพื้นที่ด้วย เป็นคนรุ่นใหม่มีศักยภาพ มีประสบการณ์ เราเองก็ดีใจที่มีบุคลากรที่เป็นแบบคุณเขตรัฐมาช่วยงานพรรคแล้วมีมากกว่านี้ เพราะเราเน้นผสมผสานคนทุกรุ่นทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ด้วย

ด้านนายเขตรัฐ กล่าวว่า ที่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพราะติดตามการทำงานของพรรค และการทำงานของแกนนำและหัวหน้าพรรค ทำให้เชื่อมั่นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคที่เป็นสถาบัน ที่จะเป็นเสาหลักของประเทศได้ รวมทั้งมีความน่าเชื่อถือ จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาสมัครสมาชิกพรรค ซึ่งตนเป็นทีม “ลุงตู่” และทีม “พี่ขิง” ด้วย จึงไม่ต้องมีอะไรให้ตัดสินใจมาก เงื่อนไขไม่ต้องตั้ง ความชัดเจนสำคัญที่สุด วันนี้จึงมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อจะได้เริ่มทำงานเลย ทั้งนี้ ไม่ได้คุยกับบิดาเลย เพราะตอนนี้บิดากำลังเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ คราวที่แล้วก็เข้าพรรคก่อน ครั้งนี้ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร อยากให้ติดตามต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง