พท.เดินหน้าแลนด์สไลด์ ไม่สนไมตรีพรรคอื่น

นนทบุรี 18 ม.ค.-“อุ๊งอิ๊ง” นำแกนนำเพื่อไทยลงพื้นที่นนทบุรี ยันเดินหน้าแลนด์สไลด์ ไม่จับมือกับใคร อายุครรภ์ไม่เป็นอุปสรรคหาเสียง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบ 400 เขตเดือนหน้า


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคนำ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดนนทบุรีทั้ง 8 เขต ขึ้นรถสองแถว 6 ล้อลงพื้นที่ โดยถวายสักการะศาลเจ้าพ่อเสือ ก่อนเดินตลาดกรมชลประทาน พบปะพ่อค้า แม่ค้าและประชาชน ที่มาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งมีประชาชนให้การต้อนรับ มอบพวงมาลัยดอกกุหลาบและขอถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง จากนั้นไปเดินตลาดประชานิเวศน์ 3 (ซอยสามัคคี ท่าทราย) เพื่อสอบถามปัญหาราคาสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน

ทั้งนี้ การนลงพื้นที่ของน.ส.แพทองธารและแกนนำพรรคเพื่อไทยในวันนี้(18 ม.ค.) ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และได้ยินเสียงตอบรับจากประชาชนที่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ทำให้มั่นใจว่าจะต้องเดินหน้าหาเสียงต่อ หลายคนยังคงเป็นฐานเสียงเดิมที่ไว่ใจตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง


เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะรักษาพื้นที่ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จังหวัดนนทบุรีมีทั้งหมด 8 เขต มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะสามารถปักหมุดได้ทั้ง 8 เขต เพราะ ส.ส.อยู่ใกล้ชิดประชาชน ส่วนพื้นที่ที่ส.ส.ย้ายออกไป ขณะนี้ได้ตัวผู้สมัครเข้ามาทดแทนแล้ว ซึ่งมั่นใจกว่าเดิม เพราะมีความใกล้ชิดในพื้นที่

ส่วนมองนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเรื่องเพิ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาทอย่างไร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้มอง ก็เป็นนโยบายของพรรคการเมือง ส่วนนโยบายเพิ่มค่าแรงเป็น 600 บาทของพรรค เป็นนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานที่ทำได้จริง ไม่ทราบแนวทางของพรรคอื่น เป็นเรื่องของพรรคอื่น ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า เพื่อไทยพูดแล้ว เพื่อไทยทำได้จริง

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เหตุผลที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติคือผลงานของพรรคเพื่อไทย และย้อนไปถึงรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ซึ่งประชาชนเชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ โดยเฉพาะนโยบายที่ทำได้จริง ขณะที่บุคลากรของพรรคทำงานกับประชาชนอย่างจริงจัง ส.ส.ในพื้นที่เข้าใจและเข้าถึงประชาชน และประขาชนจะเชื่อมั่น คือตัวบุคคลที่จะมานำพาประเทศ นำพานโยบายของพรรคเพื่อไทยสู่ประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยชี้ขาดทำให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย


“พรรคเพื่อไทยฟังประชาชน จะไม่ประกาศจับมือกับพรรคการเมืองใดก่อนการเลือกตั้ง เราจะเปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 รายชื่อพร้อมกัน ส่วนจะจัดลำดับหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โดยจะประกาศรายชื่อทันทีหลังการยุบสภา คาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมีนาคม ก่อนที่สภาฯ จะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคมนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว

ส่วนที่รัฐบาลแจ้งว่าพร้อมทให้ฝ่ายค้านอภิปรายแบบไม่ลงมติหลังวันที่ 15 ก.พ. หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นการทอดเวลา ซึ่งผิดปกติ และจากที่หารือประธานสภาและตัวแทนวิปรัฐบาลจะขอขยับเวลาเป็นวันที่ 1-4  กุมภาพันธ์จะได้หรือไม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด หากไม่ได้อาจจะเป็นวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ ฝ่ายค้านพยายามจะต่อรองไม่อยากให้เป็นหลังวันที่ 15 ก.พ.

ด้านน.ส.แพทองธาน กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐประกาศนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน ถือเป็นการบลัฟพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายเพิ่มค่าแรง 600 บาทหรือไม่ ว่า สิ่งที่พูดแล้วเราสัญญาในสิ่งที่มั่นใจว่าทำได้ พรรคอื่นจะอย่างไรเป็นเรื่องที่จะพิจารณากันเอง ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะทำให้ได้ตามที่บอกประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐประกาศจะทำเรื่องนี้ทันที น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นระบบงบประมาณหรือไม่ แต่ของพรรคเพื่อไทยเป็นการทำงานที่ไม่เหมือนกัน

ส่วนกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการก้าวข้ามความขัดแย้ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นเรื่องดี แต่เพื่อไทยยึดหลักประชาธิปไตยและการหาเสียงแบบแลนด์สไลด์ เพราะต้องการทำให้นโยบายทุกอย่างเกิดขึ้นจริง เพื่อประชาชน ถ้าต้องจับมือกับพรรคอื่น นโยบาย แนวคิด จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะผ่านการเลือกจากประชาชนแล้ว เพื่อไทยจะยึดสิ่งนั้นเป็นหลัก

เมื่อถามว่า หากพลังประชารัฐทอดไมตรีมาหาเพื่อไทยก่อน เป็นไปได้หรือไม่ที่เพื่อไทยกับพลังประชารัฐจะจับมือกันหลังเลือกตั้ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตอบเรื่องนี้ เพื่อไทยอยากแลนด์สไลด์ ไม่อยากแบ่งใจไปที่อื่น ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนและพรรค เพราะประเทศไม่ไหวแล้ว ต้องไปต่อ ต้องใช้นโยบายที่ทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น เกมการเมืองคือการเลือกตั้งเท่านั้น แต่เกมการเมืองที่เป็นดราม่านั้นไม่สำคัญ สิ่งที่จำเป็นคือปากท้องประชาชน

“แม้จะอายุครรภ์มากขึ้น ก็ไม่เป็นปัญหาในการหาเสียง แต่ยอมรับว่าอาจจะเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น เนื่องจากได้พบแพทย์ตลอดและหัวหน้าพรรคก็เป็นหมอด้วย” น.ส.แพทองธาร กล่าว ซึ่งนพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า “เด็กยิ่งเต้นแรง คะแนนยิ่งมา”

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข้อสังเกตุว่าพล.อ.ประวิตรพร้อมทอดไมตรีกับทุกพรรค เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ว่า ไม่ทราบ การเลือกตั้งต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ในส่วนของพรรคจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรครบทั้ง 400 เขตในเดือนกุมภาพันธ์นี้ .-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]