“เสรีพิศุทธ์” ชี้ “ทักษิณ” กลัวเขมรเหตุกุมความลับไว้ แขวะ “อุ๊งอิ๊ง” ไร้น้ำยา

กทม.7มิ.ย.-“เสรีพิศุทธ์” ปูด “ทักษิณ” มีแนวคิด​เอาระบบ “ฮุนเซน” มาใช้ใ​นไทย​ ชี้กลัวเขมรเหตุกุมความลับไว้เยอะ​ คาดไปรอชายแดนก่อนคดีชั้น14 ศาลนัด 13 มิ.ย. แขวะ “อุ๊งอิ๊ง” ไม่มีน้ำยา-ยังไม่อดนม-​ไม่กล้า​ เสนอยึดคืนพื้นที่ให้หมด

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส​ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงสถานการณ์ไทยกัมพูชาว่า​ ถ้าเด็กๆทะเลาะกันก็แค่เรื่องผลประโยชน์บางครั้งแย่ง จะตีกันเพราะเงิน 10 บาท โตหน่อยก็ 100 บาท พอเป็นผู้ใหญ่บ้านติดกัน ทะเลาะกันเรื่องบุกรุกที่บ้าน แจ้งความดำเนินคดีให้ศาลตัดสิน ซึ่งเป็นวิถีทาง แต่เมื่อโตขึ้นมาปัญหาเล็กน้อย 10 บาทเอาไปเลยไม่สนใจ 100 บาทก็ให้ได้ตอนนี้ตนอายุ 77 ปีจะกลับบ้านเก่าเมื่อไรก็ไม่รู้ ดังนั้นอะไรที่ให้ได้ก็ให้ให้หมด​ ในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองก็เช่นเดียวกัน เรากับเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ที่อยู่ติดกัน​ คงไม่มีปัญหา เพราะมีความรู้จริยธรรมพอสมควร แต่เขมรไม่รู้เรื่อง ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ในอดีตจะพบว่าเขมรคือของไทยเดิม​ สยามประเทศแต่โดนฝรั่งเศสยึดไป จึงเสียดินแดน ผ่านมาแล้วถึงขณะนี้ก็ยอม แต่บ้านเมืองขณะนี้ที่มีพื้นที่ชิดติดกันไม่เหมือนบ้านที่เราอยู่ด้วยกันมีรั้ว จะมาบุกยึดโดยพละการทำไม่ได้ ทำให้ทะเลาะกัน และมีศาลโลกถ้าไม่ยอมรับก็ไปไม่ได้


พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลเพื่อไทย รัฐบาลทักษิณ เมื่อมาบริหารประเทศทีไรก็มีปัญหาทุกที เช่นสมัยพรรคไทยรักไทย เสียพื้นที่เขาพระวิหาร แล้วที่ตนไม่ยอมนายทักษิณ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี วันนี้ เพราะคิดถึงประเทศชาติประชาชนและสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่รู้จักกันมา 50 ปีและเป็นรุ่นน้อง

“ทักษิณจะยอมได้ยังไง “ทักษิณ” เอาลูกเจ๊แดงเยาวภาไปแต่งงานกับฝั่งโน้น “ยิ่งลักษณ์”​ หนีออกนอกประเทศครั้งที่แล้วก็ผ่านกัมพูชา​ “ฮุนเซน” ดูแลทั้งหมด “ทักษิณ” มีผลประโยชน์ตั้งบริษัทอะไรต่างๆ ในเขมร “ทักษิณ” ไม่ใช่ตำรวจแต่เป็นพ่อค้าเป็นนักธุรกิจ มีผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงอะไร​ แค่ให้ได้กำไร ไม่รู้จักพอ ตอนนี้มีเงินหลายล้าน ดู “อุ๊งอิ๊ง” สิไม่ได้ทำอะไรมี 30,000 ล้าน พี่ชายน้องสาวคุณหญิงอ้อทั้งตระกูลมีเท่าไหร่ยังไม่รู้จักพอ ยังเอาประโยชน์มหาศาล แล้วจะเดินไปสู่เป้าหมาย เอาระบบ “ฮุนเซน” มาใช้ในประเทศไทยให้ได้ พูดเท่านี้ก็รู้แล้วว่า “ทักษิณ” มีเป้าหมายอะไร​ ผมจะไม่ยอมให้เดินไปสู่เป้าหมายนั้นได้ จึงออกมาหักในวันนี้ 50 ปีคบกันก็ทิ้งมันไปซะ “ทักษิณ” เจอเขมรทีไรก็มีปัญหาเพราะเขมร คุมความลับ กลุ่มผลประโยชน์ของ “ทักษิณ” เยอะ และถ้าจะมีคราวนี้ก็ต้องพึ่งเขาอีก “ทักษิณ” จึงไม่กล้าและ “อุ๊งอิ๊ง” จะกล้าอะไร ถึงจะกล้าก็ไม่มีน้ำยา เด็กผู้หญิงเมื่อวานซืน ยังไม่อดนม ไม่รู้เรื่องอะไร นายภูมิธรรม ก็ไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้แก้ไขปัญหา”พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์​กล่าว


พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่โพสต์ข้อความระบุว่า ไม่ต้องคุยกับเขมรเป้าหมายคือยึดพนมเปญเท่านั้น โดยยืนยันว่าไม่ได้บ้า แต่มีประสบการณ์สูง เป้าหมายไม่ได้ต้องการยึดแต่ให้เอาประวัติศาสตร์มาดูว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นของเรา เขมรเป็นพื้นที่ของไทยมาก่อนดูจากประวัติศาสตร์ให้ชัดเจน ถ้าดูแล้วตนมีอำนาจตนจะยึดคืนหมด

“เมื่อมองดูแล้วเขมรจะมาสู้อะไรเรา กำลังรบสู้เราไม่ได้​ จะมาปล่อยให้มาเขกหัวเราเล่นหรือ แต่ถ้าเอาจริงจะไปรบสู้เราไหวหรือ ศักยภาพของเขมร จะปล่อยให้เด็กเกเรมานั่งเกเรทุกวี่ทุกวันมันได้หรือ​ ต้องสั่งสอนบ้าง ถ้าตรงนี้บ้านหนองจานของไทยยึดแล้วก็ดูพื้นที่​ ดีไม่ดีก็ถล่มเข้าไป คำว่าเป้าหมายคือพนมเปญ สุดท้ายคือถ้าไม่ยอมก็จะยึด​ เขาสู้เราไม่ได้ ไม่ใช่อะไร เป็นขี้ข้ายอมมัน มันครอบครองแล้วมันไม่ถอย ถ้าเสรีพิศุทธ์มีอำนาจเอาคืนแน่” พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์​ กล่าว

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีชั้น 14 ที่ศาลนัดพร้อมวันที่ 13 มิถุนายนนี้ว่า​ ศาลได้ปิดกำหนดให้แต่ละฝ่ายชี้แจง 30 พ.ค. ดังนั้นศาลสามารถเขียนคำพิพากษาไว้ได้เลย และเปิดซองอ่านคำพิพากษาได้ในวันที่ 13 มิ.ย. อย่างไรก็ตามชัดเจนว่าการเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้ขออนุญาตศาล และศาลต้องสั่งจำคุกอีก 1 ปี แต่ใครที่ช่วยนายทักษิณ ป.ป. ช. จะไปตรวจสอบเอง ศาลไม่เกี่ยวเพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ ขณะที่ฝ่ายนายทักษิณ ถ้าไปเดี๋ยวไม่ได้กลับ อาจจะรอฟังก่อน ในช่วงวันที่ 12 มิ.ย. อาจไปรอฟังใกล้เขมร ถ้า 13 มิ.ย. ศาลสั่งเลยก็อยู่ที่เขาว่าจะตัดสินใจอย่างไร


“ผมรู้จักกันมา 50 กว่าปี ตั้งแต่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเรียนนายร้อยตำรวจ ถูกนายทักษิณ เอาเปรียบมาเยอะ เคยฟ้องร้องกัน เคยตั้งเพรียวพันธ์ข้ามผมไปเอารัดเอาเปรียบผม ผมไป​ก็เห็นว่าไม่ป่วย แต่ทำไมณวันนี้ตนต้องเลือกข้างประเทศชาติประชาชนและพระมหากษัตริย์ไม่เช่นนั้น ระบบฮุนเซนมาแน่”พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์​ กล่าว.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]