ปิดสวิตช์ส.ว.-หยุดแก้รธน.เอื้อ “พล.อ.ประยุทธ์”อยู่ยาว

พรรคเพื่อไทย 17 ม.ค.-วงเสวนาเพื่อไทย เห็นพ้อง “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ควรไปต่อ ย้ำต้องปิดสวิตซ์ ส.ว. หยุดข้อเสนอแก้รธน.เอื้ออยู่ยาว


พรรคเพื่อไทยจัดเสวนา  “ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ประยุทธ์ต้องพอเถอะ” นำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นที่สุด คือการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม รวมถึงมีผู้นำที่ทุกคนยอมรับ ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงที่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น การปิดสวิตช์ส.ว.คือสิ่งที่ควรจะทำเพื่อให้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

นายจาตุรนต์ มองเจตนารมณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่ได้ต้องการอยู่ต่อเพียง 2 ปีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเห็นได้จากความพยายามของส.ว.กลุ่มสนับสนุนพล.อ.เอกประยุทธ์ โยนหินถามทางต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลดล็อกให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไม่สิ้นสุด


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่เกิดการยอมรับจากประชาชน หาช่องแก้ไขกติกาให้ตัวเองได้เปรียบ อีกทั้งงูเห่ายังเต็มสภา ใช้อำนาจและเงินในทางที่ผิด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ประชาชนสามารถหยุดได้จากการเลือกตั้ง ที่สำคัญต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ชนะ รวมถึงต้องเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาเห็นแก่บ้านเมือง ร่วมกันปิดสวิตช์ตัวเอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อได้ไม่จำกัด ต้องไม่เกิดขึ้น

“การส่งออกหยุดชะงัก โครงสร้างพื้นฐานมีปัญหา การคอร์รัปชั่นที่มากขึ้น ทุกปัญหาถูกสะสมและเลวร้ายมากขึ้นตลอดช่วง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ เราจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย และประเทศจะเกิดทางตัน ประเทศไทยต้องเปลี่ยนรัฐบาล ต้องเปลี่ยนผู้นำประเทศ และคำว่า “ประยุทธ์” นั้นหมายถึงองคาพยพที่ร่วมกันทำรัฐประหาร พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมแต่บุคคลที่เคยชัตดาวน์กรุงเทพฯ ส่วนคนที่กำลังเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญยืดอายุให้พล.อ.ประยุทธ์คือพวกที่ได้ดีจากพล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้น การต่ออายุให้พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้ประเทศเกิดหายนะยกกำลังสอง ต้องหยุดกระบวนการเหล่านี้” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศที่เวทีเปิดตัวและเป็นสมาชิกกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ประเทศไทยต้องไปต่อ ซึ่งตนตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์คิดว่าตัวเองคือประเทศไทย ดังนั้น ถ้าจะไปต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นคนพาไปต่อพร้อมกับการที่ตัวเองจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งหากย้อนไปเมื่อปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยการยึดอำนาจปกครองประเทศแท้จริงแล้วคือกบฏ เพราะคนที่ยึดอำนาจเมื่อทำสำเร็จก็จะนิรโทษกรรมความผิดให้ตนเองว่าการกระทำของตนเองไม่ผิด ลงโทษไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหานี้ โดยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า 1.การยึดอำนาจการปกครองประเทศ ต้องไม่มีอายุความ 2.ก้ามนิรโทษกรรม และให้ยึดถือเป็นธรรมเนียบการปกครองประเทศ


นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งองคาพยของตัวเองขึ้นมาเป็น สนช. คำถามคือ สนช.เป็นสภาเดียวออกกฎหมายอิง ม.44 แล้วระบุว่าเอามาปฏิรูปประเทศ  คำถามคือ ตอนนี้ปฏิรูปประเทศไปถึงไหน คำตอบคือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราไม่เห็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ และเมื่อมีส.ว.กลับพบว่า มีกฎหมายค้างอยู่ในสภา โดยเฉพาะพ.ร.บ.การศึกษา ซึ่งทำท่าจะไปไม่รอด ฉะนั้น การเขียนในท้ายรัฐธรรมนูญว่าจะปฏิรูปการเมือง ความจริงนั้นสวนทางกัน เพราะนับวันยิ่งเลวลง และมีความแปลก เป็น ส.ส.พรรคหนึ่ง แต่ไปโหวตให้อีกพรรคหนึ่งและมานั่งอยู่ในสภา ถึงเวลาก็โหวตให้รัฐบาล เท่ากับว่า ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการล้มเลว ซึ่งไม่เคยเห็น” นายชูศักดิ์ กล่าว

“วันดีคืนดีไปจับ ค้นห้องข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในห้องทำงาน และเมื่ออ่านข่าวก็รู้สึกแปลกประหลาดสังเวช นายตำรวจระดับสูงไปยืนเข้าแถว มีพวงมาลัยคนละพวงใส่พานไปให้รัฐมนตรี เพื่อขอบคุณ ถามว่าการเมืองประเทศไทย เป็นเช่นนี้หรือ และหากไปดูอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะไปเข้าข่ายแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ แปลว่าที่ผ่านมาปฏิรูปล้มเหลวถอดหลังลงคลอง “ นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวถึง การจัดทำรัฐธรรมนูญว่า กว่าจะได้มาต้องจัดทำ 2 รอบ และเพื่อให้สง่างามจึงไปทำประชามติ แต่กลับเลวร้ายที่สุด รณรงค์ไม่ได้ และมีคำถามพ่วงเพิ่มมาด้วย เท่ากับว่าการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจให้ตัวเอง แต่สุดท้ายรัฐธรรมนูญที่เขียนมากลับสะดุดขาตัวเอง พร้อมมองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะฉุดกระชากลากถูกประเทศแบบนี้ และคิดว่าตัวเองสำคัญ ประเทศไทยจะยิ่งดิ่งลง

“ผมรู้สึกแปลกว่าทำไมพล.อ.ประยุทธ์ มาประกาศตัว ทั้งที่ไม่รู้ว่าพรรคที่ไปสังกัดจะได้ ส.ส.ถึง25 ที่นั่งหรือไม่ แต่เมื่อไปย้อนดูจะรู้ว่าเมื่อการเลือกตั้งปี 62 พรรคเพื่อไทยมีคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่กลับมาถูกพรรคอันดับสอง รวมเสียงและจัดตั้งรัฐบาล ครั้งนี้ก็คงใช้แผนเดิมไปรวมคนจัดตั้งรัฐบาล และมีเสียง250 ส.ว. เพื่อนำพาประเทศไทยไปต่อ และการเมืองก็เป็นแบบนี้ เชื่อว่าในสภาฯ กล้วยน้ำว้าคงเต็มไปหมด”  ันพฤหัสที่ 19 มกราคม 2566” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเสนอแก้ ม.272 เพื่อสกัดไม่ให้ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ จากนั้นก็ปรากฎข่าวว่าจะมีการเสนอแก ม.158 เรื่องวาระการ ดำรงค์ตำแหน่งนายกฯ รวมถึงเรื่องคุณสมบัติ ของ ส.ส เรื่องการเว้นวรรคหลังพ้นตำแหน่ง ส.ว.2 ปี หากเป็นแบบนี้ตัวเองจะกลายเป็นยุคที่โกลาหล จึงไม่ควรใช้แผนอุบาทที่ทำอยู่

“เราจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ ดูได้จากไม่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล  เพราะมีการสร้างรัฐธรรมนูญที่ผิดเพี้ยน เช่น การสร้างพรรคพลังประชารัฐ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการ และเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. แต่วันดีคืนดีคิดเปลี่ยน และไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ทั้งที่พรรค พปชร.ก็ยังอยู่ สิ่งเหล่านี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีส.ส.ร. แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่กระบวนการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า มีหลายเหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรหยุด ตั้งแต่เรื่องข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ชี้ว่านายกฯ มีวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติ ความจริงพลเอกประยุทธ์ ควรหยุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565 แต่ในเมื่อไม่หยุดขอไปต่ออีก 2 ปี ควรคิดว่ามีประเทศอื่นใดบ้างที่นายกฯ อยู่ได้แค่ครึ่งเดียว จะบริหารนโยบายอย่างไร เผชิญวิกฤติความเชื่อมั่นอย่างไร

“สำหรับประเด็นสำนึกที่ดีซึ่งพล.อ.ประยุทธ์พยายามชูเรื่องการปฏิรูป แต่ตัวเองดำรงตำแหน่งมา 8 ปีแล้ว แต่กลับเปลี่ยนบรรทัดฐานไปเรื่อย ๆ เป็นการสร้างมรดกทางความคิดที่เลวร้ายให้คนรุ่นหลัง และเมื่ออ้างว่าเป็นผู้นำที่รักประชาชน ต้องดูด้วยว่าปฏิกิริยาของสังคมอยากไปต่อหรือไม่ ผมไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้ว่าประชาชนเกลียดตัวเอง ถ้าเป็นสมัยอดีตผู้นำมีสิทธิไม่รู้เพราะลูกน้องทูลเท็จ แต่ทุกวันนี้มีโลกโซเชียลให้รู้ได้ แต่ไม่เคารพประชาชนเท่านั้นเอง เพราะมีบทเรียนมา 8 ปี จะค้านยังไงก็ช่าง ฉันเอาอยู่” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ขณะที่สำนึกในความรักประเทศ ควรมาวัดเป็นเกณฑ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรอยู่ต่อหรือไป อยู่แล้วจะมีเรื่องดี ๆ หรือจะยุ่งเหยิงมีปัญหาเยอะ หากคิดได้ควรต้องหยุด แต่หากจะอยู่ต่อต้องลงทุนทำหลายประการ เช่น วางแผนทำพรรคเฉพาะกิน แบบสุกเอาเผากิน แทงเพื่อนหักพวก จะสร้างความเสียหายให้ประเทศ ไม่ดูบทเรียนจากพรรคพลังประชารัฐที่มาเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยอย่างทุกวันนี้

“สมมติเอา ส.ว.หักได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจะอยู่ได้ไหม วันนี้ผมเชื่อว่าประธานสภาฯ เป็นซีกเพื่อไทยแน่นอน ถ้าทำให้เราเป็นฝ่ายค้าน ประธานฯ และเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ อยู่ทางเรา คุณจะเป็นรัฐบาลที่ถูลู่ถูกัง อ่อนเปลี้ยมาก จะผ่าน พ.ร.บ.ทีก็ต้องแจกกล้วยในสภาฯ” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนยังไม่จนหนักขนาดนี้ แต่กลับมาทุบความหวังเขา ทั้งยังมาแก้ไขกฎหมาย เอามือเขียนแต่ใช้อะไรลบ ตนมองว่าหายนะจะเกิดหากไม่รู้จักพอ ควรเสียสละคนเดียวให้แผ่นดินสงบ ดีกว่าโลภคนเดียวแล้วแผ่นดินลุกเป็นไฟ อายุเท่านี้แล้วควรคิดได้ มองตามหลักธรรมชาติ ดวงอาทิตย์มีขึ้นก็ต้องมีลง 12 ชั่วโมงต้องลง ไม่เช่นนั้นโลกจะไหม้เป็นจุล แม่น้ำลำธารแห้งแล้ง นี่คือหลักธรรมะ การกำหนดวาระ 8 ปี ก็มาจากสัจธรรมแห่งอำนาจเช่นนี้

“แม้รัฐบาลจะยุบสภาฯ หนีการอภิปราย 152 ความจริงจะถูกเผยจนได้ ไม่ในสภาฯ ก็นอกสภาฯ แม้จะหนีการอภิปรายพ้น ก็จะไปรับกรรมช่วงเลือกตั้ง และท้ายสุดประชาชนจะเป็นผู้หยุดตัดสิน ด้วยการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ผ่านมา 4 ปี ทั้งนี้ยังต้องหยุดพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นหุ้นส่วนมาด้วยกัน ให้ออกไปด้วยกัน ใครบ้างนั้น เชื่อว่าประชาชนคิดเองได้” นายสุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย