ปิดสวิตช์ส.ว.-หยุดแก้รธน.เอื้อ “พล.อ.ประยุทธ์”อยู่ยาว

พรรคเพื่อไทย 17 ม.ค.-วงเสวนาเพื่อไทย เห็นพ้อง “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ควรไปต่อ ย้ำต้องปิดสวิตซ์ ส.ว. หยุดข้อเสนอแก้รธน.เอื้ออยู่ยาว


พรรคเพื่อไทยจัดเสวนา  “ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ประยุทธ์ต้องพอเถอะ” นำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นที่สุด คือการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม รวมถึงมีผู้นำที่ทุกคนยอมรับ ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงที่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น การปิดสวิตช์ส.ว.คือสิ่งที่ควรจะทำเพื่อให้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

นายจาตุรนต์ มองเจตนารมณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่ได้ต้องการอยู่ต่อเพียง 2 ปีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเห็นได้จากความพยายามของส.ว.กลุ่มสนับสนุนพล.อ.เอกประยุทธ์ โยนหินถามทางต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลดล็อกให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไม่สิ้นสุด


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่เกิดการยอมรับจากประชาชน หาช่องแก้ไขกติกาให้ตัวเองได้เปรียบ อีกทั้งงูเห่ายังเต็มสภา ใช้อำนาจและเงินในทางที่ผิด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ประชาชนสามารถหยุดได้จากการเลือกตั้ง ที่สำคัญต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ชนะ รวมถึงต้องเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาเห็นแก่บ้านเมือง ร่วมกันปิดสวิตช์ตัวเอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อได้ไม่จำกัด ต้องไม่เกิดขึ้น

“การส่งออกหยุดชะงัก โครงสร้างพื้นฐานมีปัญหา การคอร์รัปชั่นที่มากขึ้น ทุกปัญหาถูกสะสมและเลวร้ายมากขึ้นตลอดช่วง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ เราจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย และประเทศจะเกิดทางตัน ประเทศไทยต้องเปลี่ยนรัฐบาล ต้องเปลี่ยนผู้นำประเทศ และคำว่า “ประยุทธ์” นั้นหมายถึงองคาพยพที่ร่วมกันทำรัฐประหาร พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมแต่บุคคลที่เคยชัตดาวน์กรุงเทพฯ ส่วนคนที่กำลังเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญยืดอายุให้พล.อ.ประยุทธ์คือพวกที่ได้ดีจากพล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้น การต่ออายุให้พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้ประเทศเกิดหายนะยกกำลังสอง ต้องหยุดกระบวนการเหล่านี้” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศที่เวทีเปิดตัวและเป็นสมาชิกกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ประเทศไทยต้องไปต่อ ซึ่งตนตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์คิดว่าตัวเองคือประเทศไทย ดังนั้น ถ้าจะไปต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นคนพาไปต่อพร้อมกับการที่ตัวเองจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งหากย้อนไปเมื่อปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยการยึดอำนาจปกครองประเทศแท้จริงแล้วคือกบฏ เพราะคนที่ยึดอำนาจเมื่อทำสำเร็จก็จะนิรโทษกรรมความผิดให้ตนเองว่าการกระทำของตนเองไม่ผิด ลงโทษไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหานี้ โดยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า 1.การยึดอำนาจการปกครองประเทศ ต้องไม่มีอายุความ 2.ก้ามนิรโทษกรรม และให้ยึดถือเป็นธรรมเนียบการปกครองประเทศ


นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งองคาพยของตัวเองขึ้นมาเป็น สนช. คำถามคือ สนช.เป็นสภาเดียวออกกฎหมายอิง ม.44 แล้วระบุว่าเอามาปฏิรูปประเทศ  คำถามคือ ตอนนี้ปฏิรูปประเทศไปถึงไหน คำตอบคือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราไม่เห็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ และเมื่อมีส.ว.กลับพบว่า มีกฎหมายค้างอยู่ในสภา โดยเฉพาะพ.ร.บ.การศึกษา ซึ่งทำท่าจะไปไม่รอด ฉะนั้น การเขียนในท้ายรัฐธรรมนูญว่าจะปฏิรูปการเมือง ความจริงนั้นสวนทางกัน เพราะนับวันยิ่งเลวลง และมีความแปลก เป็น ส.ส.พรรคหนึ่ง แต่ไปโหวตให้อีกพรรคหนึ่งและมานั่งอยู่ในสภา ถึงเวลาก็โหวตให้รัฐบาล เท่ากับว่า ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการล้มเลว ซึ่งไม่เคยเห็น” นายชูศักดิ์ กล่าว

“วันดีคืนดีไปจับ ค้นห้องข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในห้องทำงาน และเมื่ออ่านข่าวก็รู้สึกแปลกประหลาดสังเวช นายตำรวจระดับสูงไปยืนเข้าแถว มีพวงมาลัยคนละพวงใส่พานไปให้รัฐมนตรี เพื่อขอบคุณ ถามว่าการเมืองประเทศไทย เป็นเช่นนี้หรือ และหากไปดูอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะไปเข้าข่ายแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ แปลว่าที่ผ่านมาปฏิรูปล้มเหลวถอดหลังลงคลอง “ นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวถึง การจัดทำรัฐธรรมนูญว่า กว่าจะได้มาต้องจัดทำ 2 รอบ และเพื่อให้สง่างามจึงไปทำประชามติ แต่กลับเลวร้ายที่สุด รณรงค์ไม่ได้ และมีคำถามพ่วงเพิ่มมาด้วย เท่ากับว่าการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจให้ตัวเอง แต่สุดท้ายรัฐธรรมนูญที่เขียนมากลับสะดุดขาตัวเอง พร้อมมองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะฉุดกระชากลากถูกประเทศแบบนี้ และคิดว่าตัวเองสำคัญ ประเทศไทยจะยิ่งดิ่งลง

“ผมรู้สึกแปลกว่าทำไมพล.อ.ประยุทธ์ มาประกาศตัว ทั้งที่ไม่รู้ว่าพรรคที่ไปสังกัดจะได้ ส.ส.ถึง25 ที่นั่งหรือไม่ แต่เมื่อไปย้อนดูจะรู้ว่าเมื่อการเลือกตั้งปี 62 พรรคเพื่อไทยมีคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่กลับมาถูกพรรคอันดับสอง รวมเสียงและจัดตั้งรัฐบาล ครั้งนี้ก็คงใช้แผนเดิมไปรวมคนจัดตั้งรัฐบาล และมีเสียง250 ส.ว. เพื่อนำพาประเทศไทยไปต่อ และการเมืองก็เป็นแบบนี้ เชื่อว่าในสภาฯ กล้วยน้ำว้าคงเต็มไปหมด”  ันพฤหัสที่ 19 มกราคม 2566” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเสนอแก้ ม.272 เพื่อสกัดไม่ให้ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ จากนั้นก็ปรากฎข่าวว่าจะมีการเสนอแก ม.158 เรื่องวาระการ ดำรงค์ตำแหน่งนายกฯ รวมถึงเรื่องคุณสมบัติ ของ ส.ส เรื่องการเว้นวรรคหลังพ้นตำแหน่ง ส.ว.2 ปี หากเป็นแบบนี้ตัวเองจะกลายเป็นยุคที่โกลาหล จึงไม่ควรใช้แผนอุบาทที่ทำอยู่

“เราจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ ดูได้จากไม่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล  เพราะมีการสร้างรัฐธรรมนูญที่ผิดเพี้ยน เช่น การสร้างพรรคพลังประชารัฐ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการ และเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. แต่วันดีคืนดีคิดเปลี่ยน และไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ทั้งที่พรรค พปชร.ก็ยังอยู่ สิ่งเหล่านี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีส.ส.ร. แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่กระบวนการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า มีหลายเหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรหยุด ตั้งแต่เรื่องข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ชี้ว่านายกฯ มีวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติ ความจริงพลเอกประยุทธ์ ควรหยุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565 แต่ในเมื่อไม่หยุดขอไปต่ออีก 2 ปี ควรคิดว่ามีประเทศอื่นใดบ้างที่นายกฯ อยู่ได้แค่ครึ่งเดียว จะบริหารนโยบายอย่างไร เผชิญวิกฤติความเชื่อมั่นอย่างไร

“สำหรับประเด็นสำนึกที่ดีซึ่งพล.อ.ประยุทธ์พยายามชูเรื่องการปฏิรูป แต่ตัวเองดำรงตำแหน่งมา 8 ปีแล้ว แต่กลับเปลี่ยนบรรทัดฐานไปเรื่อย ๆ เป็นการสร้างมรดกทางความคิดที่เลวร้ายให้คนรุ่นหลัง และเมื่ออ้างว่าเป็นผู้นำที่รักประชาชน ต้องดูด้วยว่าปฏิกิริยาของสังคมอยากไปต่อหรือไม่ ผมไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้ว่าประชาชนเกลียดตัวเอง ถ้าเป็นสมัยอดีตผู้นำมีสิทธิไม่รู้เพราะลูกน้องทูลเท็จ แต่ทุกวันนี้มีโลกโซเชียลให้รู้ได้ แต่ไม่เคารพประชาชนเท่านั้นเอง เพราะมีบทเรียนมา 8 ปี จะค้านยังไงก็ช่าง ฉันเอาอยู่” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ขณะที่สำนึกในความรักประเทศ ควรมาวัดเป็นเกณฑ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรอยู่ต่อหรือไป อยู่แล้วจะมีเรื่องดี ๆ หรือจะยุ่งเหยิงมีปัญหาเยอะ หากคิดได้ควรต้องหยุด แต่หากจะอยู่ต่อต้องลงทุนทำหลายประการ เช่น วางแผนทำพรรคเฉพาะกิน แบบสุกเอาเผากิน แทงเพื่อนหักพวก จะสร้างความเสียหายให้ประเทศ ไม่ดูบทเรียนจากพรรคพลังประชารัฐที่มาเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยอย่างทุกวันนี้

“สมมติเอา ส.ว.หักได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจะอยู่ได้ไหม วันนี้ผมเชื่อว่าประธานสภาฯ เป็นซีกเพื่อไทยแน่นอน ถ้าทำให้เราเป็นฝ่ายค้าน ประธานฯ และเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ อยู่ทางเรา คุณจะเป็นรัฐบาลที่ถูลู่ถูกัง อ่อนเปลี้ยมาก จะผ่าน พ.ร.บ.ทีก็ต้องแจกกล้วยในสภาฯ” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนยังไม่จนหนักขนาดนี้ แต่กลับมาทุบความหวังเขา ทั้งยังมาแก้ไขกฎหมาย เอามือเขียนแต่ใช้อะไรลบ ตนมองว่าหายนะจะเกิดหากไม่รู้จักพอ ควรเสียสละคนเดียวให้แผ่นดินสงบ ดีกว่าโลภคนเดียวแล้วแผ่นดินลุกเป็นไฟ อายุเท่านี้แล้วควรคิดได้ มองตามหลักธรรมชาติ ดวงอาทิตย์มีขึ้นก็ต้องมีลง 12 ชั่วโมงต้องลง ไม่เช่นนั้นโลกจะไหม้เป็นจุล แม่น้ำลำธารแห้งแล้ง นี่คือหลักธรรมะ การกำหนดวาระ 8 ปี ก็มาจากสัจธรรมแห่งอำนาจเช่นนี้

“แม้รัฐบาลจะยุบสภาฯ หนีการอภิปราย 152 ความจริงจะถูกเผยจนได้ ไม่ในสภาฯ ก็นอกสภาฯ แม้จะหนีการอภิปรายพ้น ก็จะไปรับกรรมช่วงเลือกตั้ง และท้ายสุดประชาชนจะเป็นผู้หยุดตัดสิน ด้วยการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ผ่านมา 4 ปี ทั้งนี้ยังต้องหยุดพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นหุ้นส่วนมาด้วยกัน ให้ออกไปด้วยกัน ใครบ้างนั้น เชื่อว่าประชาชนคิดเองได้” นายสุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย