ตลาดคลองจั่น 7 ม.ค.-“พิธา” บอก “พล.อ.ประยุทธ์” เล่นการเมืองเต็มตัว สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ไร้ราคา แค่เหล้าเก่าในขวดใหม่ เตือนระวังตกหลุมพลาง รธน.ตัวเอง ไม่ถึง 25 เสียง ปัดตอบอนาคต หากเพื่อไทยจับมือพรรคร่วมขั้วรัฐบาลบางพรรค จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง สถานภาพของรัฐบาล ว่า ชัดเจนว่ามีความแตกแยก มีการเปลี่ยนเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่ยังอยู่ในระบอบประยุทธ์แบบเดิม ไม่สามารถพาประเทศ ไปสู่อนาคตได้ จึงคิดว่าขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเป็นคำตอบของประชาชน และในพื้นที่กทม. ก็เป็นเขตที่ได้รับความนิยมสูงมาตลอด ในปี 66 พรรคก้าวไกลจะเน้นแก้ไขปัญหา กทม. ซึ่งต้องยอมรับว่าปี 62 และปี 66 สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด ความต้องการระบบสาธารณสุข เปลี่ยนแปลงชัดเจน รวมถึงปัญหาเอสเอ็มอี แรงงาน การดังนั้นพรรค ก้าวไกล จึงมีนโยบายรัฐสวัสดิการและ นโยบายด้านแรงงาน นโยบายราชการก้าวหน้าต่อต้านคอร์รัปชั่น และ นโยบายด้านเศรษฐกิจ
ส่วนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาเล่นการเมืองเต็มตัว โดยจะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมเปิดตัวในวันที่ 9 มกราคมนี้ จะทำให้ได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ เพราะมีเสียง ส.ว. 250 เสียงรออยู่ในสภาแล้ว นายพิธา กล่าวว่า ไร้ราคา เพราะเป็นระบอบเดิม ผู้เล่นเดิม เหล้าเก่าในขวดใหม่ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะมาในรูปแบบนี้ มีความแตกแยกชัดเจนมาเป็นปีแล้ว
“และถ้าย้อนหลังไปดู การกระทำที่ผ่านมา ชัดเจนว่า ไม่สามารถที่จะไปต่อได้ และแยกกันชัดเจนแล้ว พลเอกประยุทธ์อาจจะตกหลุมรัฐธรรมนูญตัวเองเขียนมาเอง ต้องมี ส.ส. ให้ครบ 25 คน ในระยะเวลาสั้นๆ พรรคจึงจะมีสิทธิ์เสนอชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แน่นอนเขาคงจะมีวิธีหรือการดึงอดีตส.ส. จากพรรคอื่นมาสังกัด เช่น นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่จะย้ายเข้ามาสังกัด พร้อม ส.ส. 7-8 คน และส.ส. อีกหลายเขตที่จะย้าย รวมถึงส.ส.เขตนี้ด้วย ซึ่งจากข่าวน่าจะไปกับพลเอก ประยุทธ์ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าจะได้ ส.ส. กลับมาจำนวนเท่าใด แต่ตนและสื่อมวลชนต้องไม่ประมาทพลังดูด อย่าให้เป็นประชาธิปไตยแบบกล้วย เพื่อที่จะให้ได้ส.ส.ครบ 25 คน เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ เชื่อว่าคนที่เป็นอำนาจนิยมและเผด็จการจะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองได้กลับมา แม้จะเป็นนายกฯคนละครึ่ง เพียงแค่2 ปี โดยไม่คำนึงถึงการแก้ปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะหาเสียงอย่างไร นายพิธา ย้ำว่าไม่ให้ราคา แต่ขณะเดียวกันจะไม่ประมาทเพราะต้องรู้เขารู้เรา กับวิธีการของเขา” นายพิธา กล่าว
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ขั้วพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค หลังเลือกตั้งอาจสวิงมาจับมือกับฝ่ายค้าน เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาขัดแย้งกันเอง นายพิธา กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตย เป็นปกติที่จะมีการจับขั้ว ต้องรอดู แต่ในส่วนอุดมการณ์พรรคอื่น ตนพูดแทนไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์ชัดเจนว่า ตนมีคำตอบ สำหรับประชาชน โดยวิธีการแบบใหม่ๆ ด้วยวิธีแบบก้าวไกล ซึ่งการรวมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ปัจจุบัน เป็นคำตอบให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ส.ว. ไม่ควรจะขวาง แต่สิ่งที่ตนยืนยันมาตลอดกับสื่อฯ คือไม่ร่วม กลับพรรคทหารจำแลง ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ผู้ซึ่งเป็นระบอบประยุทธ์ทั้งคู่ เราไม่จับมือร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถอยู่กับอุดมการณ์ในการสืบทอดอำนาจของทหารได้ จึงคิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านขณะนี้เป็นคำตอบ ที่ค่อนข้างชัดกับปัญหาความท้าทายของประเทศขณะนี้
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น เพื่อไทย มีความจำเป็นจะต้องเติมเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง พรรคก้าวไกล จะรับได้หรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่าความสัมพันธ์พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ใช่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ยังมีพรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังประชาชาติ ตนคิดว่าเหนียวแน่นมาโดยตลอด เราพยายามโฟกัสที่ภาพใหญ่ ศัตรูตัวจริงของพวกเราและประชาชนคือใคร นั่นคือ ระบอบประยุทธ์ ดังนั้นมองที่ภาพใหญ่ ในการแก้ไขปัญหาคิดว่าเราแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ในการทำงานด้วย ปีนี้เป็นปีที่สี่ได้รู้จักกันมากขึ้น ยืนยันในส่วนของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าพรรคอื่นจะพูดอย่างไร เรายังพอที่จะหาจุดร่วมในการทำงาน ร่วมกันในอนาคต เพื่อประเทศของเราได้.-สำนักข่าวไทย