รทสช. เปิดตัว 3 บิ๊ก VIP ร่วมงาน

 พรรครวมไทยสร้างชาติ 27 ธ.ค.-รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว 3 สมาชิกใหม่วีไอพี “ไตรรงค์-ชุมพล-ชัช เตาปูน” ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” เหมาะนั่งนายกฯ ต่อ เร่งแก้ทุจริต ยากจน ปฏิรูปการศึกษา ด้าน “ชุมพล” ยังอุบลูกสาวย้ายตาม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว 3 Vip เป็นสมาชิกพรรค ประกอบด้วย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชุมพล กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ 7 สมัย และ 3.นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยทั้ง 3 คนได้ลงนามเป็นสมาชิกพรรค พร้อมสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค กล่าวต้อนรับว่า ในนามของคณะกรรมการบริหารพรรคและเพื่อน ๆ น้อง ๆ รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านผู้อาวุโสทั้งทางการเมืองและเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์มาร่วมงาน ตัดสินใจที่จะมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ทั้งยังจะเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเรา


“ชื่อก็บอกว่าเราต้องการรวมคนที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน และเรามีแนวทางการเมืองต่อไปต้องเป็นการเมืองของคนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่า ที่ต้องมาช่วยกันนำความรู้ความประสบการณ์ในอดีต รวมถึงแนวทางความคิดของคนรุ่นใหม่มาร่วมกัน ที่ผ่านมาพวกเราได้รับการติดต่อและได้รับความสนใจจากนักการเมืองในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ  ขอขอบคุณทั้ง 3 ท่านที่มาร่วมงานกับพวกเรา เพื่อทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

ขณะที่นายไตรรงค์ กล่าวถึงเหตุผลการเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ตื่นเต้น เพราะได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใคร ๆ ก็ต้องการมีลมหายใจของตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ที่ผ่านมามีพรรคการเมืองสนใจอยากให้ไปร่วมงานด้วย 7-8 พรรค เพราะตนมีประสบการณ์ ส่วนที่นายกรัฐมนตรีตั้งใฟ้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ตนยินดีมากที่นายกรัฐมนตรีเชิญไปพบ ขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ เพราะมีประสบการณ์มาก ตนก็ยินดี และยังพอไหว

“แต่ผมขอไม่รับเงินเดือนตำแหน่งนี้ เพราะไม่อยากเป็นขี้ปาก แต่นายกฯ ก็ต้องการให้เบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตำแหน่งนี้ไปยังที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นความกรุณาของนายกฯ แต่ผมตั้งใจว่าจะไม่เบิก จะขอใช้เงินส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครมาระแวงว่าผมเบิกเงิน  ไม่อยากมานั่งโต้เถียงกับเรื่องไร้สาระ หลังจากเป็นที่ปรึกษานายกฯ ผมได้พูดคุยกับนายกฯ เป็นการส่วนตัวมากกว่า 2 ครั้ง ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ” นายไตรรงค์ กล่าว


นายไตรรงค์ กล่าวว่า วันนี้จะไม่พูดเยอะ เพราะเคยเป็นโฆษกรัฐบาลมาแปดปีแล้ว จึงรู้ว่าเวลาข่าวมีค่า ซึ่งความทุกข์ของตนและนายกรัฐมนตรีจะต้องแก้ไขภายใน 2 ปี ส่วนตัวรู้สึกว่านายกรัฐมนตรีน่าสงสาร เพราะนายกรัฐมนตรีไม่รู้จะระบายกับใคร จึงเข้าใจว่าทำไมจึงตั้งตนเป็นที่ปรึกษา ขอย้ำว่านายกรัฐมนตรีไม่มีเรื่องส่วนตัว มีแต่เรื่องของประชาชนและประเทศชาติ ความทุกข์ของนายกรัฐมนตรีและตนมี 3 เรื่อง คือ ความไม่สะอาด ความไม่สว่างและความไม่สงบ ต้องมีคนจัดการให้กับประเทศนี้โดยเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นมันจะยากเกินแก้

“ปัญหาแรกคือ 1.ต้องปัดกวาดประเทศนี้ให้สะอาด ประเทศเราเริ่มสกปรกเยอะมาก มีทุจริตคอร์รัปชั่นทุกวงการมากกว่าในอดีตมาก ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เมื่อก่อนเลวร้ายเก็บ 10-20 % แต่ตอนนี้เก็บ 40-50 % เราต้องแก้ไขกฏหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าว ชนตอ หรือไม่จะจบเรื่องนี้ยังไง ซึ่งปัญหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนายกฯ เป็นทุกข์มาก 2. ต้องแก้ปัญหาความยากจน คนพวกนี้อยู่ในที่มืด ต้องหาแสงสว่างให้เขาเพราะเขามีรายได้ไม่พอดำรงชีพ รัฐต้องช่วยคนกลุ่มนี้ และ 3.ต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ไม่ให้ใช้ซุปเปอร์พาวเวอร์มาปั่นหัวเด็ก ทำให้เกิดความไม่สงบในสังคม เรื่องเหล่านี้ต้องทำภายใน 2-3 ปี นายกฯ อยู่ได้อีก 2 ปี ต้องเร่งทำ” นายไตรรงค์ กล่าว

ส่วนจะมีคนนจากพรรคประชาธิปตย์ย้ายมาอีกหรือไม่ และจะเรียกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง ได้หรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่ใช่ประชาธิปัตย์สาขาสอง พร้อมย้อนถามสื่อมวลชนว่าพรรคการเมืองมีสาขาด้วยหรือ 

“นี่ไม่ใช่ธนาคาร ไม่ใช่เซเว่น พรรคการเมืองมีศักดิ์ศรี และจุดยืนของตัวเอง แต่อุดมการณ์อาจจะใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดความมั่นคง สำหรับพวกเราการจะผลักดันนโยบายแก้ปัญหาประเทศใน 3 ด้านคือ สะอาด สว่าง และสงบ และจากที่ผมมองดูขณะนี้ไม่มีใครมีบารมีซื่อสัตย์ สุจริต นอกจากพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว ต้องปราบทุจริตคอรัปชั่น” นายไตรรงค์ กล่าว

ด้านนายชัชวาลล์ กล่าวว่า เหตุผลที่มาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ คือต้องการช่วยเหลือคนจน พรรคตนเป็นพรรคเล็ก ไม่ใหญ่พอ คงทำไม่สำเร็จ จึงต้องมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมตั้งเป้านโยบายให้เด็กไทยได้เรียนฟรี ตั้งแต่อนุบาลจะจบปริญญาตรี ส่วนคนยากจน คิดว่าแนวคิดการทำบ่อนคาสิโนให้ถูกกฎหมายเพื่อนำภาษีนั้นมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยแก้ปัญหาความยากจน

ขณะที่นายชุมพล กล่าวว่า ได้กลับมาอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศเดิม ๆ เคยเป็นผู้แทนมาหลายสมัย และให้แม่บ้านเป็น วันนี้ลูกสาวก็เป็น ท้ายที่สุดก็เห็นสัจธรรม พี่น้องเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนเรื่องการเมือง ว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข การที่มาอยู่จุดนี้ ทำให้ตนมีความสุขที่จะทำให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผลักดันนโยบาย

“ผมชื่นชอบนายกฯ เป็นการส่วนตัว ถ้าผู้นำมือไม่สะอาดประชาชนจะหวังอะไรได้ วันนี้เราสรรหาคนที่เป็นผู้นำที่จะเป็นคนใจซื่อ มือสะอาด ผมติดตามดูนายกฯ คนนี้มาหลายปีแล้วท่ามกลางวิกฤติบ้านเมืองจนไม่เหลืออะไร นายกฯ คนนี้เข้ามากอบกู้ได้มากพอสมควร งานที่คั่งค้างอยู่หลายอย่าง มั่นใจว่านายกฯ จะทำสำเร็จเพื่อนำความสุขไปสู่ประเทศชาติ วันนี้ต้องขอบคุณน้อง ๆ ที่จะนำแนวคิดเหล่านี้เดินไปข้างหน้า เหนื่อยไปด้วยกัน” นายชุมพล กล่าว

เมื่อถามถึง น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จะมาเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เขาเป็นส.ส.สมัยแรก มีความคิดความอ่านของเขา สามารถตัดสินใจได้ ซึ่งขณะนี้เขาบอกว่าขอทำหน้าที่ส.ส.จนครบวาระ หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา

ส่วนในอดีตที่เคยเป็นคู่แข่งนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมีปัญหาการทำงานร่วมกันหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่พาไปทานข้าวที่บ้านตนแล้ว  ยืนยันไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะพูดคุยกันเรื่องบ้าน เรื่องเมืองอย่างเดียว ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วการเลือกตั้ง ไม่มีการแบ่งเขตแบ่งคนละครึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะเป็นเรื่องของประชาชนตัดสิน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]